Skip to main content
sharethis

วอยซ์ทีวีออกแถลงการณ์ประกาศคืนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ให้ กสทช. ตามนโยบายเยียวยาผู้ประกอบการ ระบุ จะดำเนินงานต่อบนทีวีดาวเทียมและออนไลน์ จบเส้นทางบนสายดิจิทัลทีวีไว้ที่ 5 ปีและการถูกลงโทษในรัฐบาล คสช. สำหรับการนำเสนอเนื้อหาจำนวนมากที่สุดในหมู่ช่องทีวีที่ 21 ครั้ง นอกจากวอยซ์แล้วยังมีสปริงนิวส์และอีกช่องที่ยังไม่ทราบชื่อต่างเข้าคืนใบอนุญาตฯ เช่นกัน

10 พ.ค. 2562 สถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวีมีแถลงการณ์เรื่องการคืนช่องทีวีดิจิทัล Voice TV 21 ตามนโยบายเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลผ่านคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม

ม.44 อุ้มค่ายมือถือ ยืดจ่ายค่าประมูล 10 ปี ทีวีคืนคลื่นได้-งดจ่ายค่าธรรมเนียม 3 งวด

แถลงการณ์ที่ลงชื่อโดยเมฆินทร์ เพชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารวอยซ์ ทีวี ระบุว่า บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด ตัดสินใจคืนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ พร้อมเตรียมแผนพัฒนาธุรกิจเพื่อทำหน้าที่เสนอข้อมูลข่าวสารและพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณภาพต่อไปในช่องทางอื่นๆ คือทีวีดาวเทียมและสื่อออนไลน์โดยจะไม่มีการยุติการดำเนินงานแต่อย่างใด

วอยซ์ ทีวี 21 จะออกอากาศผ่านระบบดิจิทัลจนถึง 31 ก.ค. นี้ และในระหว่างวันที่ 1-31 ก.ค. จะดำเนินการออกอากาศคู่ขนานผ่านระบบดิจิทัล ดาวเทียมและแพลตฟอร์มออนไน์หลักคือเฟสบุ๊คและยูทูป โดยแถลงการณ์ยังยืนยันว่าวอยซ์จะเป็นสถานีวิเคราะห์ข่าวที่เข้มข้น มีคุณภาพ ถูกต้องรอบด้าน ยืนหยัดหลักประชาธิปไตย ส่วนช่องดาวเทียมที่วอยซ์จะดำเนินรายการต่อนั้นจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป

“วอยซ์ทีวีขอขอบพระคุณผู้มีอุปการคุณ ผู้ชม ผู้ดำเนินรายการ เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนสื่อมวลชนที่สนับสนุน ติดตามข่าวสาร รวมถึงส่งเสริมและปกป้องวอยซ์ทีวีในยามที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคในรูปแบบต่างๆ มาโดยตลอด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะให้การสนับสนุน ติดตามติชมการทำงานของวอยซ์ทีวีต่อไป ซึ่งผู้บริหารและทีมงานจะยืนยันทำงานที่มีคุณภาพเพื่อสร้างข้อมูลข่าวสารที่มีคุณค่าให้กับสังคมไทยต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง” เมฆินทร์ระบุผ่านแถลงการณ์

นอกจากวอยซ์ทีวีแล้วยังมีอีกสองสถานีที่ขอคืนใบอนุญาตฯ รายงานข่าวจากประชาชาติระบุว่ามีสปริงนิวส์ 19 และอีกช่องนั้นยังไม่ได้รับรายงาน

วอยซ์ทีวีออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2552 ผ่านระบบดาวเทียม ก่อนเริ่มออกอากาศภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2557 ภายใต้รัฐบาลรัฐประหารของ คสช. วอยซ์ ทีวีถูกลงโทษไปแล้วหลายครั้ง ข้อมูลจากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) รายงานว่าวอยซ์ทีวีเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ถูก กสทช. ลงโทษมากที่สุดหลังการรัฐประหารปี 2557 ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 2557-3 ก.ค. 2561 วอยซ์ทีวีถูก กสทช. มีคำสั่งลงโทษถึง 21 ครั้ง นับว่ามากที่สุดในหมู่สื่อมวลชนด้วยกัน มาตรการที่โดนมีทั้งการตักเตือน ทำความเข้าใจ ปรับปรุงเนื้อหารายการ ปรับเงิน พักออกอากาศรายการ ระงับการดำเนินงานของพิธีการไปจนถึงระงับการออกอากาศทั้งสถานี

เมื่อ 27 มี.ค. 2560 วอยซ์ทีวียุติการออกอากาศทั้งสถานี หลังจากถูกกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) สั่งพักใบอนุญาตเป็นเวลา 7 วัน โดยอ้างว่าวอยซ์ทีวีมีการกระทำผิดซ้ำเดิม ให้ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสนยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยก

เมื่อเดือน มี.ค.2561 รายการ Tonight Thailand โดน กสทช. ระงับออกอากาศ 15 วัน หลังรายงานและวิเคราะห์กรณี "หน้ากากยุทธ์น็อคคิโอ" และครบรอบ 10 ปีทักษิณกราบแผ่นดิน ออกอากาศเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณาเนื้อหาและสาระสำคัญของรายการในวันดังกล่าว เห็นว่าการนำเสนอมีลักษณะส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร จึงห้ามมิให้ออกอากาศในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ ตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศ คสช. ฉบับที่ 130/2557

ดาบ โซ่ แส้ กุญแจมือ: เปิดเครื่องมือเชือด Voice TV และเนื้อหา 3 รายการที่โดนลงโทษ

วอยซ์ทีวีไลฟ์นาทีจอดับ ชวนติดตามประวัติศาสตร์ช่วงยุติออกอากาศ 7 วัน

กสทช. ปิด 'วอยซ์ ทีวี' 15 วัน เหตุเนื้อหาขัด ก.ม. ซีอีโอชี้ เลือกปฏิบัติ-ลุแก่อำนาจ

และในวันที่ 12 ก.พ. 2562 บอร์ด กสทช. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ช่อง 21 ระงับการออกอากาศวอยซ์ทีวี 15 วัน ต่อมาคำสั่งดังกล่าวถูกศาลปกครองเพิกถอนไป ถือเป็นครั้งแรกที่มีการลงโทษสื่อภายหลังพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ประกาศใช้เมื่อ 23 ม.ค. 2562

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net