Skip to main content
sharethis

ผู้ชุมนุมต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ที่ย่านแอดมิรัลตี ใกล้กับรัฐสภาและที่ทำการของรัฐบาลฮ่องกง เมื่อ 12 มิ.ย. 62 (ที่มา:Facebook/HKFP)

16 มิ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 70 นิสิตนักศึกษา อาจารย์ นักเขียน ผู้ประกอบสื่อสารมวลชน และประชาชนชาวไทย ได้รวมลงชื่อในแถลงการณ์สนับสนุนการต่อสู้ของชาวฮ่องกง ในการต่อต้านการผลักดันกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของคณะผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยชี้ให้เห็นว่าความพยายามดังกล่าวเป็นการแทรกแซงทางการเมืองของรัฐบาลจีน และเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกง จนทำให้ชาวฮ่องกงกว่าล้านคนออกมาชุมนุมคัดค้านบนท้องถนนอย่างสันติแต่กลับถูกคณะผู้บริหารสั่งสลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้บาดเจ็บ จึงขอเรียกร้องให้แครี่ แลม ผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้กำลังความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม พร้อมออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการใช้ความรุนแรงดังกล่าว และขอให้รับฟังเสียงของประชาชนชาวฮ่องกงต่อร่างกฎหมายนี้ให้มากขึ้น พร้อมขอให้ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกโดยเร็ว

พวกเรากลุ่มสิทธิมนุษยชนไร้พรมแดน นิสิตนักศึกษา อาจารย์ นักเขียน ผู้ประกอบสื่อสารมวลชน และประชาชนชาวไทยผู้รักความยุติธรรมมีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการผลักดันการออกกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของคณะผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เนื่องด้วยกฎหมายดังกล่าวเปิดช่องให้รัฐบาลสามารถส่งตัวประชาชนชาวฮ่องกงที่แสดงความคิดเห็นแตกต่างหรือกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ไปดำเนินคดีภายใต้กระบวนการยุติธรรมของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้

ความพยายามออกพระราชบัญญัติดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งประจักษ์พยานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงการแทรกแซงทางการเมืองและการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวฮ่องกงโดยรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงการละเมิดแนวคิดหนึ่งประเทศสองระบบซึ่งรัฐบาลจีนเคยให้คำมั่นสัญญาไว้ว่าจะให้อิสระแก่ชาวฮ่องกงในการตัดสินอนาคตของตนเอง

ทว่าตลอดช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จีนแผ่ขยายอิทธิพลทางการเมืองสู่ฮ่องกง และเชื่อได้ว่ารัฐบาลจีนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกรณีเจ้าของร้านหนังสือถูกบังคับให้สูญหายที่คอสเวย์เบย์ กรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีความคิดเห็นแตกต่างจากรัฐบาลจีนถูกปลดออกหรือจำคุก กรณีการปิดกั้นเสรีภาพทางศาสนาและการจับกุมชาวอุยกูร์เข้าไปในค่ายกักกัน และกรณี โจชัว หว่อง หนึ่งในผู้นำขบวนการร่มถูกขัดขวางไม่ให้เข้าร่วมปาฐกถาของงานเสวนาที่จัดโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและไม่ให้เข้าประเทศไทย ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการแทรกแซงทางการเมืองของรัฐบาลจีน รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียสิทธิเสรีภาพและอาจเกิดภัยคุกคามต่อนักกิจกรรมและประชาชนชาวฮ่องกงที่คิดเห็นแตกต่างจากจีน

ด้วยความน่ากังวลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ แม้กระทั่งอดีตเจ้าพนักงานชั้นสูงของฮ่องกง ทั้งอดีตผู้บริหารฝ่ายสวัสดิการและผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายคมนาคม ก็ออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ถอนกฎหมายนี้ และรับฟังความคิดเห็นของพลเมืองฮ่องกงให้มากขึ้น พวกเขากล่าวว่า “เราเป็นชาวฮ่องกงโดยกำเนิด เรารักเมืองและประเทศของเรา เราขอให้ผู้บริหารฮ่องกงถอนกฎหมายนี้อย่างเร็วเท่าที่จะทำได้ และเปิดพื้นที่การสนทนาถกเถียงด้วยเหตุผลขึ้น”

ล่าสุด มีชาวฮ่องกงมากกว่าหนึ่งล้านคนหรือประมาณหนึ่งในเจ็ดของประชากรทั้งเขตร่วมกันออกมาชุมนุมต่อต้านการออกกฎหมายนี้ พวกเขาร่วมมือร่วมใจนัดหยุดงานหยุดกิจกรรมอื่นๆ เพื่อประท้วงการกระทำของคณะผู้บริหาร หลังจากที่พวกเราทราบข่าวการชุมนุมประท้วง พวกเราก็รู้สึกชื่นชมเป็นอย่างยิ่งต่อการเกิดขบวนการประชาชนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องเสรีภาพของตนเอง การชุมนุมประท้วงในครั้งนี้ช่วยปลุกเร้าให้พวกเราชาวไทยและคนอื่นๆ ในโลกมีความรักความหวงแหนในสิทธิ และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิและเสรีภาพของตนเอง

ทว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้การชุมนุมจะดำเนินไปอย่างสันติและใช้ความระมัดระวังอย่างสูงสุด การสลายการชุมนุมและการใช้ความรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เกิดขึ้น มีการใช้แก๊สน้ำตา พ่นสเปรย์พริกไทย และยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม หลายสำนักข่าวรายงานว่ามีเด็กนักเรียนและนิสิตนักศึกษาได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิงจำนวนหลายคน อีกทั้งมีคลิปวิดีโอยืนยันว่ามีผู้หญิงวัยกลางคนถูกตำรวจยิงด้วยกระสุนยางจนได้รับบาดเจ็บด้วย องค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวถึงความไม่ชอบธรรมของการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมในครั้งนี้ว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจฉกฉวยโอกาสโดยอ้างการกระทำของคนกลุ่มน้อยเพื่อใช้กำลังโจมตีต่อคนกลุ่มใหญ่ซึ่งชุมนุมอย่างสันติ” เขากล่าวว่าการกระทำนี้ “ละเมิดหลักสากลว่าด้วยการควบคุมการชุมนุม”

พวกเราขอเรียกร้องให้นางแครี่ แลม ผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้กำลังความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม พร้อมออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการใช้ความรุนแรงดังกล่าว และขอให้รับฟังเสียงของประชาชนชาวฮ่องกงต่อร่างกฎหมายนี้ให้มากขึ้น และขอให้ถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกโดยเร็ว

ผู้ร่วมลงชื่อ ทั้ง 70 คน มีดังนี้
พิพัฒน์ พสุธารชาติ ILLUMINATIONS EDITIONS
ภัควดี วีระภาสพงษ์
วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล, สิทธิมนุษยชนไร้พรมแดน
สุกฤษฎ์ เพียรสุวรรณ National Chengchi University
พิภพ อุดมอิทธิพงศ์ อิสระ
บารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน
รจเรข วัฒนพาณิชย์ Book Re:public
ลภาพรรณ ศุภมันตา สมาคมวิถีชนบท
พงษ์สิทธิ์ กิจถาวรรัตน์ สมัชชาคนจน
สุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ
กนกรัตน์ สถิตนิรามัย คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
จักรกฤษณ์ จักรแก้ว มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ชมรมสภาจำลอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
ณัฐนิชา จันทิพย์ เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก
บุญเลิศ วิเศษปรีชา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ธิดา ผลิตผลการพิมพ์ BIOSCOPE
ณัฏฐา มหัทธนา
อานนท์ นำภา
ธัญชนก คชพัชรินทร์ กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท
อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล
กฤดิกร วงศ์สว่างพานิช
อนุสรณ์ อุณโณ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
วิวัฒน์ เลิศวิวัฒน์วงศา
โกวิทย์​ ปวงเหมือง​
วชิรวิทย์ แสนพระวัง
พรพิศ ผักไหม
ภาสิทธิ์ กิจถาวรรัตน์
เพียร​พิไล​ ธรรม​ลิขิต​ชัย
สรวิสิฐ โตท่าโรง
สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ
เฉลิมชัย ทองสุข
ภิศิษฐ์ วงศ์ทอง
ชนมน วังทิพย์
ชัชวาล ปุญปัน
บัณฑิต ไกรวิจิตร
ชณิตา ชาญอนุสรสิทธิ์
นพพร ศักดานเรศว์
จามีกร อำนาจผูก
ประสิทธิ์​ ครุ​ธ​า​โรจน์​
ณัฐนันท์ ทองเกื้อสกุล
วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
ปุณพจน์​ ศรีเพ็ญจันทร์
พรพรรณ วรรณา
*
นพดล พอใจ
จรัล ดิษฐาภิชัย
ธนวัฒน์ วงค์ไชย
เทพ​พิทักษ์​ มะลา​ศรี​
เฟื่องเฉลย สังข์สกฤษณ์
พนัตดา สรสิทธิ์
ชินวัตร จันทร์กระจ่าง
บริพัตร เวศร์ภาดา
ภัคพงศ์ อนุพงศ์รัตน์
ศรีศิริ ศิริรัชตกูล
ฐานวัฒน์ ศิลานันท์
วิศรุต เหล็มหมาด
ธีรพร อรุณกาญจนโรจน์
เบญจ ณ นคร
บุญยืน สุขใหม่
สุวิมล ทับเที่ยง
กุลภรณ์ จงเจริญ
Duangsiri Sriphetcharawut
อิศรา สุวรรณประพิศ
คณิศร แพงกัลยา
สุวัฒน์ ลิ้มสุวรรณ
สุรชัย ผลาผล
นิตยา ตุงคะโกมุท
มีชัย ม่วงมนตรี
สุรสิทธิ์ น่วมศิริ

* หมายเหตุ ประชาไทนำรายชื่อในตำแหน่ง * ออก วันที่ 15.30 น. วันที่ 23 มิ.ย.2563 เนื่องด้วยเจ้าของชื่อดังกล่าวกังวลเรื่องความมั่นคงในการทำงาน เพราะต้องทำงานติดต่อกับลูกค้าและนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน ซึ่งมักมีความคิดทางการเมืองแตกต่างไปจากตน จึงแจ้งความจำนงขอปกปิดชื่อ-นามสกุล กองบรรณาธิการประชาไทพิจารณาแล้วงานดังกล่าวไม่มีผลต้องรับผิดชอบต่อสาธารณะจึงดำเนินการตามคำขอของเจ้าของชื่อ-สกุล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net