Skip to main content
sharethis

พระมหาโพธิวงศาจารย์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม เตือน พระวิทยากร พระธรรมทูต ครูสอนพระพุทธศาสนา ควรละเว้นพูดจากระทบกระเทียบการเมือง และสถาบัน หรือให้ความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อน โดยเฉพาะในโซเชียล

พระมหาโพธิวงศาจารย์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ( ที่มาภาพ เพจข่าวสาร งานคณะสงฆ์)

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้จัดการออนไลน์และไทยโพสต์ รายงานตรงกันว่า ที่วัดยานนาวา กรุงเทพฯ ในงานเปิดโครงการพัฒนาสมรรถนะพระธรรมวิทยากรในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ภายใต้กองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562

โดย พระมหาโพธิวงศาจารย์ เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม กล่าวสัมโมทนียกถา ว่า ปัจจุบันพระสงฆ์ในประเทศไทยที่มีความรู้ความสามารถในการเผยแผ่พระพุทธศาสนามีอยู่จำกัด ยิ่งต่างจังหวัดยิ่งน้อยมาก แต่โครงการทางพระพุทธศาสนามีจำนวนมาก ทำให้พระสงฆ์แต่ละรูปรับงานหลายรูปแบบ เป็นพระวิทยากร พระธรรมทูต ครูสอนพระพุทธศาสนา ดังนั้น การส่งเสริมสมรรถนะพระนักเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก ซึ่งต้องสร้างและมีความรู้ มีความเข้าใจ ในความหมายของธรรมะ และการปฏิบัติด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะต้องระวังในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ก็คือ คำพูด อย่าแสดงความโดดเด่น เก่งกล้า พูดจากระทบกระเทียบการเมือง และสถาบัน หรือให้ความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อน โดยเฉพาะในโซเชียล ซึ่งพระรุ่นใหม่ที่หัวรุนแรง ขาดสติ ขาดความรอบคอบ แสดงความเห็น ไม่ถูกกาลเทศะมีมาก จะส่งผลกระทบเสียหาย นับเป็นเรื่องอันตรายที่สุด เท่ากับ ฆ่าตัวตาย จึงควรละเว้นการสร้างผลกระทบ หรือให้ความเห็นที่นำไปสู่สิ่งที่อันตราย

กิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวตอนหนึ่งว่า พระธรรมวิทยากร เป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อการเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา จึงจำเป็นจะต้องได้รับการอบรมส่งเสริมสมรรถนะเพื่อพัฒนาคุณภาพการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง ดังนั้น ทางกรมการศาสนา (ศน.) ร่วมกับสถาบันส่งเสริมและเผยแพร่การพระศาสนาแห่งประเทศไทย จัดอบรมพระธรรมวิทยากร จำนวน 200 รูป จากทั่วประเทศ โดยมีวิทยากรซึ่งเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาต่างๆ มาให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์ ทั้งด้านบทบาทในการเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา จริยาวัตรพระสงฆ์ การเพิ่มสมรรถนะพระธรรมวิทยากรในยุคดิจิทัล การดำเนินการด้านศาสนพิธี รวมถึงการฝึกปฏิบัติ เรียนรู้เทคนิคโดยสื่อสร้างสรรค์ จิตวิทยาวัยรุ่น และมารยาทไทยสำหรับเด็กและเยาวชน รวมถึงการอบรมคุณธรรมและการบริหารจัดการค่ายคุณธรรมอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อเสร็จสิ้นโครงการแล้ว ศน. จะขึ้นทะเบียนพระธรรมวิทยากร เพื่อสร้างแกนนำและเครือข่ายพระธรรมวิทยากร ประสานการทำงานให้เกิดความร่วมมือในโครงการอบรมค่ายคุณธรรมแต่ละจังหวัดในการดำเนินงานส่งเสริมศีลธรรมให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนต่อไป

“พระธรรมวิทยากร จะต้องมีความรู้เท่าทันสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างสรรค์งานวิชาการ จัดกิจกรรมทางศาสนา ในศาสนสถานและสถานศึกษา เพื่อสร้างการแลกเปลี่ยน การแสดงความคิดเห็นและสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกัน อีกทั้งต้องเป็นที่ยอมรับ เชื่อถือ ของประชาชน ให้มีส่วนร่วมในการเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นผู้ชี้แนะแนวทางในการสร้างพฤติกรรมที่ดีให้กับคนในสังคม และช่วยสร้างสังคมให้สงบสุข” อธิบดี ศน. กล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net