Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

Total War เป็นซีรีย์เกมวางแผนการรบอิงประวัติศาสตร์ที่มีอายุยาวนานกว่า 19 ปี ออกมาหลายภาคซึ่งครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่ยุคโรมัน ยุคเซ็นโกคุ หรือสงครามกลางเมืองของญี่ปุ่น ยุคกลางของยุโรป ยุคล่าอาณานิคม และภาคล่าสุดกับ “ยุคสามก๊ก” ของจีน โดยผู้เล่นเลือกสวมบทบาทเป็นขุนนาง เจ้าเมือง หรือนักรบที่เป็นตัวละครสำคัญของเรื่อง แล้ววางแผนไต่เต้าตนเองจนเป็นจักรพรรดิ ไม่ทันรุ่นตนเองก็ทำให้สำเร็จในรุ่นลูกหรือรุ่นหลาน ผู้เล่นจะต้องใช้ทั้งการทูตและการทหารเพื่อเอาชนะฝ่ายต่างๆ จนเป็นใหญ่ ยามรบก็ต้องบัญชาการทัพของตนให้ดี บางครั้งสู้ด้วยจำนวนคนไม่ได้ที่ก็ต้องสู้ด้วยกล บางครั้งสู้แล้วแพ้ก็ขอเด็ดหัวแม่ทัพอีกฝ่ายก่อนแพ้ เป็นต้น ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อรวบรวมจีนให้เป็นปึกแผ่นอีกครั้งภายใต้กรงเล็บอำนาจของเรา ผุ้ซึ่งอ้างว่า เป็นผู้ได้รับบัญชาจากสวรรค์ที่แท้จริง

แต่การเมืองจีนยุคโบราณหัวใจสำคัญเป็นเรื่องของ “คน” ไม่ใช่ “อาณาจักร” ภาคนี้จึงแตกต่างจากภาคก่อนๆ ที่ผู้เล่นแทบไม่ต้องสนใจว่าเหล่าขุนนางแม่ทัพมีนิสัยอย่างไร มีเป้าหมายอย่างไร ในภาคก่อนๆ แค่บริหารทรัพยากรให้ดี สร้างกองทัพเยอะๆ แล้วไล่บดขยี้ฝ่ายตรงข้ามก็ชนะแล้ว แต่ภาคนี้จำนวนกองทัพที่เรามีได้จะขึ้นอยู่กับจำนวนขุนนางเหล่าทัพที่สวามิภักดิ์กับเรา ขึ้นอยู่กับเงินท้องพระคลังที่หายากกว่าภาคก่อนๆ มาก และที่สำคัญคือขึ้นอยู่กับการค้าขายกับเมืองต่างๆ เราจึงจำเป็นต้องมีมิตรไว้เสมอเพื่อค้าขายระหว่างกัน เพื่อที่จะขยายทัพของตนให้ใหญ่ขึ้นในศึกสงครามต่อไป

ในการเล่นครั้งแรก ผู้เล่นเลือกเล่นเป็นโจโฉในฐานะตัวละครที่ชอบที่สุดในสามก๊ก ด้วยความมั่นใจว่าเล่นมาทุกภาคตลอด 19 ปี จึงเดินหน้าเปิดศึกรบกับทุกด้านจนขยายอิทธิพลของตนได้อย่างรวดเร็ว ต่อมาเล่าปี่ (ตอนยังไม่แบ่งออกเป็นสามก๊ก) ได้เข้ามายอมสวามิภักดิ์ (vassals) เพื่อขอให้ไปช่วยรบกับเหล่าขุนศึกภาคเหนือ ด้วยความที่อยากชนะและตั้งตนเป็นจักรพรรดิให้เร็ว จึงตัดสินใจหักหลังเล่าปี่เพื่อผนวกเมือง (annexation) ของเล่าปีไว้เป็นของตัวเองแล้วตั้งตนเป็นจักรพรรดิทันที การกระทำดังกล่าวได้รับการประนามจากทุกฝ่ายว่าเป็นทรราช ทรยศ ไร้เกียรติ (trecherous) เหล่าขุนนางเมืองต่างๆ จึงตัดสินใจเลิกค้าขายด้วย และตั้งพันธมิตรร่วมกับซุนกวน (ซึ่งตั้งตนเป็นจักรพรรดิง่อก๊กแข่งกับเราแล้ว) เพื่อปราบทรราชโจโฉให้ได้ ตอนแรกเราก็มั่นใจว่าเล่นภาคก่อนๆ มายังไงก็ชนะ แต่พอเงินน้อยลง กองทัพมีได้น้อยลง ขุนนางแม่ทัพเก่งๆ เริ่มหนีหาย พยายามยื้อและสู้รบกองทัพจากทุกด้านอยู่นานแต่ก็สู้จำนวนของอีกฝ่ายที่มากมายมหาศาลไม่ได้ สุดท้ายก็เสียเวลายื้อเล่น 1 วันเต็มๆ เพื่อเห็นการล่มสลายของอาณาจักรตนเอง

ในการเล่นครั้งที่สอง เราเลือกเล่นเป็นโจโฉอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เน้นการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะบุกยึดเมืองใกล้ตัวทั้งหมดอย่างรวดเร็วเหมือนแต่ก่อน ก็เลือกสร้างมิตรบางส่วนไว้ เพื่อให้มาสวามิภักดิ์เป็นเมืองขึ้นในภายหลัง จะได้มีเมืองค้าขายได้ตลอด จากนั้นก็จะสร้างพันธมิตรปราบขุนศึกภาคเหนือให้สิ้นซากเสียก่อน (บางจังหวะต้องยอมเป็นมิตรกับศัตรูเพื่อสู้กับศัตรูที่ใหญ่กว่า) เมื่อจำนวนฝ่ายน้อยลงก็ตั้งตนเป็นจักรพรรดิ เล่าปี่กับซุนกวนก็ตั้งตนเป็นจักรพรรดิขึ้นแข่งกัน ยุคสามก๊กก็เริ่มขึ้น แต่การสู้พร้อมกับกันทั้งกับเล่าปี่กับซุนกวนคงไม่ดี เราจึงยอมยกเมืองบางส่วนให้กับเล่าปี่ และอ้างบุญคุณที่มีร่วมกันตอนปราบขุนศึกภาคเหนือ เพื่อทำสัญญาว่าจะไม่รุกรานกัน (non-aggression pact) ไว้ก่อน ที่นี้เราก็สามารถเรียกขุนศึกต่างๆ ที่สวามิภักดิ์กับเราให้เป็นพันธมิตรร่วมสู้กับซุนกวนอย่างเดียว เปิดศึกด้านเดียวเท่านั้น

เมื่อเราบุกชนะยึดเมืองของซุนกวนได้มากขึ้น ขยายอาณาจักรได้มากขึ้น เล่าปี่ก็ระแวงเรามากขึ้นแต่ก็ทำอะไรเราไม่ได้เพราะศักดิ์ศรีคุณธรรมค้ำคอไว้ ทำให้ไม่กล้าฉีกสัญญาแล้วประกาศสงครามจนเราจัดการกับซุนกวนได้เด็ดขาด ต่อมาก็คิดต่อว่าจะจัดการกับเล่าปีอย่างไรดี เพราะมีสัญญาว่าจะไม่รุกรานค้ำคอไว้เช่นกัน ถ้าฉีกสัญญาก็อาจโดนรุมตีได้เหมือนรอบที่แล้ว จึงออกอุบายยั่วยุให้ฝ่ายเล่าปี่ต้องทำสงครามกับเมืองขึ้นของเราเมืองหนึ่ง เมื่อเกิดสงครามแล้ว เราก็แสร้งเป็นว่าต้องประกาศสงครามกับเล่าปี่เพื่อปกป้องเมืองใต้สวามิภักดิ์ของเรา เมื่อประกาศดังนี้ก็ได้ใจเมืองเล็กเมืองน้อยๆ อื่นๆ ว่าทำตามสัญญาว่าจะปกป้องเมืองที่สวามิภักดิ์ตนเอง กลายเป็นสร้างพันธมิตรเพื่อร่วมขจัดเล่าปี่ได้สำเร็จ

สุดท้ายเมื่อขจัดซุนกวนกับเล่าปี่ได้แล้ว ก็ทยอยผนวกเมืองเล็กๆ ที่เข้ามาสวามิภักดิ์กับเราตั้งแต่ต้นเกม จนรวมจีนเป็นหนึ่งเดียวได้ในที่สุด ชนะเกมตั้งแต่โจโฉยังมีชีวิต ไม่ต้องรอรุ่นลูกรุ่นหลาน ต่อให้ถูกมองเป็นทรราชอย่างไรก็ไม่เหลือใครมามีกำลังต่อกรกับเราได้ จบเกมด้วยการเป็นทรราชที่รวมจีนเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้ง

ครั้งที่แล้วเราพูดถึงเกม Tropico 6 ว่าถ้าจะเล่นให้ง่ายต้องคิดให้เหมือนเผด็จการ ในรอบนี้เมื่อพูดถึงเกม Total War: THREE KINGDOMS ก็คงต้องพูดว่า เราต้องคิดให้เหมือนการเมืองแบบคนปลิ้นปล้อน สร้างมิตรเพื่อใช้ประโยชน์จากมิตร สร้างศัตรูก็เพื่อใช้ประโยชน์จากมิตร เรียนรู้การเปลี่ยนศัตรูเป็นมิตรชั่วคราวเพื่อสู้กับศัตรูที่น่ากลัวกว่า และเรียนรู้การเปลี่ยนมิตรเป็นศัตรูเพื่อควบรวมทรัพยากรทุกอย่างของมิตรให้เป็นของตนเอง

อ้างหลักการแบบไม่มีหลักการ 

ใช้หลักการเพื่อสร้างพันธมิตร 

และทิ้งหลักการเพื่ออ้างบัญชาจากสวรรค์

การเมืองแบบคนโบราณจึงป่าเถื่อน ไม่มีความสง่างามใดๆ แม้ภายนอกจะดู “ทรงเกียรติ” หรือสูงส่งแค่ไหนก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นหัวใจของเกม Total War: THREE KINDGOMS อีกหนึ่งเกมที่คนสนใจการเมืองไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: Facebook Prab Laoharojanaphan

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net