Skip to main content
sharethis

ทีนิวส์แถลงตอบโต้กรณีอาจารย์ มช. กรณีบทความ "ปฏิกษัตริย์นิยม" แจง ปฏิกษัตริย์นิยมไม่ได้แปลว่าล้มเจ้า ยืนยัน ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ มุ่งลดทอนอำนาจสถาบันกษัตริย์ทั้งในกฎหมายและวัฒนธรรม คนที่สนับสนุนและปกป้องแปลว่าไม่ได้ปฏิเสธ สื่อและสังคมมีสิทธิตั้งคำถามได้ ขอให้นักวิชาการเปิดเผยจุดยืนให้ชัดเจน

ที่มาภาพ:Youtube/Tnews-ทีนิวส์ออนไลน์

19 มิ.ย. 2562 เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (14 มิ.ย. 2562) สำนักข่าวทีนิวส์เผยแพร่บทความตอบโต้ สืบเนื่องจากอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกอบด้วยดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล นัทมน คงเจริญ รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุลและสงกรานต์ ป้องบุญจันทร์ ลงชื่อในแถลงการณ์เรื่อง "หยุดพฤติกรรมสำนักข่าวทีนิวส์ก่อนกลายเป็นดาวสยาม 2562" เพราะทีนิวส์เผยแพร่บทความเรื่อง "เบ้าหลอมความคิด “ปฏิกษัตริย์นิยม" ที่มีการออกชื่อและที่ทำงานของนักวิชาการจำนวนมาก

นักวิชาการ มช. เตรียมดำเนินการทางกฎหมาย 'ทีนิวส์' จากบทความ 'ปฏิกษัตริย์นิยม'

ทีนิวส์ให้เหตุผลว่า สื่อ​และสังคมมีสิทธิ์ตรวจสอบ​อาจารย์มหาลัยฯที่สนับสนุน​อนาคตใหม่ที่มีความคิด​ปฏิกษัตริย์นิยม และสิ่งที่ทีนิวส์เขียนนั้นเป็นข้อเท็จจริง มีใจความโดยสังเขป ดังนี้

สำนักข่าวทีนิวส์ถือว่าแถลงการณ์ "หยุดพฤติกรรมสำนักข่าวทีนิวส์ก่อนกลายเป็นดาวสยาม 2562" เป็นพฤติกรรมปรักปรำสำนักข่าวทีนิวส์โดยปราศจากข้อมูลความจริง​ และเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อว่าบุคคลระดับปัญญาชน​ เป็นครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัย​ จะมีพฤติกรรมที่เยี่ยงนี้​ เพราะ นสพ.​ ดาวสยาม​ เป็นสื่อที่สร้างข่าวเท็จ​ สร้างข้อมูลเท็จเพื่อกระตุ้นเร้ามวลชนฝ่ายขวาจัดให้โกรธแค้นนักศึกษาและฝ่ายซ้ายในเหตุการณ์​ 6​ ตุลาฯ​

แต่​ สิ่งที่สำนักข่าวทีนิวส์นำเสนอนั้นไม่ใช่ข่าวเท็จ​ หรือ​ข้อมูลเท็จ​ แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ต่อสังคมแล้วทั้งสิ้น

ข้อเท็จจริงที่ว่านั้นก็คือ

  1. ความคิดทางวิชาการของธนาธร-ปิยบุตร​แห่งพรรคอนาคตใหม่​ ที่ถูกสังคมตั้งถามถามและตรวจสอบอย่างรุนแรงในช่วงวันที่​ 5​ เม.ย.2562​ นั้น​ คือความคิดแบบปฏิกษัตริย์นิยม​ คือ​การดำรงอยู่ของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่เป็นมาโดยตลอดในสังคมไทยไม่สามารถไปด้วยกันได้กับการเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง​ กระทั่งจะต้องมีการดำเนินการลดทอนสถานะและอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งในทางรัฐธรรมนูญ​ ทางกฎหมาย​ และทางวัฒนธรรม​ (ดังที่มีความพยายามดำเนินการตลอดมา)​เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์​ โดยแท้จริง
  2. ธนาธร​ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่​ ต้องการมีอำนาจเพื่อ​ "ต่อรอง" กับสถาบันพระมหากษัตริย์ และอ้างถึงบทสัมภาษณ์ของธนาธรในหนังสือเรื่อง Portrait ธนาธร ที่​ สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรมกล่าวเมื่อ 9​ มิ.ย.​ 2562 ใน คม​ ชัด​ ลึก​ สุดสัปดาห์)​ 
  3. ส่วนปิยบุตร​ เลขาพรรคอนาคตใหม่ฯ แสดงความเห็นทางวิชาการเรื่องการเปลี่ยนผ่านจากระบบกษัตริย์ไปสู่ระบบประชาธิปไตยในต่างประเทศของปิยบุตร(ต่างกรรมต่างวาระ)​เรื่อง​"ระบอบประชาธิปไตยที่อนุญาตให้มีพระมหากษัตริย์" ที่กล่าวถึง​ การลงประชามติตามรัฐธรรมนูญว่าจะให้สถาบันกษัตริย์ดำรงอยู่หรือสลายไป
  4. พรรณิการ์​โฆษกพรรค​ โพสต์รูป​หมิ่นเหม่​ในปีที่จบรับปริญญา​ คือ​ปี​ 2553​ "พรรณิการ์" เข้าเรียนที่รัฐศาสตร์จุฬาฯ​ปี​ 2550​ หลังปีที่​ คมช.ทำรัฐประหารรัฐบาลทักษิณ​ ซึ่งเป็นปีที่เริ่มมีความเคลื่อนไหวของการต่อต้านสถาบันปรากฏขึ้นมาใหม่ในกลุ่มฐานมวลชนเสื้อแดงของทักษิณ​และกลุ่มที่ต่อต้านรัฐประหาร ต่อมาจึงมาทำงานที่​ Voice​TV​ ปี​ 2554​ ซึ่งยังคงอยู่ในกลุ่มเครือข่ายของทักษิณ​ จนลาออกมาเล่นการเมืองกับพรรคอนาคตใหม่​ (ที่เป็นแนวร่วมกับฝ่ายทักษิณ)​ ในปี​ 2560​ จนถึงปัจจุบัน​ รวมระยะเวลาก็ร่วม​ 10​ ปี
  5. ความคิดของปิยบุตร​-ธนาธร​-พรรณิการ์ที่เป็นนิสิต​ นักศึกษา​จนมากลายเป็นแกนนำสำคัญของพรรคอนาคตใหม่ เป็นความคิดในทิศทางแบบเดียวกันคือ​ "ลดทอนสถานะและอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งในทางรัฐธรรมนูญ​ ทางกฎหมาย​ และทางวัฒนธรรม" ซึ่งความคิดนี้สังคมสามารถตั้งคำถามได้ว่า​ มีที่มาอย่างไร เป็นความคิดที่ได้รับการอบรมบ่มเพาะมาในรั้วมหาวิทยาลัยหรือไม่
  6. 69​ นักวิชาการที่ระบุว่า​ "เป็นรายชื่อที่แสดงเจตนาสนับสนุนแถลงการณ์ ในวันที่ 5 เม.ย. พ.ศ. 2562 เรื่อง การแทรกแซงการเลือกตั้งและการคุกคามพรรคการเมือง คือการบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตยด้วยข้อกังวลต่อการดำเนินคดีต่อ ปิยบุตร แสงกนกกุล อันเนื่องมาจากการสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการ" ได้รับรู้​ รับทราบ​ พฤติกรรมของ​ ธนาธร ปิยบุตร​ และ​ พรรณิการ์​ (ตามข้อเท็จจริง​ 2,3 และ​ 4) หรือไม่? อย่างน้อยก็ต้องรับรู้พฤติกรรมในข้อ​เท็จจริง 3​ ของปิยบุตร​ (เพราะยอมลงชื่อออกแถลงการณ์มาปกป้อง)​ ซึ่งเท่ากับว่า​ 69​ นักวิชาการ​ (รวมถึง​ 4​ อาจารย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)​ ย่อมรับทราบและไม่ปฏิเสธความคิดแบบ​ "ปฏิกษัตริย์นิยม" ของปิยบุตร​ ใช่หรือไม่?
  7. ในเมื่อทั้งธนาธร​ ปิยบุตรและพรรณิการ์​ มีความคิดและพฤติกรรมอันเป็นข้อเท็จจริงว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน​ การสนับสนุนและปกป้องความคิดของใครคนใดคนหนึ่ง​ก็ย่อมแสดงนัยถึงการไม่ปฏิเสธความคิดและการกระทำของคนอื่นๆไปด้วยใช่หรือไม่ ตรงนี้สังคมมีสิทธิ์ตั้งคำถาม​ ว่าการที่นักวิชาการออกมาปกป้องการแสดงออกทางวิชาการแบบปฏิกษัตริย์นิยมที่รุนแรงของปิยบุตร​นั้น​เท่ากับการสนับสนุนหรือยอมรับความคิดเหล่านี้ไปด้วยหรือไม่ อันจะแสดงให้เห็นว่า​ การเคลื่อนไหวของพรรคอนาคตใหม่​ และกลุ่มนักวิชาการ-อาจารย์มหาวิทยาลัยกลุ่มนี้​ เป็นไปในทิศทางสนับสนุนซึ่งกันและกัน​และมีรายชื่อปรากฏอยู่ในกลุ่มเคลื่อนไหวอื่นๆ​

(ทีนิวส์ยังได้ออกชื่อนักวิชาการที่อยู่ในกลุ่ม 118 รายชื่อรณรงค์แก้ ม.112 และผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนใจล์ อึ๊งภากรณ์ ยกเลิก ป.อาญา ม.112 ปี 2552)

และใช่หรือไม่ที่จะมีการสอน​ และปลูกฝัง​ ความคิดเหล่านี้ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ​หลายแห่ง โดยที่สังคมภายนอกไม่ได้รับรู้รับทราบโดยอ้างเสรีภาพทางวิชาการเพื่อปกปิดการตรวจสอบจากสื่อและสังคม

สำนักข่าวทีนิวส์ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนแล้วว่า​ พรรคอนาคตใหม่และธนาธร​มีความคิดและทัศนะที่เป็นอันตราย​  ทั้งนี้​ เป็นความชัดเจนว่าสำนักข่าวทีนิวส์แยกกลุ่มความคิดแบบปฏิกษัตริย์นิยม(ของอนาคตใหม่)​ ออกจากขบวนการล้มเจ้า​  เพราะตามข้อเท็จจริงที่ประจักษ์สู่ภายนอก​ ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้แสดงท่าทีล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์แบบพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(ที่มีอาจารย์มหาวิทยาลัยหลายคนเคยเข้าป่า​ ร่วมเป็นสมาชิก)​

และสำนักข่าวทีนิวส์ได้เรียกร้องเสมอมาว่า​ ถ้าเชื่อมั่นว่ามีอุดมการณ์​ และอุดมการณ์ของตนถูกต้อง​ ก็ให้ประกาศให้สังคมรับทราบไปเลยโดยเปิดเผย​ เพื่อที่ผู้คนจะได้ตัดสินใจ​ อย่าปิดบัง​ ซ่อนเร้น​ อำพราง​ โกหกประชาชน​ คนทั่วไปได้เข้าใจเพียงในด้านเดียว​ หรือเข้าใจเป็นอื่น​

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net