Skip to main content
sharethis

14 พ.ค. 2562 หลังจากมีการโปรดเกล้าแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา 250 คน ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้กรณีดังกล่าวโดยระบุว่า การมีอยู่ของวุฒิสภาถือเป็นอีกหนึ่งสนามของการต่อสู้ช่วงชิงกันระหว่างอำนาจที่ได้มาจากการเลือกตั้ง และอำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง โดยในครั้งนี้สมาชิกวุฒิสภากลับมาใช้การแต่งตั้งทั้งหมดแล้ว

ปิยบุตร กล่าวว่า การเขียนรัฐธรรมนูญในเรื่องที่มาของวุฒวิสภา เป็นการช่วงชิงกันของพลังทางการเมืองสองฝ่าย ระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนให้อำนาจมาจากการเลือกตั้ง กับฝ่ายที่ไม่ต้องการอำนาจที่มาจากการเลือกตั้ง หากเราออกแบบ ส.ว. ว่า จะมาจากไหน ก็ต้องถามก่อนว่า จะเอา ส.ว. มาทำอะไร ถ้าต้องการให้วุฒิสภามีอำนาจมากเหมือนกันสหรัฐอเมริกา เขาก็จะมาจากการเลือกตั้ง แต่ถ้า ส.ว. มีอำนาจน้อย มีหน้าถ่วงดุลกลั่นกรองการตรากฎหมายเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจชี้ขาดการตรากฎหมาย อาจจะมีที่จากการเลือกตั้งทางอ้อม หรือแต่งตั้ง แต่กรณีของประเทศไทยไม่ได้ออกแบบ ส.ว. โดยคิดจากฐานนี้ โดยออกแบบให้ ส.ว. มีอำนาจมาก และได้มาจากการแต่งตั้ง

เขากล่าวต่อไปถึงรัฐธรรมนูญปี 2540 มีการออกแบบให้ ส.ว. มีอำนาจมาก สามารถภอดภอน และแต่งตั้งบุคคลไปดำรงตำแหน่งต่างทางการเมืองได้ ส.ว. จึงได้มาจากการแต่งตั้งทั้งหมด ขณะที่รัฐธรรมนูญ 2550 ส.ว. ยังทีอำนาจเช่นเดิม แต่มีการเปลี่ยนกฎหมายให้มีการเลือกตั้งครึ่งหนึ่ง และแต่งตั้งครึ่งหนึ่ง แต่ในรัฐธรรมนูญ 2560 ส.ว. มีอำนาจมาที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะสามารถลงมติให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ด้วย แต่มีที่มาจากการแต่งตั้งทั้งหมด และที่สำคัญเป็นการแต่งตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อการรัฐประหาร จึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าวุฒิสภาที่มีอยู่นี้คือ เครื่องมือสืบทอดอำนาจของ คสช.

เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า เมื่อคณะรัฐประหารยึดอำนาจได้ ที่สุดก็จะต้องมีการลงจากอำนาจ แต่ทุกครั้งจะมีการออกแบบเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจไว้เสมอ เช่น ใช้พรรคการเมืองเพื่อสนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ใช้ ส.ว. เป็นกลไกสำคัญ และออกแบบรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง

“การเลือกตั้งที่ผ่านมา ประชาชน 51 ล้านคน เลือก ส.ส.ได้ 500 คน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คนเดียวตั้ง ส.ว. ได้ 250 คน ซึ่ง ส.ส. 1 คนจะต้องได้คะแนน  7.1 หมื่นเสียง ก็หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวมี 17.7 ล้านเสียง แล้วรัฐธรรมนูญเขียนว่า ส.ว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ปัญหา คือ ส.ส.มาจากการเลือกตั้ง แต่ถามว่า 250 ส.ว.เป็นผู้แทนได้อย่างไร ในเมื่อปวงชนชาวไทยไม่ได้เลือก และไม่เคยรู้รายชื่อผู้ที่จะเป็น ส.ว. ดังนั้น ส.ว.ไม่ใช่ผู้แทนปวงชนชาวไทย แต่เป็นผู้แทนของ คสช.”  ปิยบุตรกล่าว

ปิยบุตร กล่าวอีกว่า มาตรา 114 ของรัฐธรรมนูญเขียนว่า ส.ส.และ ส.ว.ต้องไม่อยู่ในความผูกมัดครอบงำภายใต้อาณัติมอบหมายของใคร แต่ ส.ว.แต่งตั้งอยู่ภายใต้อาณัติมอบหมายโดย คสช.หรือไม่ อีกทั้งในรัฐธรรมนูญ มาตรา 114 ยังระบุด้วยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ ส.ส.และ ส.ว.ต้องไม่ขัดกันโดยผลประโยชน์ เมื่อถึงการเลือกนายกรัฐมนตรี ขอให้จับตาว่า ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. จะกลับมาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ถ้าใช่ จะถือว่าเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่  ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งมา แต่วันแรกที่ใช้อำนาจกลับมาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ลักษณะนี้ จะขัดมาตรา 114 หรือไม่

“ดังนั้นขอเรียกร้องให้ ส.ว.เคารพประชาชน ใช้อำนาจหน้าที่ครั้งแรกในสภาฯ ไปในทางที่หยุดการสืบทอดอำนาจของ คสช. ต้องไม่ลืมว่าวันนี้ได้เป็น ส.ว.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีอำนาจกดดันได้อีกแล้ว ดังนั้นจงใช้อำนาจหน้าที่ของคุณเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ผู้แทน คสช. จะใช้อำนาจโดยไม่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามมาตรา 114”

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ได้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 แล้ว และตามความในมาตรา 121 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย กำหนดให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาภายใน 15 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป โดยให้ถือเป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 121 มาตรา 122 และมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา  ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป

 

เรียบเรียงบางส่วนจาก: สำนักข่าวไทย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net