ข่มขู่ คุกคาม ทำร้ายร่างกายนักกิจกรรม รัฐเมินกวดขันติดตามคดี

รวมสถิติเหตุด่าทอ ข่มขู่ คุกคาม ทำร้ายร่างกายนักกิจกรรมทางการเมืองนับตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน พบ ‘เอกชัย หงส์กังวาน’ โดน 10 ครั้ง ‘ฟอร์ด เส้นทางสีแดง’ โดน 2 ครั้ง ‘เพนกวิน-พริษฐ์’ 3 ครั้ง และ ‘จ่านิว-สิรวิชญ์’ โดน 1 ครั้ง รวมทั้งหมด 16 ครั้ง ดำเนินคดีคนร้ายได้เพียง 3 ครั้ง นอกนั้นไร้ความคืบหน้าแม้มีกล้องวงจรปิด

 

 

ลำดับเหตุการณ์ความรุนแรงและการคุกคามต่อนักกิจกรรมทางการเมือง

 

 

*หมายเหตุ นับเฉพาะกรณีที่มีการเปิดเผย

 

1. เอกชัยถูกปาแก้วน้ำใส่หลังเดินทางไปทำเนียบเพื่อขอมอบของขวัญ(นาฬิกา) ให้พล.อ.ประวิตร

19 ม.ค. 2561 เอกชัย และโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ เดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำนาฬิกาจำนวน 3 เรือน และโปสเตอร์คอลเล็คชั่นนาฬิกา 25 เรือน มาให้ พล.อ.ประวิตร เมื่อเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล เอกชัยถูกฤทธิไกร ชัยวรรณศาสน์ ปาแก้วน้ำใส่ หลังจากเขาเพิ่งลงจากรถเมลล์แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ทัน ภายหลังพบตรวจพบว่าฤทธิไกร พักมีดพับความยาว 3 นิ้วไว้ที่ตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยเจ้าหน้าที่ส่งฟ้องต่อศาลในวันเดียวกัน และศาลมีคำพิพากษาปรับ 1,000 บาท

 

2. เอกชัยถูกดักชกปากแตกในซอยเข้าบ้าน หลังกลับจากทำกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล

23 ม.ค. 2561 เวลา 10.00 น. เอกชัย และโชคชัยเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อจัดกิจกรรมมอบนาฬิกา 3 เรือน ให้ พล.อ.ประวิตร อีกครั้ง โดยครั้งนี้มีป้ายไวนิลที่ใส่เนื้อหาข่าวเรื่องนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งถูกสื่อต่างประเทศนำเสนอมาประกอบด้วย หลังจากเสร็จกิจกรรม เอกชัย แยกย้ายกับโชคชัย เพื่อเดินทางกลับบ้าน 14.00 น. ระหว่างที่เอกชัยลงจากรถเมล์และกำลังเดินเข้าซอยบ้าน เขาถูก ฤทธิไกร ชัยวรรณศานส์ ดักทำร้ายร่างกาย โดยถูกชกจนปากแตก จากนั้นเขาได้แจ้งความมกับ สน.ลาดพร้าว ข้อหาทำร้ายร่างกาย ภายหลังอัยการได้ส่งฟ้องนายฤทธิไกร ต่อศาลและศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา

 

3. เอกชัยถูกดักสาดน้ำปลาร้าใส่ หลังจากลงรถเมล์กำลังจะเดินไปทำเนียบรัฐบาลติดตามความคืบหน้า นาฬิกา 25 เรือน

14 ส.ค. 2561 เวลา 10.15 น. เอกชัย เดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามความรับผิดชอบของพล.อ.ประวิตร เรื่องนาฬิกาหรู เมื่อเอกชัย ลงรถเมลล์ด้านข้างโรงพยาบาลมิชชัน เขาถูกชายนิรนาม 2 ราย คาดว่าขับรถจักยานยนต์ตามมาจากบ้าน เข้ามาสาดน้ำปลาร้าใส่ ก่อนที่เร่งรีบหลบหนีไป โดยรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และคนร้ายทั้งสองสวมหมวกกันน็อคปิกปิดใบหน้า เอกชัยแจ้งความที่ สน. นางเลิ้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบลายนิ้วมือจากถังใส่น้ำปลาร้าที่คนร้ายทิ้งไว้ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

 

4. เอกชัยโดนรุมตีหน้าบ้านจนกระดูกนิ้วมือแตก หลังทวงถามความคิดหน้าเรื่องนาฬิกาหรูที่ทำเนียบรัฐบาล

22 ส.ค. 2561 เวลา 12.00 น. หลังจากกลับจากการทำกิจกรรมที่ทำเนียบรัฐบาล พอลงจากรถประจำทางแล้วเอกชัย เห็นผู้ชายสองคนจอดมอเตอร์ไซค์รออยู่หน้าอู่รถชื่อ Tyre Plus (ไทร์พลัส) ปากซอยลาดพร้าว 107 และมองมาที่เอกชัย ทำให้รู้สึกผิดสังเกตแต่ก็ยังเดินต่อเพื่อเข้าบ้านที่อยู่ในซอยถัดไป พอเลี้ยวเข้ามาในซอยลาดพร้าว 109 ซอย 1เดินจนถึงซอยเชื่อมระหว่างซอย 1 และ 3 จนใกล้จะถึงบ้านแล้ว ได้มีคนตะโกนเรียกชื่อ หันไปดูเห็นเป็นชายสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาข้างหลังแล้วก็จอด ชายหนึ่งในสองคนได้เอาหมวกกันน๊อกฟาด ระหว่างที่เอกชัยถูกทำร้าย มีผู้ชายคนที่สามเพิ่มมาอีกและเอาไม้มาตี 4-5 ที เอกชัย จึงยกแขนกันเอาไว้ แต่ระหว่างที่ชายคนที่สามเอาไม้ตีอยู่ อีกสองคนก็ยืนดู พอชายคนที่สามตีจนไม้หลุดมือไปได้หันไปหาไม้อันอื่นจะมาตีเขาอีก เอกชัย จึงรีบวิ่งเข้าบ้าน หลังเกิดเหตุ เอกชัย เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว และถูกส่งตัวไปรักษาและตรวจสอบบาดแผลที่โรงพยาบาล จากการตรวจรักษาพบว่ากระดูกนิ้วก้อยและนิ้วนางข้างซ้ายหัก แพทย์ได้ใส่เฝือกใช้เวลาในการรักษาประมาณ 1 เดือน

ต่อมาตำรวจจับกุมคนร้าย 1 คนคือ กำธร ธรรมขันธ์ (อายุ 20 ปี) ล่าสุดอัยการส่งหนังสือมาสอบถามถึงการเรียกร้องค่าเสียหายในคดี อย่างไรก็ตามกำธรได้ให้การว่าตนเพียงแต่รับจ้างขี่มอเตอร์ไซด์มาเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นผู้ว่าจ้าง และไม่ยอมให้ข้อมูลว่าใครเป็นผู้ว่าจ้างและบุคคลใดร่วมกระทำความผิดบ้าง

 

5. เอกชัยเคลื่อนไหวค้านการเลื่อนการเลือกตั้ง ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย โชคดีนักท่องเทียวช่วยไว้ทัน

19 ม.ค. 2562 เวลาประมาณ 19.15 น. หลังจากเลิกจากกิจกรรมรณรงค์ ไม่เลื่อนเลือกตั้งร่วมกับกลุ่มของฟอร์ด เส้นทางสีแดง ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เอกชัย พร้อมเพื่อนนักกิจกรรมอีกคนกำลังเดินทางกลับบ้านโดยจะเดินไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อไปยังรถที่จอดไว้ ถึงบริเวณโค้งหยดน้ำใกล้กับสะพานพระปิ่นเกล้า ในเวลาประมาณ 19.15 น. ก็ได้มีชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนซึ่งเดินตามมา โดย 3 คนเข้ามารุมทำร้ายร่างกายเอกชัยจากทางด้านหลัง ส่วนอีกคนยืนคอยคุมเชิง แต่เพื่อนเอกชัยที่เดินมาด้วยเข้ามาห้ามปรามจึงถูกทำร้ายไปด้วย ต่อมา มีนักท่องเที่ยวไม่แน่ใจว่าเป็นชาวจีนหรือชาวเกาหลีประมาณสิบคนเดินผ่านมาพบและได้เข้าทำการช่วยเหลือ ไล่ชกต่อยชายที่เข้ามาทำร้ายเอกชัย จนคนร้ายทั้งสี่ต้องวิ่งขึ้นมอเตอร์ไซค์จำนวนสองคันที่จอดเอาไว้ขับหลบหนีไป เอกชัยโดนต่อยบริเวณใบหน้า และโดนเตะบริเวณศีรษะ แต่ได้เอาแขนขึ้นมารับไว้จึงมีรอยช้ำที่แขนด้วย ส่วนเพื่อนนักกิจกรรมอีกคนโดนชกต่อยทำร้ายแว่นตาหัก ปากแตกและคิ้วแตก โดยขณะนี้เอกชัยกำลังแจ้งความที่ สน.ชนะสงครามแล้วจึงจะไปตรวจร่างกายที่วชิระพยาบาล สำหรับคดีความยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

 

6. เอกชัยถูกลอบเผารถยนต์แต่ได้รับความเสียหายน้อย

26 ม.ค. 2562  เวลา 3.00 น. คนร้ายลอบเผารถยนต์ของเอกชัยที่จอดไว้หน้าบ้าน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายมีเพียง 2 คน โดยอีกคนยืนดูต้นทาง ส่วนผู้ก่อเหตุสวมเสื้อคลุมและใส่หมวกปิดบังหน้าตา ได้ใช้ขวดน้ำมันฉีดไปที่รถยนต์ของเอกชัย จากนั้นได้จอกไฟเผา และรีบวิ่งหนีไป เอกชัย ได้แจ้งความต่อ สน.ลาดพร้าวแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

 

7. เอกชัยไปให้ปากคำต่อแพทยสภา ตรวจสอบจริยธรรมหมอเหรียญทอง ถูกดักตีจนหัวแตก

5 มี.ค. 2562 เวลา 15.00 น. เอกชัย หงส์กังวาน ได้เดินทางไปยังสำนักงานเลขาแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ จ.นนทบุรี เพื่อให้การต่อคณะอนุกรรมการจริยธรรมชุดที่ 14 ของแพทยสภา หลังจากที่ได้ยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบจริยธรรมของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎวัฒนะ ต่อมา 16.00 น.หลังจากเอกชัย ได้เข้าให้การกับคณะอนุกรรมการจริยธรรมแพทยสภาเรียบร้อยแล้ว ระหว่างเดินทางกลับ เอกชัย ถูกชายนิรนาม 2 คน ขับขี่จักรยานยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียน คนขับสวมหมวกกันน็อคเต็มใบ สวมแจ็คเก็ตสีดำ ส่วนคนซ้อนสวมหมวกกันน็อคครึ่งใบ สวมเสื้อลายพรางสีน้ำตาล และผ้าปิดจมูกลายพราง เข้ามาทำร้ายร่างกาย โดยคนหนึ่งถือท่อนไม้ขนาดใหญ่เข้าตีหัวเอกชัยอย่างแรงจนทำให้หัวแตก และมีรอยช้ำจากการถูกตีที่แขน ส่วนอีกคนหนึ่งถือท่อแป๊ปเหล็กกำลังจะเข้ามาทำร้ายร่างกายเอกชัย แต่มีพลเมืองดีช่วยห้ามไว้ ที่สุดแล้วทั้งสองคนรีบกลับขึ้นรถและหลบหนีไป หลังเสร็จจากการรักษาเอกชัยเดินทางเข้าแจ้งความกับ สภ.ท่าน้ำนนท์ คดีอยู่ระหว่างสอบสวน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้า

 

8. ‘ฟอร์ด เส้นทางสีแดง’ ถูกทำร้ายร่างกาย หลังกลับจากจัดกิจกรรมล่าชื่อถอด กกต.

31 มี.ค.2562 เวลาประมาณ 22.30 น. อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' หนึ่งในแกนนำจัดกิจกรรม "ถึงโกงก็ชนะ" หน้าแมคโดนัลด์ ​ ราชประสงค์ ได้ถูกทำร้ายในบ้านยามวิกาลหลังจากเดินทางกลับจากกิจกรรม​ล่าลายชื่อปลด กกต.

อนุรักษ์ เล่าว่า เมื่อตนกลับบ้านราว 21.45 น.โดยแท็กซี่มีคนร้ายใส่ชุดดำสองคนใส่หมวกกันน็อคขับมอเตอร์​ไซด์ตามมาจอดหน้าบ้าน หนึ่งในนั้นวิ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกับอาวุธ​เป็นไม้หน้าสามเข้ามาทำร้ายตน จากนั้นตนจึ่งต่อสู้​ป้องกันตัว จนสามารถแย่งไม้จากคนร้าย พร้อมกับตีคนร้ายกลับจนไม้หักคามือสองท่อน ทำให้คนร้ายวิ่งหนีไปเมื่อมีเสียงคนตะโกนให้ช่วยเหลือ

อนุรักษ์ระบุว่าได้แจ้งตำรวจแล้ว แต่ล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

 

9. รถยนต์เอกชัยถูกทุบกระจก และเผาห้องโดยสาร ไม่สามารถซ่อมแซมได้ หลังกลับจากล่าชื่อถอดถอน กกต.

1 เม.ย. 2562 เวลาประมาณ 1.15 น. เวลาตามกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์หน้าบ้านเอกชัยไว้ได้พบว่ามี ชายคนหนึ่งสวมเสื้อแจ็กเก็ต กางเกงขายาว และหมวกกันน็อกเดินจากด้านในซอย และใช้เท้าถีบกระจกมองข้างด้านซ้ายของรถยนต์ของเอกชัย และถือขวดน้ำมันราดบนกระจกหน้ารถยนต์ของเอกชัย และจุดไฟเผาจนเกิดไฟลุกท่วม ทำให้ภายในห้องโดยสารรถยนต์เสียหายจนไม่อาจซ่อมแซมได้ รวมถึงเอกสารจากการล่ารายชื่อถอดถอนกกต.และเครื่องขยายเสียงก็ได้รับความเสียหายบางส่วนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เอกชัยได้แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ได้มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและนำรถยนต์ไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีตำรวจแล้ว ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ในวันที่ 31 มี.ค. เอกชัยได้เข้าร่วทกิจกรรมล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ที่บริเวณแยกราชประสงค์

 

10. เอกชัยถูกชาย 4 คนรุมทำร้ายหน้าศาลอาญาขณะไปรายงานตัวคดีคนอยากเลือกตั้ง

13 พ.ค.2562 เอกชัย หงส์กังวาน ถูกชาย 4 คนรุมทำร้ายร่างกายที่หน้าศาลอาญาขณะกำลังไปรายงานตัวต่อศาลคดีคนอยากเลือกตั้ง เอกชัยอ้างว่า คนที่ทำได้รับคำสั่งมาให้เอาตนเองถึงชีวิตด้วย แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า เอกชัยยังกล่าวว่าค่อนข้างแน่ใจว่าครั้งต่อไปอาจจะถูกทำร้ายหนักกว่านี้ ส่วนกรณีการร้องขอให้มีการคุ้มครองพยาน ซึ่งได้มีการยื่นเรื่องไปตั้งแต่เดือน เม.ย.จนถึงขณะนี้ผ่านมานานกว่า 2 เดือน ก็ยังไม่มีความคืบหน้า

 

11. ‘ฟอร์ด เส้นทางสีแดง’ ถูกชาย 6 คนรุมทำร้ายระหว่างขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน

25 พ.ค. 2562 อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' ถูกชาย 6 คนขี่มอเตอร์ไซด์ 3 คันรุมทำร้ายร่างกายระหว่างขี่มอเตอร์ไซด์ออกจากบ้านพัก ศีรษะแตก แพทย์ต้องเย็บ 8 เข็ม

 

12. เอกชัยโพสต์เฟสบุ๊ค “มีคำสั่งให้ฆ่าผม” เรื่องขอคุ้มครองพยานไม่คืบ

27 พ.ค. 2562 เฟสบุ๊คของเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง มีการโพสต์ข้อความว่า "มีคำสั่งให้ฆ่าผม" โดยเอกชัยระบุว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊คส่งข้อความมาว่าได้มีคำสั่งให้ฆ่าเอกชัยแล้ว ขอให้รีบเดินทางออกนอกประเทศโดยด่วน เอกชัยกล่าวว่าไม่สามารถหลบหนีไปที่ไหนได้ เพราะในเดือนมิถุนายนแทบทั้งเดือนตนมีนัดขึ้นศาลจากคดีการเมืองที่ถูกรัฐฟ้อง และต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามอาการบาดเจ็บจากการถูกรุมทำร้ายที่หน้าศาลอาญาเมื่อครั้งก่อน

เอกชัยยังกล่าวว่า ได้นำหลักฐานทั้งการถูกคุกคามทำร้ายไปทำเรื่องที่ สน.เพื่อคุ้มครองพยาน ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายนแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างไร เมื่อตนไปสอบถามความคืบหน้าก็พบแต่เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย ไม่สามารถระบุความคืบหน้าอะไรได้ เมื่อขอพบผู้บังคับบัญชา ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ

 

13. ‘เพนกวิน’ ถูกโทรมาด่าทอ หลังวิจารณ์ พล.อ.เปรม

28 พ.ค. 2562 พริษฐ์ ชิวารักษ์ นักกิจกรรมและนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกโทรศัพท์มาหาพร้อมด่าทอ จากการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

 

14. 'เพนกวิน' ถูกโทรมาข่มขู่ "ทหารจะเล่นงานมึงเมื่อไหร่ก็ได้"

31 พ.ค. 2562 พริษฐ์ ชิวารักษ์ ถูกโทรศัพท์มาหาด่าทอพร้อมข่มขู่ว่า "ทหารจะเล่นงานมึงเมื่อไหร่ก็ได้"  จากการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

 

15. 'เพนกวิน' ถูกโทรมาข่มขู่ "จะไปชุมนุมที่ไหนเมื่อไหร่ จะได้ "ต้อนรับ" ถูก"

2 มิ.ย. 2562 พริษฐ์ ชิวารักษ์ ถูกโทรศัพท์มาหาด่าทอพร้อมข่มขู่ว่า "จะไปชุมนุมที่ไหนเมื่อไหร่ จะได้ "ต้อนรับ" ถูก"

 

16. ‘จ่านิว’ ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คนทำร้ายร่างกายหลังจัดกิจกรรมเรียกร้อง ส.ว. งดออกเสียงเลือกนายกฯ

2 มิ.ย. 2562 สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน สวมหมวกกันน็อค มีไม้เป็นอาวุธ ทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลบริเวณศีรษะและบริเวณริมฝีปากล่างด้านใน หลังจัดกิจกรรมเรียกร้องให้ ส.ว.งดออกเสียงเลือกนายกฯ

 

ดำเนินคดีคนร้ายได้เพียง 3 ครั้ง นอกนั้นไร้ความคืบหน้าแม้มีกล้องวงจรปิด

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า จากเหตุการณ์ทั้งหมดกลับมีเพียง 3 ครั้งที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ คือ 2 ครั้งแรกที่คนร้ายเปิดใบหน้าเข้าทำร้ายเอกชัย และยังเป็นบุคคลเดียวกัน และกรณีที่คนร้ายสามคนดักใช้อาวุธทำร้ายในซอยขณะเอกชัยกำลังเข้าบ้านพักเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 แต่ก็ต้องกล่าวว่าตำรวจจับคนร้ายได้เพียงคนเดียวและยังไม่สามารถติดตามผู้ก่อเหตุอีก 2 คน ได้

ความคืบหน้าล่าสุดในกรณีหลังนี้ คือมีการฟ้องร้องบุคคล 1 ราย ในคดีทำร้ายร่างกาย ไปยังศาลอาญา โดยคดีจะเริ่มพิจารณาสืบพยานในวันที่ 16-17 ม.ค.2563 หากนับเวลาตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงเริ่มสืบพยานจะใช้เวลาถึง 1 ปี 4 เดือน ทั้งมีรายงานว่าคนร้ายที่ถูกจับกุมได้ในกรณีนี้ ยังไม่ยินยอมให้การหรือให้ข้อมูลใดๆ กับเจ้าหน้าที่

ขณะที่การลอบทำร้ายนักกิจกรรมในปี 2562 ซึ่งมีลักษณะรุนแรงมากขึ้น และมีกลุ่มคนร้ายจำนวนมากขึ้น กลับไม่มีกรณีใดเลยที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ลงมือกระทำการมาได้

แม้ว่าเกือบทั้งหมดคนร้ายได้สวมหมวกนิรภัยปิดบังใบหน้าและมีการถอดป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ แต่เหตุการณ์เกือบทั้งหมดยังเกิดขึ้นในที่สาธารณะที่มีกล้องวงจรปิดให้ติดตามหาตัวคนร้ายได้ หากมีการประสานติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างต่อเนื่องไปจนถึงจุดหมายปลายทางการหลบหนีของคนร้าย แต่กลับไม่พบความคืบหน้าใดๆ ในกรณีที่เกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้วของเอกชัย แม้ว่าเบื้องต้นกรณีที่เกิดขึ้นเกือบทั้งหมดจะมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ก็ตาม

การไม่สามารถหรือไม่ดำเนินการในการติดตามจับกุมกลุ่มคนทำร้ายมาดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การทำร้ายยังคงสามารถเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้ลงมือดูเหมือนไม่จำเป็นต้องหวั่นเกรงสิ่งใด

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท