Skip to main content
sharethis

กกต.ยอมรับข้อผิดพลาด นับคะแนนนครปฐมเขต1 เกิดจากตัวบุคคล จนท.ทำงานหนัก ขณะที่ 'อนาคตใหม่' จี้ กกต.เลือกตั้งใหม่ยกเขต ชี้นับ 5 ครั้งคะแนนไม่ตรงกันส่อทุจริต

29 เม.ย.2562 กรณีการจัดให้มีการนับคะแนนการเลือกตั้งใหม่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. จ.นครปฐม เขต 1 ซึ่งเป็นการแข่งขันในระดับหลักสิบหลักหน่วยของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ กับพรรคอนาคตใหม่ เมื่อ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากเนื่องจากบางข่าวก็ระบุว่าผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ชนะ ขณะที่บางข่าวก็ระบุว่าผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ชนะ 

ล่าสุด มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อ‪เวลา 14.30 น.‬ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต. แถลงกรณีปัญหาการนับคะแนนดังกล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่าเกิดปัญหาในการรวมคะแนนโดยพบว่า ของหน่วยเลือกตั้งที่ 25 ใบรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง หรือส.ส. ‪5/18‬ ที่มีทั้งสิ้น 3 ชุดไม่ตรงกัน ทางสำนักงานกกต.จังหวัดนครปฐมได้มีการเชิญตัวแทนผู้สมัครทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 1 และ 2 มาเพื่อจะเปิดหีบของหน่วยเลือกตั้งที่ 25 ดูใบขีดคะแนน หรือ ส.ส.‪5/11‬ ว่าสรุปแล้วผลการนับคะแนนของหน่วยดังกล่าวเป็นอย่างไร

“ในชั้นการนับคะแนนไม่มีปัญหาเป็นที่ยุติเพราะผู้สังเกตการณ์ของทั้งสองฝ่ายต่างก็ยอมรับผลการขีดคะแนนของกรรมการนับคะแนนซึ่งใบขีดคะแนนนี้จะอยู่ในหีบ แต่มามีปัญหาตอนเอาคะแนนจากใบขีดคะแนนมากรอกในใบรายงานผลหรือส.ส. ‪5/18‬ ซึ่งมี 3ชุด คือติดอยู่ที่หน้าหน่วย ส่งกกต.เขต และส่งกกต.จังหวัด ซึ่งขณะนี้พบว่า ใบส.ส. ‪5/18‬ สองชุดตรงกัน แต่อีกหนึ่งชุดมีคะแนนแตกต่างไป จึงเชิญผู้แทนของทั้งสองพรรคมาเพื่อตรวจสอบโดยไม่ต้องนับคะแนนใหม่ และเชื่อว่าจะทราบผลคะแนนในเร็วๆ นี้” แสวง กล่าว พร้อมยอมรับว่าความผิดพลาดในการนับคะแนนกรณีดังกล่าวทั้งวันที่ 24 มี.ค. และการนับคะแนนใหม่ก่อให้เกิดปัญหาความน่าเชื่อถือขององค์กร แต่ต้องบอกว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเกิดจากตัวบุคคล เพราะกรรมการนับคะแนนหนึ่งชุดจะต้องนับคะแนนถึง 4 หน่วยถือว่างานหนักพอสมควร และในอดีตใบส.ส. ‪5/18‬ ทั้ง 3 ชุดจะใช้การก็อปปี้ด้วยกระดาษคาร์บอนเขียนครั้งเดียว แต่ก็มีปัญหาว่า ไม่ชัดตัวหนังสือเลือนหายได้ง่าย จึงเปลี่ยนมาใช้การเขียนทั้ง 3 ใบทำให้บางครั้งเกิดปัญหาการกรอกข้อมูลคลาดเคลื่อน แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าระบบการเลือกตั้ง หรือการนับคะแนนของกกต. มีความปลอดภัยระหว่างการนับและการลงคะแนน รวมถึงการเก็บรักษา ซึ่งแต่ละขั้นตอนสามารถที่จะตรวจสอบได้

เมื่อถามว่า เมื่อผลคะแนนยังไม่เป็นทางการเหตุใด ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี กกต. จึงออกมาให้สัมภาษณ์ นั้น แสวง กล่าวว่า ท่านน่าจะได้รับทราบข้อมูลในขณะนั้นซึ่งยังไม่ครบถ้วน และยังมีปัญหาเรื่องของกรอกข้อมูลอยู่

เมื่อถามต่อว่า แต่ ฉัตรไชย ใช้คำว่า พรรคอนาคตใหม่ชนะ ไม่ได้ใช้คำว่าผลคะแนนอย่างไม่ทางการนั้น เลขาธิการกกต. กล่าวว่า “ก็ชนะเบื้องต้นไง”

เมื่อถามว่า จะทราบผลการตรวจสอบผลคะแนนได้เมื่อไรเพราะแค่หน่วยเดียว แสวง กล่าวว่า เขาเพิ่งนัดกันตอนบ่ายสอง การจะเปิดหีบไม่สามารถทำได้เลย ต้องมีพยาน และผู้แทนพรรคการเมืองเพื่อให้เกิดการยอมรับ

เมื่อถามว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครปฐมจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ แสวง กล่าวว่า ไม่อยากจะโทษ เพราะการนับคะแนนใหม่ เป็นเรื่องของกกต.เขต ซึ่งผอ.กกต.จังหวัดมีหน้าที่เพียงอำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษาเท่านั้น

ด้านพรรคอนาคตใหม่ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ทั้งเขต เพื่อให้ได้มาซึ่งผลการเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรม สะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย 

โดยมีรายละเอียดของแถลงการณ์ดังนี้ 

แถลงการณ์ พรรคอนาคตใหม่ กรณีผลการนับคะแนนเลือกตั้งครั้งที่ 2 เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม

#ขอให้จัดการเลือกตั้งใหม่ เขต 1 นครปฐม ทั้งเขต หลังมีข้อเท็จจริงในหลายประการว่าการเลือกตั้ง มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง

หลังจากนางสาวสาวิกา ลิมปสุวัณณะ ผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม พบความผิดพลาดในการรวมคะแนนเลือกตั้งของกกต. จากเดิมที่กกต.ประกาศให้ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ชนะผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ 147 คะแนน แต่เมื่อนางสาวสาวิกานำคะแนนที่ได้จากกกต.รายหน่วยมาตรวจสอบใหม่ กลับพบว่าคะแนนอนาคตใหม่ชนะประชาธิปัตย์ 4 คะแนน ทำให้กกต.มีมติให้มีการนับคะแนนใหม่ทั้งเขต เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ผลคะแนนของเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดนครปฐม ถือเป็นกรณีที่มีปัญหาอย่างมาก โดยมีการแสดงคะแนนเปลี่ยนไปมาถึง 5 ครั้ง ได้แก่

24 มีนาคม กกต.ประกาศให้พรรคอนาคตใหม่แพ้ประชาธิปัตย์ 147 คะแนน ด้วยคะแนน 35,615 ต่อ 35,762

1 สัปดาห์หลังเลือกตั้ง ผู้สมัครอนาคตใหม่ขอคะแนนรายหน่วยจากกกต. มาตรวจสอบเอง พบว่าพรรคอนาคตใหม่ ชนะพรรคประชาธิปัตย์ 4 คะแนน ด้วยคะแนน 35,766 ต่อ 35,762

28 เมษายน พรรคประชาธิปัตย์ประกาศชัยชนะ ได้คะแนนมากกว่าพรรคอนาคตใหม่ 4 คะแนน ด้วยคะแนน 35,707 ต่อ 35,711

นายฉัตรชัย จันทร์พรายศรี กรรมการกกต. ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคอนาคตใหม่ชนะพรรคประชาธิปัตย์ 62 คะแนน ด้วยคะแนน 35,707 ต่อ 35,645

29 เมษายน นายจรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. แถลงว่าพรรคอนาคตใหม่แพ้พรรคประชาธิปัตย์ 4 คะแนน 35,707 ต่อ 35,711

คะแนนที่เปลี่ยนไปมาเช่นนี้ ทำให้ไม่สามารถหาข้อยุติอันชอบธรรมได้เลยว่าผลการเลือกตั้งครั้งใดถือว่าเป็นครั้งที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุไฟดับนานถึง 20 วินาทีในระหว่างการนับคะแนน และผู้สังเกตการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ได้ตรวจสอบพบเหตุผิดปกติหลายกรณี มากเกินกว่าจำนวนคะแนนที่พรรคอนาคตใหม่แพ้พรรคประชาธิปัตย์

ข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นกรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของจังหวัดนครปฐมมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือการนับคะแนนเป็นไปโดยไม่ถูกต้อง

พรรคอนาคตใหม่จึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งสั่งให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ทั้งเขต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 124 เพื่อให้ได้มาซึ่งผลการเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรม สะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net