Skip to main content
sharethis

กรณีกระทรวงพาณิชย์สั่งให้ยุติการนำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดมาจัดโปรโมชั่น ‘เดชรัต’ ชี้มีโปรเพราะต้องระบายสต็อกเก่า ราคาวัตถุดิบกับราคาน้ำมันอยู่คนละช่วงเวลากัน การขึ้นราคาน้ำมันจึงไม่ส่งผลต่อการขึ้นราคาวัตถุดิบ แนะรัฐบาลปล่อยให้เป็นตามกลไกตลาดแต่คอยดูว่าราคาของวัตถุดิบและน้ำมันปาล์มจะมีสัญญาณน่าเป็นห่วงหรือไม่ต่อจากนี้

 

 

14 มิ.ย. 2562 จากกรณีที่ กระทรวงพาณิชย์สั่งให้ยุติการนำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสำหรับการบริโภคมาจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา หากพบว่าใครที่ไม่ให้ความร่วมมือ จะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2562 ฐานขายสินค้าขาดทุนต่อเนื่อง และจะส่งให้คณะกรรมการแข่งขันทางการค้าพิจารณาต่อไป

โดยปัจจุบันราคาขายปกติของน้ำมันปาล์มในห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าปลีกตกอยู่ที่ประมาณ 34-36 บาท แต่หากเกิดการทำโปรโมชั่นขึ้นมา ราคาน้ำมันปาล์มจะตกไปอยู่ที่ประมาณขวดละ 24-25 บาท

ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้เหตุผลว่า หากห้างสรรพสินค้าขายน้ำมันปาล์มขวดในราคาที่ต่ำเนื่อง จะยิ่งกดดันให้ราคาผลปาล์มสดและน้ำมันปาล์มดิบลดลงอีก ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะขายผลผลิตได้ในราคาไม่คุ้มต้นทุน

เป็นข้อสงสัยว่าจริงหรือไม่ที่หากกำหนดให้งดการจัดโปรโมชั่นแล้ว จะช่วยให้ผลผลิตของเกษตรกรมีราคาสูงขึ้น ประชาไทสัมภาษณ์ เดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ ม.เกษตรฯ เพื่อสอบถามข้อสงสัยดังกล่าว

เดชรัตให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ราคาปาล์มน้ำมันค่อยๆ ขยับขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะนโยบายด้านพลังงานมากกว่า เช่น การรับซื้อปาล์มเพื่อมาผลิตไบโอดีเซล ส่วนตอนแรกที่มีการลดราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเป็นเพราะผู้ประกอบการต้องการระบายสต็อกที่มีอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีผลทำให้ราคารับซื้อปาล์มลดลง

เดชรัตมองว่า รัฐบาลอาจจะหวังดีแต่เข้าใจผิด มองว่าถ้าราคาปาล์มขณะนี้ขึ้นมาที่ประมาณ 3 บาทจากเดือนที่แล้วอยู่ที่ 1 บาทกว่า ดังนั้นราคาน้ำมันพืชควรไปอยู่ที่ 35 บาท แต่จริงๆ ราคาวัตถุดิบกับราคาน้ำมันอยู่คนละช่วงเวลากัน เพราะกระบวนการสกัดมีหลายขั้นตอน จากน้ำมันปาล์มดิบ เป็นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา จึงคำนวณ ณ วันเดียวกันไม่ได้ รัฐบาลอาจเข้าใจว่าถ้าเราขึ้นราคาน้ำมันพืชเดี๋ยวนี้ จะไปขึ้นราคาน้ำมันปาล์มทันที ซึ่งไม่ใช่

“ดังนั้นแล้วการกำหนดให้ราคาน้ำมันปาล์มสูงขึ้นจึงไม่ช่วยอะไร และจริงๆ ถ้ามีปัญหาราคาตกผู้ประกอบการจะเป็นคนโวยก่อน เช่น ผู้ขายน้ำมันปาล์มดิบ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่ขายให้บริษัททำน้ำมันพืชบรรจุขวด แต่ตอนนี้ไม่มีใครโวย จึงไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไรรัฐบาลถึงต้องมีมาตรการนี้” เดชรัตกล่าว

เดชรัตเห็นว่า ตราบใดที่โรงงานน้ำมันปาล์มดิบยังขายได้ในราคาที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ก็ไม่น่าติดใจว่าคนที่ขายน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์จะขายราคาเท่าไหร่ ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด แต่ก็ต้องดูราคาน้ำมันปาล์มดิบและปาล์มว่าไปด้วยกันดีไหม เป็นแนวที่เป็นขาขึ้นไหม ณ ตอนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณน่าเป็นห่วง ราคาน้ำมันปาล์มดิบยังขยับขึ้นได้ ดังนั้นน้ำมันปาล์มที่ราคาลดลงก่อนหน้านี้ เข้าใจว่าเป็นโปรโมชั่นทางการตลาด เป็นการระบายสต็อกเก่าเพื่อรอรับสต็อกใหม่

เดชรัตเสริมว่า ส่วนที่ราคาปาล์มตกก่อนหน้านี้สาเหตุหนึ่งคือ สต็อกควรมีอยู่ไม่เกิน 400,000 ตัน แต่ปลายปีที่แล้วเพิ่มเป็น 700,000 ตัน พอสต็อกเพิ่มเยอะจึงไม่มีใครอยากรับซื้อปาล์มจากชาวบ้านมา ราคาปาล์มจึงตก

“ถึงไม่มีนโยบาย ก็ไม่น่ายืนที่ 24 บาทนาน ราคาอาจจะค่อยๆขึ้นมา ถ้าเขาระบายสต็อกหมด แต่ถ้ารัฐบาลสามารถกำหนดส่วนต่างเป้าหมาย เช่น ตั้งราคาน้ำมันปาล์มที่ 25 โดยคำนวณว่าราคาปาล์มควรจะอยู่ที่เท่าไหร่” เดชรัตกล่าว

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net