ระบุสามารถพิสูจน์ได้เลยว่าขณะนี้คลองลาดพร้าวตื้นเขินมาก พื้นที่รองรับน้ำฝนลดน้อยลงมาก เหตุผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.ริมคลอง โกยดินริมตลิ่งไปเกลี่ยทิ้งลงในคลอง และการก่อสร้างบ้านมั่นคงริมคลองแอบโกยขยะลงในคลองลาดพร้าวเต็มไปหมด ฝากถาม พล.อ.ประวิตร และผู้ว่าฯ อัศวิน ถ้าไม่กล้าเอาผิดกับผู้รับเหมาก็ควรลาออกไป
9 มิ.ย.2562 จากเหตุเกิดพายุฝนตกหนักในช่วงบ่ายวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมาทำให้หลายเขตของกรุงเทพมหานคร เช่น เขตห้วยขวาง เขตดินแดง เขตพญาไท เขตบางซื่อ เขตพระนคร ฯลฯ เกิดน้ำท่วมขังก่อให้เกิดปัญหาวิกฤตจราจรรถติดอย่างมากนั้น
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โดย เขากล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. กลับโบ๊ยไปโทษระบบไฟฟ้าดับที่อุโมงค์สูบน้ำบางซื่อ โดยไม่เคยโทษตนเองว่าบกพร่องในการบริหารสั่งการให้มีการเตรียมความพร้อม 24 ชั่วโมงทั้งๆ ที่กรมอุตุนิยมวิทยาก็แจ้งล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดฝนตำหนักในวันเวลาใด อีกทั้งเรดาห์ตรวจอากาศของ กทม.ก็รายงานข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ แบบนี้ต้องถามผู้ว่าฯ อัศวิน กันตรง ๆ ว่ามีความสามารถในการบริหาร กทม.หรือไม่ และต้องถามย้อนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ด้วยว่าจะรับผิดชอบต่อผู้ว่าฯคนนี้ที่ท่านตั้งขึ้นมาอย่างไร และสัปดาห์ที่แล้วผู้ว่าฯคนนี้ก็โพสต์โทษชาวบ้านว่าทิ้งขยะลงคลอง จนเศษขยะไปขวางทางน้ำเต็มหน้าประตูน้ำบริเวณใต้ทางด่วน ถ.ประดิษฐมนูธรรม โดยไม่ได้ตำหนิหรือกวดขันโครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ริมคลองของ กทม. งบประมาณ 1,654 ล้านและโครงการบ้านมั่นคง งบ 4,061 ล้าน ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่แอบโกยทิ้งขยะจากโครงการก่อสร้างลงคลองเต็มไปหมดและไม่ยอมขุดลอกก่อนฤดูฝนจะมาถึง
ศรีสุวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า ประชาชน สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้เลยว่าขณะนี้คลองลาดพร้าว มีลักษณะตื้นเขินมาก พื้นที่รองรับน้ำฝนลดน้อยลงมาก เหตุเพราะผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.ริมคลอง ได้โกยดินริมตลิ่งไปเกลี่ยทิ้งลงในคลองตลอดทั้งแนวคลอง ผนวกกับการก่อสร้างบ้านมั่นคงริมคลองก็มักง่ายแอบโกยขยะจากการก่อสร้าง เศษอิฐ หิน ดิน ทราย ทิ้งลงในคลองลาดพร้าวเต็มไปหมด แถมบางชุมชนมีการเกรดดินขยายพื้นที่ถมคลองให้แคบลงเพื่อเอาพื้นที่ไปสร้างบ้านมั่นคง โดยที่ กทม.ก็รับรู้แต่แสร้งทำไม่รู้ไม่เห็น เนื่องจากโครงการเหล่านี้มีผลประโยชน์มหาศาลนับพันล้าน มีหน่วยงานรัฐต่างๆเข้ามาเอี่ยวมากมาย อาทิ กระทรวง พม. โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กอ.รมน. กองทัพบก และ กทม. ดังนั้นจึงไม่เป็นที่แปลกใจว่า ผู้รับเหมาทั้งสองโครงการจะทำผิดอย่างไร ก็ไม่มีใครเอาผิดได้ เรื่องนี้ต้องฝากถามไปยัง พล.อ.ประวิตร และผู้ว่าฯ อัศวิน ว่าถ้าไม่กล้าที่จะเอาผิดกับผู้รับเหมาก็ควรลาออกไปเสีย และทั้งสองคนไม่ควรหวลกลับมาทำหน้าที่นี้อีกในอนาคตอันใกล้นี้
