Skip to main content
sharethis

'ธนาธร' ระบุพรุ่งนี้ต้องไปอธิบายกรณีที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นสื่อต่อ กกต. และจะนำหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์เพิ่มเติมอื่นๆ อีกมาก 

29 เม.ย.2562 จากกรณีการโอนหุ้นบริษัทวี-ลัคมีเดีย ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ต่อมามีข้อถกเถียงสำคัญเรื่องช่วงเวลาการโอนนั้นก่อนยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเท่าไหร่ และ กกต. ดำเนินการสอบสวนว่าขาดคุณสมบัติการลงเลือกตั้งหรือไม่นั้น ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ได้แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงโดยละเอียด ในกรณีนี้ อีกทั้งฝ่ายกฎหมายพรรคอนาคตใหม่ได้เข้ายื่นหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ กกต. เช่นกัน ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้รายงานการตั้งข้อสังเกตการเดินทางของ ธนาธร เพื่อกลับมาโอนหุ้น ดังกล่าวด้วยนั้น

ล่าสุดวันนี้ ธนาธร โพสต์ 3 ใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงเวลาที่ตัวเขาเดินทางโดย ธนาธร โพสต์ว่า เราเลือกที่จะทำงานการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยอย่างสันติ ตนเลือกที่จะร่วมสร้างพรรคอนาคตใหม่กับสมาชิก เพราะเราเชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านกลับสู่ประชาธิปไตยที่สันติและค่อยเป็นค่อยไปมากที่สุดคือการทำผ่านกระบวนการรัฐสภา

สังคมที่เราอยากเห็นคือสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ที่คนทุกคนเท่าเทียมกัน หลักนิติรัฐและความเป็นธรรมได้รับการเชิดชู ทรัพยากรของประเทศถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของคนส่วนใหญ่ของประเทศ สังคมสวยงามที่เรียบง่ายแต่ขณะเดียวกันก็หนักแน่นไปด้วยหลักการ แต่จนถึงวันนี้ ตนมีคดีและข้อกล่าวหาทั้งสิ้นแล้ว 6 กรณี ตนไม่มีเจตนาร้ายกับสังคม แต่แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงประเทศที่เราฝันถึง ย่อมกระทบกับผลประโยชน์ของคนกลุ่มน้อยที่พอใจกับสังคมที่ไม่มีวันพรุ่งนี้ คนกลุ่มนี้เองที่ไม่ต้องการให้เราเข้าสภา และพร้อมทำทุกอย่างที่แม้แต่จะนำประเทศไทยลงเหวเพื่อรักษาอำนาจตัวเองไว้

ธนาธร โพสต์ต่อว่า ข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นที่ตนต้องไปชี้แจงพรุ่งนี้ไม่มีมูล ไม่มีใครมีหลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์โต้แย้งหลักฐานที่เรานำเสนอได้ ตนไม่ได้ถือหุ้นสื่อในวันที่ตนสมัคร ส.ส. และ กกต. ไม่มีอำนาจในการตั้งข้อกล่าวหาและตรวจสอบตนในประเด็นนี้ ตนหวังว่า กกต. จะเป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง เป็นเสาหลักที่เข้มแข็งในการดำเนินการผลักดันสังคมให้กลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย หาก กกต. ใช้อำนาจโดยมิชอบ สุ่มเสี่ยงที่จะมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157 ตนขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฏหมายกับ กกต. ต่อไป

ธนาธร โพสต์ด้วยว่าพรุ่งนี้ต้องไปอธิบายกรณีที่เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นสื่อต่อ กกต. โดยจะนำหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ขอตนไปด้วย นอกเหนือจากหลักฐานที่ตนเสนอต่อสาธารณะไปแล้ว ยังมีเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมอื่นๆ อีกมาก เช่น

"รูปที่ 1 ใบสั่งตามรูปแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ที่สุรินทร์ในวันที่ 7 มกราคม" ธนาธร อธิบาย


.
"รูปที่ 2 ใบสั่งตามรูปแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ที่ถนนทางหลวงที่ 24 กม. ที่ 107-109 อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ วันที่ 8 มกราคม เวลา 11.41 น." ธนาธร อธิบาย


.
"รูปที่ 3 ใบสั่งตามรูปแสดงให้เห็นว่าผมอยู่ที่ถนนกาญจนาภิเษก กม. 5 (ขาเข้า) ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี วันที่ 8 มกราคม เวลา 14.45 น." ธนาธร อธิบาย
.


"รูปที่ 4 และ 5 เนื่องจาก ม.จ. จุลเจิม ยุคล ได้เขียนข้อความทวงถามต้นขั้วเช็คผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยชื่อโดยตรง ผมสันนิฐานว่าเขาเขียนถึงผม ถ้าเจ้าตัวไม่มีเจตนาเขียนถึงผม ผมขอโทษมา ณ ที่นี้ รูปนี้แสดงให้เห็นว่าต้นขั้วเช็คเรียงลำดับอย่างถูกต้อง และสอดคล้องกับหมายเลขเช็คที่แถลงไปก่อนหน้า ไม่มีการทำเช็คย้อนหลังอย่างที่หลายคนพยายามกล่าวหาแต่อย่างใด ท่านที่ยังสงสัยสามารถสอบถามไปยังธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้ถึงการเรียงเบอร์ตามต้นขั้วดังกล่าว" ธนาธร อธิบาย


.
"รูปที่ 6 แสดงให้เห็นถึงเส้นทางการเดินทาง และการยืนยันหลักฐานที่อยู่และเวลาตามใบสั่งในรูปก่อนหน้า และตามใบเสร็จทางพิเศษที่ชี้แจงไปก่อนหน้า ทุกท่านจะเห็นได้ว่าเวลาและที่อยู่สอดคล้องกันทั้งหมด" ธนาธร อธิบาย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net