Skip to main content
sharethis

ปิยบุตร เลขาฯอนาคตใหม่ ชี้ 'ประยุทธ์' เป็น 'นายกฯ ตุหรัดตุเหร่' เป็นนายกฯใหม่ นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม.เก่าไม่ได้ ส่วนจะเป็นรักษาการนายกฯ ก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้มีตำแหน่งนายกฯคนใหม่เกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทีมอนาคตใหม่ยังชวนจับตามองครบ 7 วันหลังชวนยื่นเรื่อง 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับกรณี 'ธนาธร' หรือไม่

18 มิ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจ 'Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล'  ในหัวข้อ "พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีได้" โดยชี้ว่า หลังมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.แล้ว หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้อำนาจนายกฯคนใหม่ และนั่งหัวโต๊ะในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ ก็ต้องตั้ง ครม.ให้แล้วเสร็จ และนำรายชื่อ ครม. ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯให้พระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง แล้วนำ ครม. ทั้งชุดไปถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงจะปฏิบัติหน้าที่ได้เท่านั้น แต่ตอนนี้มีปัญหาการตั้ง ครม.ไม่ได้ แบ่งเค้กไม่เสร็จ จึงส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็น “นายกฯ ตุหรัดตุเหร่” เป็นนายกฯ แต่ทำงานไม่ได้

ปิยบุตร ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ หลังลังมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ใหม่แล้ว จะไปนั่งหัวโต๊ะในที่ประชุม ครม. ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้อีก เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของ ครม. ชุดนี้แล้ว จะเป็นรักษาการนายกฯ ก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้มีตำแหน่งนายกฯคนใหม่เกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา

มีรายละเอียดดังนี้ : 

พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีได้

รัฐธรรมนูญพิสดารพันลึกได้กำหนดกลไกที่เอื้อต่อการสืบทอดอำนาจ คสช. ชนิดที่เรียกได้ว่า คนแบบ พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเป็นได้ทุกอย่าง ครองอำนาจอย่างต่อเนื่องแบบไร้รอยตะเข็บ

ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ มีสองร่าง ได้แก่ หัวหน้า คสช. ซึ่งเกิดจากรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 และนายกรัฐมนตรีซึ่งเกิดจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ยามใดอยากมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก็หันไปสวมร่างหัวหน้า คสช. เพื่อใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยามใดอยากเข้าเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร นั่งหัวโต๊ะในการประชุมคณะรัฐมนตรี ก็หันไปสวมร่างนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามกฎหมายตามระบบปกติ

วันที่ 9 มิถุนายน 2562 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญ 2560

นับแต่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงมีร่างใหม่ขึ้นมา

ณ ปัจจุบัน พล.อ.ประยุทธ์ มีสองร่าง

ร่างแรก หัวหน้า คสช. ซึ่งร่างนี้จะดับสูญลงเมื่อมีคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 265

ร่างที่สอง นายกรัฐมนตรี ตามกระบวนการได้มาตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 มาตรา 159 และมาตรา 172

ส่วนร่างเดิม คือ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เกิดขึ้นตามรัฐธรรมนูญ 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ครองไว้ตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2557 นั้น ย่อมสิ้นสุดลงเมื่อมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2562

พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถครองตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนเดิม และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ได้พร้อมๆ กัน

พระบรมราชโองการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ได้ทับแทนที่ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนหน้านั้นไปแล้ว

หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และนั่งหัวโต๊ะในการประชุมคณะรัฐมนตรีได้ ก็ต้องตั้งคณะรัฐมนตรีให้แล้วเสร็จ และนำรายชื่อ ครม. ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯให้พระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยแต่งตั้ง แล้วนำ ครม. ทั้งชุดไปถวายสัตย์ปฏิญาณ จึงจะปฏิบัติหน้าที่ได้

ในขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จะไปนั่งหัวโต๊ะในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดที่มีนายวิษณุ เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายดอน เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ฯลฯ อยู่เวลานี้ที่ครองอำนาจอยู่เพราะผลของรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ที่ให้เป็นต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับหน้าที่) ก็ไม่ได้อีก เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของ ครม. ชุดนี้แล้ว จะเป็นรักษาการนายกฯ ก็ไม่ได้ เพราะ ตอนนี้มีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เกิดขึ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2562

ณ เวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเป็นนายกรัฐมนตรีที่สมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ แต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ได้เลย จะเป็นนายกฯ คนใหม่ได้ ก็ต้องตั้ง ครม. และถวายสัตย์ จะไปเป็นนายกฯ คนเก่า ตำแหน่งนี้ก็หายไปแล้ว

แต่ปรากฏว่าในสัปดาห์ที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ยังเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีอยู่ และในสัปดาห์นี้ก็ยังเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีอีก และดูทีท่าว่าจะเข้าร่วม ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 (34th ASEAN Summit) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพอีกด้วย

การประชุมคณะรัฐมนตรีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปนั่งหัวโต๊ะ มติ ครม. จากการประชุม ตลอดจนการลงนามของ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในเอกสาร คำสั่งต่างๆ ย่อมตกเป็นโมฆะ ไม่มีผลทางกฎหมาย เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ปราศจากอำนาจอย่างชัดแจ้ง

ปัญหาการตั้งคณะรัฐมนตรีไม่ได้ แบ่งเค้กไม่เสร็จ จึงส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็น “นายกฯ ตุหรัดตุเหร่” เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ทำงานไม่ได้

ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ อยากทำงานในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ พล.อ.ประยุทธ์ คงต้องจัดการแบ่งเค้กเก้าอี้รัฐมนตรีให้เสร็จโดยเร็ว

นี่คือสิ่งที่คนเขียนรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้คาดคิดไว้ ก็ใครจะไปรู้ว่า สุดท้ายรัฐบาลชุดใหม่ จะเป็นรัฐบาล “สหพรรค-เสียงปริ่มน้ำ”จนเกิดปัญหาการแบ่งเก้าอี้กันยากขนาดนี้

'อนาคตใหม่' ชวนจับตามองครบ 7 วันหลังชวนยื่นเรื่อง 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกับกรณี 'ธนาธร' หรือไม่

วันเดียวกัน ที่พรรคอนาคตใหม่ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง, ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, และ นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ทีมรองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าวในประเด็นสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

ณัฐชา กล่าวถึงกรณีที่ทีม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ได้ยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และได้มีการนำเรื่องส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญไปเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในกรณีการถือหุ้นสื่อของ 41 ส.ส.พรรคฝ่ายรัฐบาล ที่มีลักษณะเดียวกันกับกรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งสองรายที่ถูก กกต.ตัดสิทธิ์ไปก่อนหน้านี้ คือนายภูวเบศร์ เห็นหลอด อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.สกลนคร และอดีตผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย จ.ลพบุรี นั้น สิ่งที่อยากขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันจับตามอง คือ กระบวนการที่จะเกิดขึ้น จะเป็นไปตามเงื่อนไขเวลาแบบเดียวกันกับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ทาง กกต.ได้ส่งเรื่องไปทางศาลรัฐธรรมนูญเช่นกัน เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2562 และศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาในวันที่ 23 พ.ค.ใช้ระยะเวลา 7 วัน 

“ในกรณี 41 ส.ส.นี้ หากเป็นการพิจารณาคดีที่มีกระบวนการเดียวกัน เราตั้งข้อสังเกตว่าควรจะมีผลการพิจารณาคดีออกมาภายใน 7 วัน นั่นก็คือวันพรุ่งนี้ วันที่ 19 มิถุนายน 2562 เพราะฉะนั้น เราอยากให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนร่วมกันสังเกตการณ์ตรวจสอบการพิจารณาคดีครั้งนี้ ว่าผลการพิจารณาจะออกมาหรือไม่ ในทิศทางไหน” ณัฐชากล่าว

ณัฐชา กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมา คือการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส. ในช่วงที่ผ่านมา 
ร่วมกันลงทำงานในพื้นที่ควบคู่กันไปกับการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ ขณะที่บรรยากาศฝ่ายรัฐบาลกำลังมีการขับเคี่ยวแย่งชิงตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีต่างๆ ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่ได้เดินหน้าทำงานต่อแล้วตามเจตนารมณ์ที่จะลงรับฟังปัญหาจากประชาชน เพื่อนำไปเชื่อมโยงกับการทำหน้าที่ในสภา โดยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีการจัดเสวนาในประเด็นปัญหาการทำประมงที่จังหวัดตราด, การเปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร, การลงพื้นที่เสวนาเรื่องการกระจายอำนาจที่จังหวัดพิษณุโลก และการขับเคลื่อนประเด็นของ ส.ส. รวมถึง คณะทำงานของแต่ละจังหวัดตามพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ

นพ.วาโย กล่าวเสริม กรณี 41 ส.ส.ถือหุ้นบริษัทสื่อนั้นที่จริงแล้วพรรคอนาคตใหม่ไม่เห็นด้วยกับการใช้หนังสือบริคนสนธิในการตัดสินว่าบุคคลใดถือหุ้นสื่อหรือไม่ เพราะเป็นการผิดต่อเจตนารมณ์ที่แท้จริงของกฎหมาย แต่พรรคต้องการให้ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนออกมาร่วมกันจับตาตรวจสอบว่าการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันหรือไม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net