ดำเนินคดีลับหลัง ศาลฎีกาฯจำคุก 'ทักษิณ' 3 ปี คดีสั่งเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้ 4 พันล้าน

ดำเนินคดีลับหลังจำเลย ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 3 ปี ทักษิณ ชินวัตร อดีตตนายกรัฐมนตรี คดีสั่ง EXIM BANK ปล่อยกู้เมียนมา 

แฟ้มภาพ ประชาไท

23 เม.ย.2562 ไทยพีบีเอสรายงานว่า วันนี้ องค์คณะผู้พิพากษาคดีการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์ สำหรับตัวเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ตามกฎหมายอาญา มาตรา 152 และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีเห็นชอบให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับรัฐบาลเมียนมาวงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของเมียนมา ซึ่งดอกเบี้ยต่ำกว่าราคาต้นทุนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเพื่อหวังประโยชน์ในธุรกิจดาวเทียม ที่สั่งซื้ออุปกรณ์จาก บริษัท ชินแซทเทอร์ไลท์ บริษัทในเครือชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของตระกูลชินวัตร 

โดยวันนี้ มีคำพิพากษาว่า ทักษิณ มีความผิดตามฟ้องมาตรา 152 ให้จำคุกเป็นเวลา 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ออกหมายจับจำเลยมาบังคับคดี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ต่อไป

ไทม์ไลน์คดี

วอยส์ออนไลน์ได้ย้อนไทม์ไลน์คดีไว้ดังนี้

ปี 2546 ในสมัยรัฐบาลทักษิณ รัฐบาล กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ได้ลงนามร่วมมือกัน เรียกว่า “ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ลุ่มน้ำอิระวดี - เจ้าพระยา – แม่โขง” หรือ ACMECS กระทรวงต่างประเทศไทยประกาศให้วงเงินกู้ (เครดิตไลน์คล้ายโอดี) แบบรัฐต่อรัฐ (G2G Loan) เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศดังที่เคยทำมาหลายปีก่อนหน้าแล้ว ราวประเทศละ 100 ล้านเหรียญ ผ่าน EXIM Bank ของรัฐบาล ในกรณีชำระค่าสินค้าหรือบริการที่ซื้อจากบริษัทไทยสำหรับโครงการสาธารณูปโภค เช่น ระบบขนส่ง ถนน สะพาน ชลประทาน โทรคมนาคม ผู้กู้ต้องเป็นหน่วยงานรัฐ รัฐบาลประเทศผู้กู้จะค้ำประกันการชำระคืนเงินกู้ (ไม่ใช่เงินช่วยเหลือให้เปล่า)

รัฐบาลทักษิณ ได้มีมติให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 4 พันล้านบาทให้รัฐบาลพม่าในขณะนั้น โดยมีเงื่อนไขว่าทางการพม่าต้องเลือกซื้อสินค้าจากไทย ซึ่งในเวลาต่อมาประเด็นดังกล่าวได้ถูกนำมาโจมตีรัฐบาลทักษิณ โดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก่อนนำไปสู่การทำรัฐประหารเมื่อปี 2549

ปี 2549 หลังการรัฐประหาร ก็มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นในวันที่ 30 ก.ย. 2549 โดย คตส. ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ในเรื่องที่ได้กระทำการให้รัฐเสียหายของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น หากพบการกระทำให้รับเสียหายจะยื่นเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช.

โดย คตส. ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์อดีตนายกฯ ทักษิณ โดยกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติเพราะใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์บริษัท เอไอเอส และ ชินแซทเทลไลท์ ในหลายกรณี ประกอบด้วย (1) ให้ทีโอทีลดส่วนแบ่งรายได้มือถือ (2) และปรับเกณฑ์การคำนวณ (3) ออกกฏหมายแปลงส่วนแบ่งรายได้เป็นภาษีสรรพสามิต (4) ให้ทีโอทีเช่าดาวเทียมทั้งที่ไม่จำเป็น (5) สั่งให้เอ็กซิมแบงค์ปล่อยกู้พม่าเพื่อซื้อดาวเทียม (6) เอาการเจรจาเอฟทีเอ เอื้อดาวเทียมแลกกับประโยชน์ของชาติ 

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงกรณีการซื้อบริการดาวเทียมไทยคม (และภายหลังไอพีสตาร์) ของรัฐบาลเมียนมานั้น เป็นการซื้อต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2541 และภายหลังจากได้รับเงินกู้ EXIM BANK ของไทย พม่าใช้ชำระค่าไอพีสตาร์ 9.5 ล้านเหรียญ (ราว 330 ล้านบาท) หรือราว 3 เปอร์เซ็นต์ของเงินกู้

ปี 2559 รัฐบาลเมียนมาชำระหนี้ EXIM BANK จนหมดพร้อมดอกเบี้ย โดยพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2561 ถึงกรณีโครงการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำมีวงเงิน 4 พันล้านบาทให้กับรัฐบาลพม่าว่า เมื่อปี 2546 ว่ารัฐบาลพม่าได้ชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยให้กับธนาคารครบทั้งหมดมาตั้งแต่ปี 2559 แล้ว ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดถือว่า ธสน. ทำตามมติคณะรัฐมนตรี ( ครม. ) ซึ่งเป็นการปล่อยกู้ปกติในลักษณะเป็นการให้ความช่วยเหลือจากประเทศที่พัฒนามากกว่า

สำหรับการดำเนินคดีนายทักษิณ ชินวัตรคดีนี้ นอกเหนือจากการตั้งคดีโดย คตส. แล้ว ยังอาศัยอำนาจตามกฎหมายพิเศษของ ป.ป.ช. โดยเมื่อปี 2560 ป.ป.ช. ได้ประกาศให้มีการพิจารณาคดีค้างเก่าที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช. ที่สามารถนำกลับมาฟ้องใหม่ได้ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 โดยยื่นคำร้องให้ศาลดำเนินคดีลับหลังจำเลยได้ ซึ่งรวมดังคดีปล่อยเงินกู้รัฐบาลพม่าด้วย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท