Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


ภาพประกอบจาก: https://ilaw.or.th/node/5258

ได้เห็นความพยายาม “ปั่นข่าว” หรือ “เต้าข่าว” ของนักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่มาจากการเลือกตั้งและสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก ว่าขณะนี้พวกเขามีเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาล่างแล้ว ก็รู้สึกแปลกใจและสงสัยในวิธีคิดของบรรดานักการเมืองเหล่านั้น ว่าพวกเขาทำไมจึงคิดและพูดเช่นนั้นได้

พวกเขาเหล่านั้น “ไม่รู้” หรือหลงลืมไปว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่เข้ามายึดอำนาจของประชาชน ฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วตั้งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ควบคุมบังคับบัญชาการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม ละเมิดสิทธิและเสรีภาพด้วยข้อกฎหมายหลายๆฉบับ ทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาวะที่น่าเป็นห่วงทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและความเชื่อมั่นเชื่อถือ ในสายตาความรู้สึกของทั้งคนในและนอกประเทศ

และยังเห็นนักการเมืองและพรรคการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จนถึงนาทีนี้ก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้าน การกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบวางตัวเฉยๆเพราะเป็นพรรคเล็ก หรืออ้างว่าต้องรอฟังเสียงจากประชาชนและอีกสารพัดข้ออ้าง ทำให้คนในสังคมเข้าใจว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองในกลุ่มนี้ กำลังต่อรองตำแหน่ง หรือกำลังมองหาประโยชน์จากทางการเมือง และความขัดแย้งเฉพาะหน้าที่กำลังปรากฎอยู่

เพราะกลุ่มแรกนั้นชัดเจนว่าอาศัย “เสื้อคลุม” ประชาธิปไตยเพื่อ “แปลงร่าง” ผู้นำคณะรัฐประหารที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ ให้เป็น นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเสนอชื่อของพวกเขาที่มาจากการเลือกตั้ง โดยไม่สนใจว่าจะมีความเหมาะสมกับการบริหารจัดการประเทศแก้ปัญหาให้กับประชาชนในขณะนี้หรือไม่ โดยหวังเพียงแค่ให้มีโอกาสเข้าไปมีอำนาจร่วมกันเท่านั้น จะ “ชอบธรรม”ในความรู้สึกของผู้คนทั่วไปหรือไม่ “ไม่สนใจ”

สรุปรวมก็คือว่า นักการเมืองทั้งสองกลุ่มที่ได้เห็นนั้น ผู้เขียนชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าพวกเขาเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้งของประชาชนหรือไม่ เพราะถ้ามาจากประชาชนก็ควรจะฟังเสียงของประชาชน ที่ปรากฎผ่านผลการเลือกตั้ง

มีหลักฐานและข้อบ่งชี้มากมายว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาล่าสุดนั้น ประชาชนปฏิเสธไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ประชาชนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง หรือต้องการคนอื่นที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวมมากกว่าที่ผ่านมาตลอด 5 ปี อาทิ คะแนนเสียงของจากฝ่ายพรรคการเมืองที่ประกาศอย่างชัดเจนก่อนการเลือกตั้งว่า ไม่เอา ไม่สนับสนุน และองคาพยบในการสืบทอดอำนาจ

พรรคการเมืองแทบจะทุกพรรค (ยกเว้นพลังประชารัฐ,รวมพลังประชาชาติไทย,ประชาชนปฏิรูป)พูดและสัญญากับประชาชนว่า จะไม่เอาไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่จนถึงนาทีนี้ยังมีพรรคการเมืองอีกหลายพรรคและนักการเมืองอีกหลายคน ที่ดูเหมือนว่าพร้อมที่จะสนับสนุนคนที่มาจากการรัฐประหารให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว รัฐบาลที่กำลังจะมีการจัดตั้งเป็นรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมี”ความชอบธรรม” หรือ “ยอมรับ” ในความรู้สึกของประชาชนและชาวโลกได้อย่างไร เพราะด้วยความเชื่อที่ว่า กลไก เงื่อนไข ข้อกฎหมายต่างๆ ที่เห็นๆกันอยู่ก็มากเกินพอที่ประชาชนจะยอมรับได้อยู่แล้ว ทั้งปวงล้วนแต่เป็นสิ่งที่ควรเชื่อได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ สร้างและกำหนดขึ้นทั้งสิ้น มิพักนำไปรวมกับพฤติกรรมต่างๆที่ปรากฎ เช่นการคิดสูตรคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ

รัฐบาลที่ไร้ซึ่งความชอบธรรมและการยอมรับ ผู้คนทั่วไปขาดความเชื่อถือเชื่อมั่น จะบริหารจัดการประเทศ ให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขได้อย่างไร?

รังแต่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งและความวุ่นวาย หาความสงบสุข กินดีอยู่ดีไม่ได้ “ความชอบธรรม” จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควร”มองข้าม”

ผู้เขียนขอฝากคำถามไปยังพรรคการเมืองอีกหลายๆพรรคฯ ที่เคยมีสัญญาให้ไว้กับประชาชนผู้ลงคะแนนอีกครั้งว่า ท่านทั้งหลายจะยอมให้ประชาชน ประเทศชาติ ดำเนินต่อไปท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้หรือ?

และขอเตือนว่ายังไม่สายเกินไป ที่ท่านทั้งหลายจะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ในโอกาสที่สำคัญเช่นนี้ ด้วยการร่วมมือกัน กอบกู้ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ให้กลับคืนมา เพื่อสร้างหนทางไปสู่การแก้ปัญหาให้กับประชาชนในโอกาสต่อๆไป

โอกาสสุดท้ายของพวกท่านแล้ว จริงๆนะ ขอบอก…!!

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net