ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ คาดจะกลับมาจ่ายยากัญชาได้ไม่เกินสิ้นเดือนนี้

‘เดชา ศิริภัทร’ เข้าหารือกับกรมการแพทย์แผนไทยฯ ชี้จะหยุดการผลิตและแจกจ่ายน้ำมันกัญชาเพื่อรอผ่านกระบวนทางกฎหมายก่อน เชื่อว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ อธิบดีกรมฯ คาดใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้าน แต่ต้องตรวจสอบน้ำมันกัญชาได้มาตรฐานหรือไม่

 

 

17 เม.ย. 2562 วอยซ์ทีวีรายงานว่า เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ พร้อมกับปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางเข้าหารือเป็นการภายในกับ นพ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้านของเดชา และกฎเกณฑ์ระเบียบปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ภายหลังจากรักษาด้วยสารสกัดกัญชามาระยะหนึ่ง แต่ถูกสั่งระงับ เนื่องจากไม่มีใบอนุญาต 

นพ.มรุต กล่าวภายหลังการหารือกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ว่า เดชาเข้าข่ายเป็นหมอพื้นบ้าน เพราะดูแลผู้ป่วยด้วยวิธีแพทย์แผนไทยมากว่า 10 ปี แม้ว่าจะเพิ่งใช้กัญชารักษาโรคไม่นานนัก แต่ก็มีการใช้สมุนไพรอื่นๆ ในการรักษามาก่อน ซึ่งเป็นที่ยอมรับ ทั้งนี้ได้ มอบอำนาจให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นผู้พิจารณาในการขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้านให้เดชา คาดใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ 

นพ.มรุต กล่าวว่า แม้ว่าจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นหมอพื้นบ้านแล้ว เดชายังไม่สามารถกลับไปแจกจ่ายยาได้ตามเดิม เนื่องจากต้องผ่านการอบรมแพทย์แผนไทยในการใช้กัญชากับ อย. ก่อน ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 28 เมษายนนี้ จากนั้นต้องมาดูว่าน้ำมันกัญชาที่เดชาสกัดได้ มีความปลอดภัยจากสารปนเปื้อนหรือโลหะหนักหรือไม่ ซึ่งจะต้องทำควบคู่กับหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตวิจัย มีการจดบันทึกที่ชัดเจน ส่วนผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้สารสกัดกัญชา ระหว่างนี้ให้เดชาส่งรายชื่อไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.เพื่อพิจารณาเป็นรายบุคคลต่อไป 

ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ระบุว่า ป.ป.ส. แนะนำว่าหากจะแจกจ่ายยาให้กับผู้ป่วยต่อ ต้องจดทะเบียนการเป็นหมอพื้นบ้านให้ถูกกฎหมาย รวมถึงต้องร่วมกับหน่วยงานรัฐที่ทำเรื่องการวิจัย เพื่อทำให้น้ำมันกัญชาดังกล่าวถูกกฎหมายและได้รับการรับรอง ซึ่งขณะนี้ตนได้ยื่นขอจดทะเบียนการเป็นหมอพื้นบ้านแล้ว และจะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยระหว่างนี้จะหยุดการผลิตและแจกจ่ายน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ เพื่อรอผ่านกระบวนทางกฎหมายก่อน เชื่อว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ 

ขณะที่ปานเทพ กล่าวว่า วิธีการรักษาของเดชาสอดคล้องกับวิธีการรักษาของหมอพื้นบ้าน ด้วยรูปแบบวิธีการรักษาและการเก็บตัวอย่างจากผู้ป่วยกว่า 5,000 ราย ซึ่งตนยืนยันว่าการรักษาของเดชามีความปลอดภัย เพราะใช้สารสกัดกัญชาความเข้มข้นเพียง 3% บรรจุในแคปซูล เป็นปริมาณที่ปลอดภัย แต่มีประสิทธิภาพในการรักษา ไม่มีการผลข้างเคียงที่มีความมึนเมาตามมา อีกทั้งวิธีการแจกมีการคัดกรองและฝึกอบรมการใช้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ

 

อนึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมพรชัย ชูเลิศ หรือ ‘อาจารย์ซ้ง’ เจ้าหน้าที่มูลนิธิข้าวขวัญตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังได้ออกหมายเรียกเดชา ศิริภัทร ในข้อหาครอบครองกัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่ง ณ ขณะนั้นเดชาอยู่ระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ โดยทั้งสองอยู่ระหว่างวิจัยประโยชน์ของกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์และมอบยาให้กับผู้ป่วย โดยไม่ได้แสวงหาประโยชน์ใดๆ

ต่อมาวันที่ 9 เม.ย. พรชัย ชูเลิศ ได้รับการประกันตัวในวงเงิน 600,000 บาท โดยศาลอนุมัติปล่อยตัวชั่วคราว และสำหรับเงินประกันนั้นได้รวบรวมมาจากประชาชนที่ช่วยกันบริจาค โดยบรรยากาศในวันประกันตัวมีทั้งประชาชน ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจากพรชัยและเดชา รวมทั้งมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิชีววิถี พร้อมด้วยทีมกฎหมายของพรรคภูมิใจไทยซึ่งประกาศจุดยืนเรื่องกัญชาถูกกฎหมายมาช่วยทำคดี

ต่อมาวันที่ 12 เม.ย. ป.ป.ส. ได้ออกมาแถลงว่าจะไม่แจ้งข้อกล่าวหาแก่เดชาและให้ดำเนินการตามขั้นตอนยื่นขอนิรโทษกรรมกัญชาต่อไป แต่สำหรับพรชัย ชูเลิศ หรือ 'อาจารย์ซ้ง' เมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ก็ให้เป็นไปตามกฎหมาย

วันที่ 14 เม.ย. วิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “อาจารย์ยักษ์” เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงาน ป.ป.ส. เกี่ยวกับกรณีการดำเนินคดีกับมูลนิธิข้าวขวัญซึ่งผลิตและแจกจ่ายน้ำมันกัญชาให้แก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 9 เม.ย.2562 ที่ผ่านมา ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อ.ประจิน ต่างเห็นตรงกันว่ารัฐบาลควรให้การสนับสนุนมูลนิธิดังกล่าว เนื่องจากเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์ยาจากกัญชาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย หากมีการจับกุมและสั่งให้มูลนิธิข้าวขวัญหยุดผลิตน้ำมันกัญชาก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องการใช้ยาในการรักษา

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท