Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ผมคิดว่าในการเปิดประชุมสภาวันที่ 5 มิถุนายน นี้ ส.ส. และ ส.ว. ไม่ควรโหวต “ลุง” เป็นนายกฯ ด้วยเหตุผลดังนี้

1. “ลุง” มาจากพรรคการเมืองที่ทำลายกติกาและมารยาททางการเมือง เพราะนอกจากชื่อพรรคการเมืองนี้จะจงใจตั้งให้พ้องกับนโยบายรัฐบาลเพื่อให้จดจำง่ายและใช้ประโยชน์ในการหาเสียง บรรดาผู้บริหารพรรคก็เป็นรัฐมนตรีที่ชิงเก็บคะแนนล่วงหน้าในช่วงเวลาที่พรรคการเมืองอื่นยังถูกห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และแม้ต่อมาผู้บริหารพรรคเหล่านี้จะลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีเพราะกระแสกดดันของสังคม แต่ “ลุง” ก็ยังดึงดันที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อแม้จะตอบรับคำเชิญการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรคนี้แล้ว

นอกจากนี้ แม้จะได้จำนวน ส.ส. เป็นลำดับสอง แต่พรรคการเมืองนี้ก็ยังหน้าด้านอ้าง popular votes อย่างผิดๆ ในการอ้างความชอบธรรมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและเดินสายส่งเทียบเชิญพรรคการเมืองอื่นเข้าร่วมพร้อมกับโหวต “ลุง” เป็นนายกฯ และเมื่อถูกพรรคการเมืองอื่นต่อรองมากเข้า พรรคการเมืองนี้ก็ทำท่าจะไปพึ่งพา ส.ว. ที่ คสช. แต่งตั้งมาในการโหวต “ลุง” เป็นนายกฯ แล้วตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ก็ขู่ว่าจะยุบสภาแทน หากไม่หยุดกระบวนการนี้ไว้ประเทศก็จะไม่เหลือกติกาและมารยาททางการเมืองให้ยึดถือกันต่อไปอีก

2. “ลุง” เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา เพราะ “ลุง” และพรรคการเมืองนี้เป็นร่างทรงของคณะรัฐประหารที่ต้องการสืบทอดอำนาจด้วยการบิดเบือนระบอบประชาธิปไตยและทำลายระบบรัฐสภา ระบบการเลือกตั้งไม่เพียงแต่ถูกออกแบบมาเพื่อสลายความเข้มแข็งของพรรคการเมือง หากแต่ยังบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนด้วยการทำให้จำนวน ส.ส. เขตผกผันกับจำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อ และยิ่งบวกกับวิธีการคำนวณเก้าอี้ ส.ส. ของ กกต. ด้วยแล้ว เจตนารมณ์ของประชาชนก็ยิ่งหล่นหายและกลายเป็นช่องทางเข้าสู่สภาของ ส.ส. กเฬวรากจำนวนมาก

ขณะที่ในส่วนของระบบรัฐสภา นอกจากจะย้อนเวลากลับไปให้ ส.ว. มาจากการแต่งตั้ง ยังให้อำนาจ ส.ว. โหวตนายกฯ รวมถึงผ่านกฎหมายโดยความร่วมมือของศาลรัฐธรรมนูญในบางกรณี เพราะเชื่อว่า ส.ว. เหล่านี้จะอยู่ใต้อาณัติและตอบแทนบุญคุณด้วยการโหวต “ลุง” ที่แต่งตั้งพวกเขามาเป็นนายกฯ รวมถึงสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ ในสภา รัฐสภาจึงไม่ได้เป็นสถานที่ที่ตัวแทนประชาชนเข้ามาทำหน้าที่ในลักษณะตรวจสอบถ่วงดุลกัน หากแต่เป็นช่องทางให้คณะรัฐประหารได้บงการประเทศต่อไปอย่างไม่ชอบ วิธีเฉพาะหน้าที่จะกู้วิกฤติประชาธิปไตยและรัฐสภาได้ก็คือการไม่โหวต “ลุง” เป็นนายกฯ

3. “ลุง” ไม่สามารถพาประเทศฝ่าวิกฤติได้ เพราะนอกจาก “ลุง” จะไม่ตระหนักว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา “ลุง” ยังขาดคุณสมบัติผู้นำอย่างรุนแรง “ลุง” ไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ได้เมื่อเผชิญคำถามยากหรือไม่ถูกใจ แทนจะใช้เหตุผลและข้อมูลในการหักล้าง “ลุง” กลับใช้กริยาเกรี้ยวกราดหยาบคายยุติการซักถามเสีย แล้วอย่างนี้ “ลุง” จะรับมือกับการอภิปรายในสภาได้อย่างไร ขณะเดียวกัน “ลุง” ก็ไม่มีสติปัญญาพอที่จะจับใจความสำคัญของหนังสือที่ใครก็เข้าใจหรือไม่ “ลุง” ก็ไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนั้นเลย

ที่ผ่านมา “ลุง” อาจช่วยให้ประเทศดูสงบเพราะอาศัยรถถังและกฎหมายเถื่อน แต่ก็เป็นเพียงภาพลวงตาและรอเวลาปะทุมากกว่าเก่า เพราะในด้านหนึ่งก็มีความไม่พอใจที่ “ลุง” และพวกไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปตามที่ให้สัญญาไว้ได้ ผู้เห็นต่างที่บางส่วนถูกจับกุมคุมขัง ข่มขู่คุกคามและรุมทำร้าย กลายเป็นศพอย่างปริศนาหรือว่าหายตัวอย่างไร้ร่องรอยก็สั่งสมความคับแค้นมากขึ้นทุกวัน ไม่นับรวม “คนรุ่นใหม่” ที่ผิดหวังและเจ็บแค้นใจกับการถูก "ฉ้อโกง" ผลการเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิต ขณะที่การดำเนินนโยบายรัฐแบบสมคบทุนใหญ่แล้วเจียดกำไรมาสงเคราะห์คนอนาถาได้ก่อปัญหาและผลกระทบในวงกว้างท้ังต่อบุคคล ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ไม่จำกัดว่าจะสนับสนุนขั้วการเมืองไหน ประเทศชาติและประชาชนจะเป็นอย่างไรหากให้ “ลุง” และพวกปกครองประเทศต่อไปอีก

ผมจึงคิดว่า ส.ส. และ ส.ว. ไม่ว่าจะเข้ามาด้วยวิธีไหน สง่างามหรือไม่ จะต้องถามตัวเองให้หนักว่ารู้อย่างนี้แล้วในวันที่ 5 มิถุนายน นี้ ยังจะโหวตให้ “ลุง” เป็นนายกฯ อีกหรือ จะเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะกลุ่มเฉพาะหน้า จะเลือกตอบแทนบุญคุณด้วยความขลาดเขลา หรือว่าจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และร่วมกันสร้างนิติรัฐและนิติธรรม ก็เลือกเอาว่าพวกคุณอยากจะถูกจดจำอย่างไร

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: Facebook Anusorn Unno

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net