'ราเมศ รัตนะเชวง' โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟสบุ๊ค กรณีทำร้าย 'สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์' หรือ 'จ่านิว' ตำรวจจะต้องดำเนินการหาผู้กระทำมาดำเนินการตามกฎหมายบ้านเมืองให้ถึงที่สุด 'จาตุรนต์' ชี้การปล่อยให้มีการทำร้ายร่างกายนักกิจกรรมที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจเป็นการกระทำที่ต่ำช้าเลวทราม 'จตุพร-สันธนะ' รุดเยี่ยมมอบสร้อยพระเรียกขวัญ 'อังคณา' กังวล ทำไมเหตุทำร้าย 'เอกชัย-จ่านิว' ไม่เคยนำตัวคนร้ายมาลงโทษได้

3 มิ.ย. 2562 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ค ถึงกรณี นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ 'จ่านิว' ถูกทำร้ายเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมาว่า

"การทำร้าย “นายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว” ไม่ทราบว่าเกิดจากเหตุใด แต่เรื่องดังกล่าวนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินการหาผู้กระทำมาดำเนินการตามกฎหมายบ้านเมืองให้ถึงที่สุด ไม่เคยรู้จักจ่านิวเป็นการส่วนตัว แต่เขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่รัฐจะต้องให้ความคุ้มครอง อย่าปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปโดยไม่รู้ตัวผู้กระทำ ผบ.ตร ต้องจัดการเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว

ขอบคุณภาพจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด"

‘จาตุรนต์’ ชี้ การปล่อยให้มีการทำร้ายร่างกายนักกิจกรรมที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจเป็นการกระทำที่ต่ำช้าเลวทราม

ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ แกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้ โดยระบุว่า

"การปล่อยให้มีการทำร้ายร่างกายนักกิจกรรมที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจเป็นการกระทำที่ต่ำช้าเลวทราม ไม่สงสัยกันบ้างหรือว่าทำไมการสืบทอดอำนาจจึงต้องอาศัยวิธีสกปรกโสมมทุกขั้นตอนเช่นนี้ #หยุดทำร้ายผู้เห็นต่าง #หยุดการกระทำที่ป่าเถื่อน"

'จตุพร-สันธนะ' รุดเยี่ยมมอบสร้อยพระเรียกขวัญ

สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เดินทางมาเยี่ยมนายสิรวิชญ์ ที่นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมิชชั่น โดยนำสร้อยพระที่มีพุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัยมามอบให้จ่านิวด้วย

นายจตุพร กล่าวว่าเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของจ่านิว จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม หาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ รวมทั้งอยากให้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดจะเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งและรุนแรงครั้งใหม่ หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายนายเอกชัย หงส์กังวาน และจ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ตนไม่ทราบว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือเปล่า แต่ลักษณะการก่อเหตุคล้ายคลึงกัน พร้อมระบุ ไม่รู้จะเกิดขึ้นอะไรกับนักเคลื่อนไหวคนอื่นๆ อีก เรื่องนี้มันเกินไป และจะนำพาประเทศไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงครั้งใหม่ วันนี้เราอยู่ในสังคมมนุษย์ไม่ใช่อยู่ในสังคม Animal Farm ไม่ใช่ใครเห็นต่างจะต้องฆ่ากัน

ขณะเดียวกัน นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาล ประธานกรรมการ บริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง ได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายสิรวิชญ์ เช่นกัน โดยเปิดเผยว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการก่อเหตุเพื่อให้จ่านิวหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง ส่วนตัวเชื่อว่าผู้ก่อเหตุเกี่ยวเขียวอันธพาล เขียวรับจ้าง เขียวสั่งการ จึงเรียกร้องให้กลุ่มเขียวทั้งหมดหยุดการกระทำ เพราะจะให้เกิดเรื่องบานปลาย และเรียกร้องให้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สั่งตำรวจทุกสถานีเพิ่มความเข้มงวดดูแลความปลอดภัย และเร่งจับคนร้ายมาดำเนินคดี ให้ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาตำรวจไม่เคยจับกุมคนร้ายได้เลย

'อังคณา' กังวล ทำไมเหตุทำร้าย 'เอกชัย-จ่านิว' ไม่เคยนำตัวคนร้ายมาลงโทษได้

นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค ถึงกรณีทำร้ายร่างกายนายสิรวิชญ์ และนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โดยระบุว่า 

"กรณี #เอกชัย #จ่านิว กับความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และหลักนิติรัฐ

เคยเขียนถึงความกังวลต่อกรณี #เอกชัยหงส์กังวาน ซึ่งเป็นบุคคลหนึ่ง ที่มักแสดงความเห็นต่างจากรัฐถูกบุคคลนิรนามทำร้ายร่างกายหลายต่อหลายครั้งในที่สาธารณะ โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้แม้แต่คนเดียว ทำให้เหตุการณ์การละเมิดสิทธิเช่นนี้เกิดกับคนอื่นๆตามมา เช่นกรณี #จ่านิวสิรวิชญ์ ที่ถูกคนลอบทำร้ายเมื่อคืนที่ผ่านมา 

ทั้ง #เอกชัย และ #จ่านิว มักมาร้องเรียนกับ กสม.หลายต่อหลายครั้งให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากการใช้สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของเขาและเพื่อนๆ ในสายตาคนบางคน เอกชัย และจ่านิว อาจเป็นพวกก่อกวน ชอบแสดงความเห็นที่แตกต่าง และวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างต่อเนื่อง แต่ในฐานะพลเมือง เอกชัยและจ่านิวย่อมต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ในการที่เขาใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และจะต้องไม่ถูกทำร้ายจากการใช้เสรีภาพนั้น หลายปีที่ผ่านมาสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก ความไม่อดทนต่อความคิดเห็นที่แตกต่างของคนบางคนบางกลุ่มนำมาซึ่งความเกลียดชัง และอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง (hate crime) #การบังคับใช้กฎหมายที่ขาดประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ก่ออาชญากรรมลอยนวลพ้นผิด และเกิดการกระทำซ้ำกับผู้ที่เห็นต่างอย่างต่อเนื่อง"