งาน '1 ปี อนาคตใหม่' คึกคัก ผู้ร่วมกิจกรรมหนุนทำงานในสภามากกว่าข้างนอก หวั่นสูญเสียอีก

กิจกรรม "1 ปี อนาคตใหม่ เดินไปด้วยกัน' คึกคัก ผู้เข้าร่วมหวังพรรคอนาคตใหม่ทำงานในสภามากกว่านอกสภา ระบุหวั่นสูญเสียเหมือนในอดีต

8 มิ.ย.2562 ในงาน "1 ปี อนาคตใหม่ เดินไปด้วยกัน WALK WITH ME TALK WITH ME" ของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งจัดขึ้นวันนี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. จนถึงเย็น ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมจำนวนมากกว่า 2,500 คน ในโอกาสนี้ประชาไท ได้พูดคุยกับผู้เข้าร่วมงานต่อมุมมองถึงสิ่งที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เคยประกาศไว้ว่าจะเดินหน้าทำงานนอกสภา หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว นั้น

โชคชัย ไพบูลรัชตะ นักกิจกรรมด้านการเมือง

โชคชัย ไพบูลรัชตะ นักกิจกรรมด้านการเมืองให้สัมภาษณ์ว่า มาวันนี้เพราะต้องการทราบว่าการทำงานนอกสภา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะทำอะไรบ้าง ซึ่งก็ทราบว่าจะเดินหน้าสื่อสาร สร้างความรู้และฟังความเห็นของประชาชนในเรื่องหลักๆ อย่างการแก้รัฐธรรมนูญ เช่นมาตรา 279 ที่นิรโทษกรรมการกระทำของ คสช. หรือวิธีการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ไม่ใช่การไปชุมนุมไล่รัฐบาล

ส่วนประเด็นการลงถนนหรือการเคลื่อนไหวแบบชุมนุมประท้วงนั้น โชคชัย ในฐานะนักกิจกรรมที่ตอนนี้มีคดีการชุมนุมกับกลุ่มคนอยากเลือกตั้งติดตัวอยู่ 4 คดีมองว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมทางการเมืองที่เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งไม่ได้บรรบุผลสำเร็จมากมาย ถูกรัฐบาลและสังคมป้ายสีว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบ ความวุ่นวายตลอด แต่ตอนนี้มีเลือกตั้ง มีสภา มีฝ่ายค้านแล้ว แม้จะไม่ได้เป็นตามเจตจำนงค์ประชาชน แต่การดำเนินการทางการเมืองต่างๆ ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของสภาและ ส.ส. ดีกว่า การชุมนุมคงจะไม่เกิดขึ้น

สำหรับหนึ่งปีที่ผ่านมาโชคชัยมองว่าความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่คือการดึงดูดนักศึกษา นักเรียนมัธยมที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งเป็นครั้งแรกได้ โดยเฉพาะตัวหัวหน้า เลขาธิการพรรคและโฆษกพรรค

โชคชัยที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคกล่าวว่าจะให้การสนับสนุนการรณรงค์ของ อนค. หากว่าทางพรรคเข้ามาทำกิจกรรมในพื้นที่ที่เขาอยู่อาศัย

ธนวัฒน์ กมลรัตนาชัย หนึ่งในผู้ที่มาร่วมงาน

ธนวัฒน์ กมลรัตนาชัย ผู้ที่มาร่วมงาน กล่าวว่า ประเทศนี้ยังมีความหวัง ตราบใดที่ยังมีคนกล้าที่ลุกขึ้นมาบอกสังคมว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันไม่ถูกต้อง มันบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยน และพรรคอนาคตใหม่ได้สร้างกระบวนการทางความคิด (“Mindset”) ขึ้นมาใหม่ว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงควรจะเป็นอย่างไร สิ่งนี้ทำให้ประชาชนลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตัวเอง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน

ส่วนประเด็นการลงถนน ธนวัฒน์ กล่าวว่า ในอนาคตหากเกิดขึ้นจริงคงเป็นเพราะประชาชนที่รู้สึกหมดความอดทนกับสิ่งที่เป็นอยู่ในสังคม และอยากให้สู้ต่อไปทั้งตัวพรรคเองและประชาชนต้องมีความหวังต่อไป

ชลธร (สงวนนามสกลุม) อายุ 23 ปี ล่ามภาษาญี่ปุ่นที่มาร่วมกิจกรรม

ชลธร (สงวนนามสกลุม) อายุ 23 ปี ล่ามภาษาญี่ปุ่นที่มาร่วมกิจกรรมวันนี้ กล่าวว่า ตอนนี้สนับสนุนธนาธร เนื่องจากว่าในเวลานี้มันมีแค่คนนี้แล้วทีเหมาะสม และเป็นทางออกที่ดีที่สุด 

การทำงานนอกสภานั้น ชลธร กล่าวว่า ก็คงเป็นสิ่งที่คิดว่าเขาเลือกแล้วอาจจะเพราะอะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เขาต้องเลือกอย่างนั้น และก็เคารพการตัดสินใจ เพราะพรรคเขาก็พูดถึงว่าการลงถนนก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีสุด มันอาจจะเกิดการสูญเสียอย่างที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเราก็มองว่าการหนทางที่สุดโต่งมันไม่เกิดประโยชน์

ต้องยอมรับว่าในช่วงที่เขาชุมนุมกัน ที่มีสีเสื้อ เสื้อแดง เสื้อเหลือง ตอนนั้นที่รู้ว่าลุงตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรัฐประหาร คสช.)เข้ามาคือดีใจมากรู้สึกว่ามันสงบ แล้วเราก็อยู่ในสถานการณ์ที่มันมีการประทะกัน ไม่รู้ว่าตัวเองจะโดนลูกหลงเมื่อไหร่ แต่พออยู่มาเรื่อยๆ ก็โกงกันแบบไม่อาย 

จากกระแสโซเชียลที่จะลงถนนกันไหมนั้น ชลธร มองว่า เราก็เห็นรุ่นน้องทวิต ในใจคิดว่าอย่าไปเลย ไปแล้วมันไม่คุ้ม อาจจะเกิดการสูญเสียมากขึ้น อาจจะไม่ใช้แก๊สน้ำตาเหมือนแต่ก่อน ไม่ก็อาจจะเป็นกระสุนจริงอย่างที่เคยมีมาก็ได้

ธีระธร ศิริวัฒน์ นักประชาสัมพันธ์ อีกหนึ่งคนที่มาร่วมงานครบรอบ 1 ปีพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ตั้งแต่รู้จักพรรคอนาคตใหม่มาและตัดสินใจเลือกเค้า เนื่องจากเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ชัดเจน และอุดมการณ์นี้ก็มีเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เป็นพรรคที่เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ ดูจากสมาชิกพรรค หรือ ส.ส. ที่เขารับสมัคร ก็เป็นคนที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายอาชีพ หลากหลายเพศ และในอนาคตยังคาดหวังว่าจะดีขึ้น แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เนื่องจากว่าเราได้นายกฯ คนเก่า ซึ่งเราเห็นผลงานเค้ามาแล้ว 5 ปี ที่ผ่านมาดูจากที่การให้แนวคิดวิธีการทำมันเอื้อแก่ประโยชน์นายทุนมากกว่าคนในประเทศ

ธีระธร ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้พรรคอนาคตใหม่อย่ายอมแพ้ และอยู่ต่อสู้เพื่อพวกเราทุกคน

ลุงหนุ่มปทุม(นามสมมุติ) 67 ปี ไม่มีอาชีพ หนึ่งในผู้เข้าร่วมงานวันนี้ กล่าวว่า ตนลุงยึดมั่นตามระบอบประชาธิปไตยที่ผู้นำต้องมาจากการเลือกตั้งและความยินยอมจากประชาชน ซึ่งมีความเหมาะสมตามประชาธิปไตยและเป็นไปตามวาระ คิดว่านี่คือการต่อสู้ครั้งสุดท้าย และธนาธรเป็นคนเดียวที่เสนอตัวเองเข้ามาเป็นทางออกโดยที่ไม่ต้องให้ผู้คนต้องมาเสียเลือดเสียเนื้อ พรรคอนาคตใหม่จึงเป็นตัวแทนของการต่อสู้ในระบบสภาที่เป็นการต่อสู้ทางการเมืองที่สูญเสียน้อยที่สุด

ในส่วนของการออกมาเคลื่อนไหวตามท้องถนนนั้น ลุงหนุ่มปทุม กล่าวว่า ตนออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 50 เห็นถึงความเสี่ยงในการที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ หลายคนตาย หลายคนพิการ ไม่คุ้มค่าเอาชีวิตไปเสี่ยง เล่นการเมืองในสภาดีกว่าสูญเสียน้อยกว่า

ในประเด็นพลังของคนรุ่นใหม่นั้น ลุงหนุ่มปทุม เชื่อว่า เด็กรุ่นใหม่มีความรู้เยอะและหลากหลายกว่าคนรุ่นลุง เพราะเนื่องจากการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายและนำมาคิดต่อยอดเองได้ ว่าควรจะเชื่ออะไรไม่เชื่ออะไร แต่ระบบการศึกษาการเป็นตัวสำคัญที่จะกำหนดวิธีคิดของเด็กรุ่นใหม่เช่นกัน

สำหรับ "1 ปี อนาคตใหม่ เดินไปด้วยกัน" นี้ ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลายประกอบด้วย นิทรรศการ ระดมทุน รับสมัครสมาชิก และจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ขณะที่บนเวทีมีการแสดงดนตรีสด เพลง The Future of our country, เพลง ทุ่งฝันวันใหม่ รวมถึงการแสดงวิสัยทัศน์ของ ธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพูดคุยบนเวที ซึ่งมีบุคคลผู้มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการมาร่วมด้วย 

ภาพบรรยากาศกิจกรรม : 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท