Skip to main content
sharethis

รัฐบาลประยุทธ์ 2 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ด้วย #เดินหน้าประเทศไทย คงตั้งใจสู้ #RIP THAILAND อ้างตนเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง ในขณะที่วอชิงตันโพสต์เรียกว่า mockery of democracy “ประชาธิปไตยจอมปลอม”

ไม่ต้องกังวล ยังไงรัฐบาลสหรัฐ ฯ ก็ต้องรับรองรัฐบาลไทย เพราะผลประโยชน์ใหญ่หลวง แถมต้องถ่วงดุลจีน อียูก็จะกลับมาเจรจา เพียงแต่ประเทศต่าง ๆ จะยังวิพากษ์วิจารณ์

เพราะหลังวิกฤติ 13 ปี ชาวโลกเข้าใจดีกับประชาธิปไตยแบบไทย ๆ วอชิงตันโพสต์บรรยาย “รัฐธรรมนูญใหม่สร้างความได้เปรียบอย่างใหญ่หลวงให้กองทัพ วุฒิสภาซึ่งมีสมาชิก 250 คนที่มาจากการแต่งตั้ง แต่กลับมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรที่มีสมาชิก 500 คน”

นอกจากนั้น ยังพูดถึงสูตรคำนวณหลังเลือกตั้ง ที่ทำให้ฝ่ายค้านไม่ได้เป็นเสียงข้างมาก เก้าอี้ไปตกที่ 11 พรรคเล็กหนุนประยุทธ์

ฝรั่งรู้มากขนาดนี้ ยังจะไปอวดเขาอีกหรือว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย

ระบอบที่ย้ายอำนาจเผด็จการมาสวมรัฐสภา ยังไงก็ถูไถไปได้ ด้วยอำนาจกองทัพ อำนาจกฎหมาย ด้วยกลไกต่าง ๆ ที่วางไว้ 5 ปี ทั้งที่ประชาชนจำนวนมากไม่ยอมรับ แต่ก็ต้องทำมาหากิน รัฐบาลก็บริหารประเทศต่อได้ ขึ้นกับจะทำให้ดีขึ้นหรือยิ่งต่ำตม

สังคมไทยมักมองผลประโยชน์เฉพาะหน้าไว้ก่อน เช่นแก้เศรษฐกิจสำคัญกว่า สนใจไปไยกับประชาธิปไตยจอมปลอม ถ้าไม่ใช่ประยุทธ์ ประเทศก็วุ่นวาย ประชาธิปไตยไว้ทีหลัง

ทั้งที่อาจไม่เป็นประชาธิปไตยอีกเลย มีแต่จะต่ำตมลงไปในความไร้หลักการ ในระบอบอำเภอใจ ไม่มีระบบการปกครอง ประชาธิปไตยคือนิติรัฐ คือความมีหลักเกณฑ์ ไม่ใช่มีกฎหมายเป็นพันเป็นหมื่นฉบับ แต่ไม่มีบรรทัดฐาน มันจะทำลายระบบ กติกาสังคม

ตัวอย่างเช่นการเปิดโปงว่า คำสั่ง คสช.แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ไม่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้ววิษณุ เครืองาม อ้างว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติ เกรงจะเกิดการวิ่งเต้นขอตำแหน่ง จึงไม่เปิดเผยชื่อกรรมการ

ผลออกมา รองหัวหน้า คสช. ซึ่งคาดว่าเป็นกรรมการ ดาหน้าเข้าไปนั่งเอง วิษณุก็อ้างว่า ไม่มีใครเสนอชื่อตัวเอง แต่ถูกคนอื่นเสนอ จึงไม่ใช่ผลประโยชน์ทับซ้อน

ฟังแล้วตีความได้ว่า สมมติรองหัวหน้าท่านที่ 1 เสนอชื่อท่านที่ 2 ท่านที่ 2 เสนอชื่อท่านที่ 3 ท่านที่ 3 เสนอชื่อน้องวิษณุ วิษณุเสนอชื่อน้อง พล.อ.ประวิตร แล้ว พล.อ.ประวิตร เสนอชื่อรองที่ 1 เวียนกันไปอย่างนี้ไม่ถือว่าทับซ้อน

คำสั่ง คสช. หรือหัวหน้า คสช. แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ เช่น ปลดนายก อบต.ยังประกาศในราชกิจจาฯ แต่ตั้งกรรมการสรรหา ส.ว.มาเลือกนายกฯ กลับไม่ประกาศ กลัววิ่งเต้น? เห็นชื่อ 194 ส.ว.ที่ผ่านการสรรหาแล้วหัวร่อกลิ้ง คนกันเองทั้งสิ้น

ยิ่งไปกว่านั้น พอมีสื่อเปิดเผยเรื่องนี้ พร้อมกับข้อสงสัยว่าการไม่ตั้ง ส.ว.สำรองอีก 50 คน จะทำให้การสรรหาเป็นโมฆะ ตกเย็น ก็มีประกาศ คสช.ลงราชกิจจานุเบกษา ตั้งอีก 50 คนทันที ทั้งที่รัฐธรรมนูญมาตรา 269 เขียนไว้ว่าให้ทำพร้อมกัน ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันนับแต่ประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.

นี่ผ่านไปแล้วกี่วัน เดือนหนึ่งพอดี นับจากวันที่ 11 พ.ค.ที่โปรดเกล้าฯ 250 ส.ว.และมีประกาศ คสช.ตั้ง ส.ว.สำรอง 50 คนจากชุดที่เลือกกันเอง ถ้าไม่มีคนทักท้วง จะประกาศไหม

แล้วขัดรัฐธรรมนูญหรือเปล่า ใครจะตีความ ในเมื่อ คสช.เป็นรัฏฐาธิปัตย์ รัฐธรรมนูญไม่ได้บัญญัติความผิดของ คสช.

ก็เป็นอย่างที่เคยตั้งข้อสังเกตไว้ กรรมการสรรหา ส.ว.อาจไม่มีการตั้งขึ้นเลย ไม่มีการสรรหาเลย จิ้มกันเองไม่กี่คน ก็เป็นได้ แต่ใครจะตรวจสอบ คสช. ว่าไม่ได้ทำตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ หรือรัฐธรรมนูญมีไว้บังคับคนอื่นเท่านั้น

 

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน: ข่าวหุ้นธุรกิจ https://www.kaohoon.com/content/299878

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net