Skip to main content
sharethis

กกต.ประชุมนัดพิเศษพิจารณาสำนวนคำร้องคัดค้านและคาดหารือแนวทางการประกาศรับรอง ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ตามที่กฎหมายกำหนด พรุ่งนี้ (7 พ.ค.) เตรียมประกาศรับรอง ส.ส.เขตทั้ง 349 เขตทั่วประเทศ ด้าน 'เรืองไกร' ขอ กกต. รอศาล รธน. ก่อนรับรอง ส.ส.

6 พ.ค. 2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งนัดพิเศษโดยมีนายอิทธิพล บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานการประชุม วาระประชุมนอกจากพิจารณาสำนวนคำร้องคัดค้านแล้ว ที่ประชุมยังพิจารณาถึงแนวทางการประกาศรับรอง ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ตามที่กฎหมายกำหนด ซี่งในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) จะเป็นการประกาศรับรอง ส.ส.เขต และจะมีการแถลงข่าวในช่วงบ่าย คาดว่าจะรับรอง ส.ส.เขต 349 เขต ส่วนอีกหนึ่งเขตที่ไม่ได้ประกาศรับรองคือเขต 8 เชียงใหม่ ที่ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดในเขตนั้นถูก กกต.สั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่ทั้งเขต ในวันที่26 พฤษภาคมนี้ 

ส่วนวันที่ 8 พ.ค. จะมีการประกาศรับรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะประกาศในช่วงบ่ายเช่นเดียวกัน เนื่องจากต้องรอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคำร้องที่ให้วินิจฉัยวิธีคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 91 หรือไม่ ซึ่งศาลได้นัดแถลงด้วยวาจาและลงมติในช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ค.

'เรืองไกร' ขอ กกต. รอศาล รธน. ก่อนรับรอง ส.ส.

ด้านนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ เปิดเผยถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีการคำนวนสูตร ส.ส.ปาร์ตีลิสต์ และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจาและลงมติในวันที่ 8 พ.ค. 2562 ว่าคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญน่าจะออกมาในลักษณะ 2 ลักษณะ คือ ขัดหรือแย้งต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้งมาตรา หรือขัดเฉพาะอนุมาตราเท่านั้น และส่วนใดไม่ขัดหรือแย้งก็บังคับใช้ต่อไป ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาล และควรรอศาลวินิจฉัยออกมาก่อนถึงค่อยประกาศรับรอง ส.ส. เนื่องจากยังมีเวลาจนถึงวันที่ 9 พ.ค.2562 ถึงครบกำหนด 150 วัน 

“หาก กกต.ยืนยันที่จะชิงประกาศรับรอง ส.ส. ก่อนในวันที่ 7 พ.ค.ตามที่มีกระแสข่าวออกก่อนหน้านี้ จะทำให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน รวมทั้งจะทำให้เกิดเดดล็อกทางการเมือง และจะมีผลกระทบต่อการประกาศรายชื่อ ส.ว.ด้วย  ดังนั้น จึงขอให้ กกต. คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนร่วม และอย่าดันทุรัง พยายามทำให้ประเทศเกิดทางตันทั้งที่มีทางออก พร้อมทั้งฝากความหวังไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยหวังว่าศาลจะมีอภินิหารทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดข้อยุติได้ และเพื่อให้ประเทศมีทางออก" นายเรืองไกร ระบุ

ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2]

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net