ภาคประชาชน-ประชาสังคมในอาเซียนและที่อื่นรวม 110 องค์กร เข้าชื่อในแถลงการณ์ถึงผู้นำอาเซียนเนื่องในวาระอาเซียนซัมมิต ข้อเรียกร้อง 14 ข้อ ขอให้มีเสาหลักด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเสาที่สี่ ให้รัฐบาล ภาคธุรกิจเคารพบทบาท สิทธิ การดำรงชีวิตของประชาชน
ที่มา: แฟ้มภาพ
20 มิ.ย. 2562 กลุ่มประชาชน องค์กรประชาสังคมในภูมิภาคอาเซียนและอื่นๆ จำนวน 110 ชื่อ/องค์กร ออกแถลงการณ์เปิดผนึกต่อผู้นำอาเซียน เนื่องในโอกาสที่จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ในวันที่ 20-23 มิ.ย. 2562
แถลงการณ์มีข้อเรียกร้อง 14 ข้อ ใจความมุ่งให้เกิดความเข้าใจร่วมกันว่า "อาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง" ไม่อาจเกิดขึ้นได้ จนกว่ารัฐบาลในอาเซียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคธุรกิจและบรรษัท จะให้ความเคารพอย่างแท้จริง ต่อบทบาท สิทธิ และการดำรงชีวิตของประชาชน
นอกจากนั้น แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้มีการจัดตั้งเสาที่สี่ของอาเซียนได้แก่เสาสิ่งแวดล้อมด้วย (ปัจจุบันมีสามเสาหลักได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน )
(แถลงการณ์ฉบับภาษาอังกฤษเผยแพร่ในเว็บไซต์ Focus on the Global South และมีการแถลงอีกครั้งในงาน “The ASEAN We Want: Testimony from Local Communities on Ecological Disastrous” ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย เมื่อ 18 มิ.ย. 2562)
20 มิถุนายน 2562
อาเซียนที่เราต้องการ: คำแถลงเปิดผนึกต่อผู้นำอาเซียน
คำแถลงเปิดผนึกต่อผู้นำอาเซียน ได้จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสการพบปะกันของผู้นำอาเซียนในกรุงเทพ เนื่องในวาระการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 34 โดยชุมชน องค์กรประชาสังคมและเครือข่ายภาคประชาชน ได้ร่วมกันกระตุ้นเตือนเพื่อให้เกิดการให้ความเคารพต่อสิทธิและวิถีชีวิตของผู้คน
ด้วยข้อสังเกตว่า การบูรณาการทางเศรษฐกิจอาเซียน เป็นแนวทางที่ให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของนักลงทุนเป็นที่ตั้ง ไม่และให้ความสนใจเพียงน้อยนิดต่อผลกระทบเชิงลบที่กำลังเกิดขึ้นกับดินแดนที่อยู่อาศัย วิถีชีวิตและภาวะเศรษฐกิจของผู้คน แถลงการณ์ "อาเซียนเราต้องการ" นำเสนอความหวังของกลุ่มผู้ร่วมลงนามที่อยากเห็นอาเซียนที่มีความยุติธรรม มั่งคั่งและมีความยั่งยืนอย่างแท้จริง
แนวคิดหลักในการเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 34 คือ "ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน" (Advancing Partnership for Sustainability) อย่างไรก็ตาม 'ความยั่งยืน' ยังคงเป็นวาทกรรมเพื่อสร้างความชอบธรรมและเพื่อบดบังผลกระทบที่แผ่กว้างของโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งกำลังคุกคามชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน อีกทั้งยังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศของภูมิภาค
"สรุปในภาพรวม เราเรียกร้องให้เกิดความเข้าใจร่วมกันว่า “อาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ไม่อาจเกิดขึ้นได้ จนกว่ารัฐบาลในอาเซียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคธุรกิจและบรรษัท จะให้ความเคารพอย่างแท้จริง ต่อบทบาท สิทธิ และการดำรงชีวิตของประชาชน " คือข้อสรุปของแถลงการณ์
แถลงการณ์ระดับภูมิภาค/สากล
20 มิถุนายน 2562
อาเซียนที่เราต้องการ
ในปี 2552 องค์กรภาคประชาสังคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทำงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนในท้องถิ่นในประเด็นสิ่งแวดล้อม สังคม และสิทธิมนุษยชน ได้จัดทำ “กรอบข้อเสนอด้านสิ่งแวดล้อมของภาคประชาสังคมในอาเซียน” ให้เป็นข้อเสนอที่เป็นส่วนหนึ่งของกรอบการแลกเปลี่ยนกับกลไกอาเซียน ตามกรอบดังกล่าว มีข้อเสนอที่ว่า “อาเซียนควรริเริ่มเสาหลักทางยุทธศาสตร์ที่สี่ด้านสิ่งแวดล้อม และเตรียมแผนที่เป็นแม่พิมพ์ เพื่อกระตุ้นให้บรรดารัฐภาคีให้ความสำคัญกับการปฏิบัติที่ดีสุดระหว่างประเทศด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม โดยถือเป็นหัวใจของการตัดสินใจ” โดยครอบคลุมข้อกังวลหลักสามประเด็นในกรอบข้อเสนอ อันประกอบด้วย
1. โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ซึ่งส่งผลให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมและการดำรงชีวิต โดยเฉพาะเขื่อนผลิตไฟฟ้าในแม่น้ำโขงและสาละวิน และอุตสาหกรรมขุดเจาะแร่ธาตุ (น้ำมัน ก๊าซ และเหมืองแร่)
2. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเน้นให้เห็นมากยิ่งขึ้นถึงความเปราะบางในภูมิภาค
3. ความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งถูกคุกคามจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ เพื่อบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ของภูมิภาค ส่งผลให้ปัญหาความไม่เท่าเทียมและการขาดความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาคเลวร้ายลง และทำให้เกิดความ “ไม่สามารถเข้าถึงและไม่สามารถควบคุมที่ดิน น้ำ ทรัพยากรการผลิต ทรัพยากรด้านพันธุกรรม รวมทั้งการคุ้มครองทางสังคมได้”
แม้หลักฐานจะเป็นที่ประจักษ์มากขึ้นเรื่อยมา ว่าการทำลายและการทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม เป็นสาเหตุหลักของความไม่มั่นคงด้านการดำรงชีวิต และการละเมิดสิทธิของประชาชน แต่ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาล ภาคธุรกิจและบรรษัทในภูมิภาคอาเซียน กลับไม่เคยดำเนินการปรับปรุงเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม จึงส่งผลให้ประชาชนต้องประสบกับการสูญเสียที่ดิน ทรัพยากรน้ำ ป่าไม้ แร่ธาตุ ความหลากหลายทางชีวภาพ และคุณภาพอากาศที่ดีอย่างรวดเร็ว โดยผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเริ่มทำให้เกิดความไม่มั่นคงอย่างรุนแรงต่ออนาคตของประชาชน โดยเฉพาะผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในสภาพที่มีความเปราะบางทางนิเวศและเศรษฐกิจ
การให้ความสำคัญของอาเซียนต่อการบูรณาการด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยง ในการสร้างประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ส่งผลให้รัฐภาคียอมรับนักลงทุนจากต่างชาติ โดยแทบไม่ใส่ใจต่อผลกระทบด้านลบที่มีต่อประชาชนในประเทศของตนเอง ไม่ใส่ใจต่อการดำรงชีวิตและสภาพทางเศรษฐกิจของพวกเขา ในช่วงกว่าสิบปีที่ผ่านมา บรรดานักลงทุนเอกชนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจทางการเมืองและการเงิน และสถาบันการเงินระหว่างประเทศ ต่างดำเนินงานด้วยท่าทีรุกเร้ามากขึ้นทุกขณะ ในการเรียกร้องต่อรัฐบาลในอาเซียน และยังมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในการกำหนดกฎหมายและนโยบาย การยินยอมปฏิบัติตามกลไกคุ้มครองนักลงทุน รวมทั้งการระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐและเอกชนด้วยการใช้ระบบอนุญาโตตุลาการ (investor state dispute settlement - ISDS) เป็นเหตุให้รัฐบาลในอาเซียนอ่อนแอลงและไม่สามารถคุ้มครองประชาชน สิ่งแวดล้อมและประโยชน์สาธารณะของตนเอง จากการรุกรานของนักลงทุนได้
ในโอกาสการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2562 พวกเราที่เป็นประชาชน ชุมชน และองค์กรภาคประชาสังคมจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประชาคมระหว่างประเทศที่ใส่ใจ ขอแสดงความหวังและข้อเรียกร้องให้เกิดอาเซียนที่เป็นธรรม รุ่งเรือง และยั่งยืนอย่างแท้จริง จากประสบการณ์ของเรา และแนวโน้มที่ได้เห็นในระดับภูมิภาคและระดับโลก เราต้องการให้อาเซียนเป็นภูมิภาคซึ่ง
1. ทุกฝ่ายทุกคนยอมรับและเคารพคุณค่าของธรรมชาติ ในฐานะเป็นพื้นฐานของชีวิต และการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่มองเพียงคุณค่าของเงิน และไม่ถูกตีราคาเป็นสินค้าเพื่อซื้อขาย
2. ยอมรับว่าประโยชน์สาธารณะเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อคุ้มครองความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของชนชั้นนำและผู้ร่ำรวยในสังคม
3. การพัฒนาทางเศรษฐกิจต้องไม่ทำลาย หรือทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมทรามลง และไม่บั่นทอนการดำรงชีวิตและสิทธิของประชาชนและชุมชนในท้องถิ่น
4. มีการกระจายและกำกับดูแลการใช้ทรัพยากร เพื่อประกันให้เกิดการเข้าถึงที่เท่าเทียม โดยเฉพาะทรัพยากรที่สำคัญ อย่างเช่น อาหาร ที่ดิน น้ำ และพลังงาน และโดยเฉพาะสำหรับประชาชน/ชุมชนที่มีความเปราะบางด้านเศรษฐกิจและสังคม
5. รัฐบาลยอมรับ เคารพ และคุ้มครองบทบาทและความสำคัญของชุมชนในท้องถิ่น ในการปกป้องและฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และความหลากหลายของธรรมชาติ
6. ความหลากหลายหมายรวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์และเพศสภาพที่แตกต่างกัน ซึ่งพวกเขาควรสามารถปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมของตน โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสังคมและในทางกฎหมาย และได้รับการคุ้มครองไม่ให้ถูกปฏิบัติอย่างมีอคติและการเลือกปฏิบัติ
7. มีการยอมรับและสนับสนุนวิสัยทัศน์และการปฏิบัติของภาคประชาชนในทุกมิติ รวมทั้งอธิปไตยด้านอาหาร นิเวศวิทยาการเกษตร และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
8. รัฐบาลให้ความสำคัญกับความต้องการและความหวังของชุมชนในท้องถิ่น เกษตรกร คนงาน และชนพื้นเมือง มากกว่าผลประโยชน์ของบรรษัทและธุรกิจ โดยเฉพาะความต้องการของผู้หญิงและเยาวชนในทุกภาคส่วนและทุกชนชั้น
9. ให้การคุ้มครองตามกฎหมายและให้เคารพการลงทุนของประชาชนและชุมชนในท้องถิ่น ในแง่การผลิตอาหารและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม โดยถือว่าสำคัญเหนือการคุ้มครองนักลงทุนและบรรษัท
10. สิทธิมนุษยชน ทั้งของบุคคลและกลุ่ม ต้องได้รับการคุ้มครองในแต่ละประเทศและในระดับภูมิภาค และมีมาตรการเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต และปัญหาความไม่เท่าเทียม ความไม่เสมอภาค และความอยุติธรรมที่เรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสำคัญกับสิทธิของผู้หญิง ชนพื้นเมือง และคนงาน
11. ไม่มีการไล่รื้อ การทำให้พลัดถิ่นฐาน การแย่งชิงที่ดินและที่อยู่อาศัยของประชาชนในท้องถิ่น และไม่ปิดกั้นหรือห้ามประชาชนในการเข้าถึงสมบัติสาธารณะ
12. มีหลักนิติธรรมเพื่อคุ้มครองประชาชนและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ภาคธุรกิจและบรรษัท และการประกันให้เกิดความยุติธรรมสำหรับคนทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มชนชายขอบที่ถูกเอาเปรียบมาตลอดและมีความเปราะบางมากสุด
13. ต้องยกเลิกเงื่อนไขคุ้มครองนักลงทุน (รวมทั้ง ISDS) ในกฎหมายและความตกลงว่าด้วยการค้าและการลงทุน ต้องสามารถเอาผิดทางกฎหมายกับนักลงทุนที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบ และมีการปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชน อันเป็นผลมาจากโครงการของพวกเขา
14. ทุกประเทศยอมรับแม่แบบการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ และไม่เน้นการขุดเจาะแร่ธาตุเพื่อมุ่งส่งออก
สรุปในภาพรวม เราเรียกร้องให้เกิดความเข้าใจร่วมกันว่า “อาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ไม่อาจเกิดขึ้นได้ จนกว่ารัฐบาลในอาเซียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งภาคธุรกิจและบรรษัท จะให้ความเคารพอย่างแท้จริง ต่อบทบาท สิทธิ และการดำรงชีวิตของประชาชน เรามุ่งหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนอย่างจริงจังกับรัฐบาลในอาเซียน และดำเนินงานร่วมกันกับท่านเพื่อได้มีภูมิภาคที่ดีขึ้น
องค์กรผู้ร่วมลงนาม
- 3S Rivers Protection Network (3SPN), Cambodia
- Aksi for gender, social and ecological justice, Indonesia
- Alliance for Conflict Transformation (ACT), Cambodia
- Alternative Forum for Research in Mindanao (AFRIM), Philippines
- ALTSEAN-BURMA
- Assembly of the Poor Pak Mun Dam, Thailand
- Alyansa Tigil Mina (ATM), Philippines
- Aniban ng Manggagawa sa Agrikultura (Farm Workers Union), Philippines
- Asian NGO Coalition (ANGOC)
- Ayeyawady Youth Network, Myanmar
- Bago Woman Development Group, Myanmar
- Bayay Sibuyanon, Inc., Philippines
- Baywatch Foundation, Philippines
- Both ENDS, Netherlands
- CamASEAN Youth’s Future (CamASEAN), Cambodia
- Cambodian Center for Human Rights (CCHR), Cambodia
- Cambodian Human Rights Action Coalition (CHRAC), Cambodia
- Cambodia Labour Confederation (CLC), Cambodia
- Cambodian Volunteers for Society, Cambodia
- Centre for Social Research and Development (CSRD), Vietnam
- Coalition of Cambodian Farmer Community (CCFC), Cambodia
- Citizen Action for Transparency (CAFT), Myanmar
- Committee for Free and Fair Elections in Cambodia (COMFREL)
- Comité pour le respect des Droits Humains “Daniel Gillard,” Belgium
- Community Peace-building Network (CPN), Cambodia
- Community Resource Centre Foundation (CRC), Thailand
- Community Response Group (COMREG), Myanmar
- Cooperation Committee for Cambodia (CCC), Cambodia
- Culture and Environment Preservation Association (CEPA), Cambodia
- Culture Identity and Resources Use Management (CIRUM), Vietnam
- Dawei Development Association (DWA), Myanmar
- Dawei Probono Lawyer Network, Myanmar
- Dawei Watch Foundation (DWF), Myanmar
- EarthRights International
- Ecological Justice Interfaith Movement (ECOJIM), Philippines
- Environics Trust, India
- ETO Watch Coalition, Thailand
- Europe Solidaire Sans Frontière (ESSF), France
- Focus on the Global South
- Forum Against Disastrous project in Konkan, India
- Foundation for Environmental and Natural Resources (FENR), Thailand
- Freedom from Debt Coalition (FDC), Philippines
- Friends of the Earth, Japan
- GRAIN
- Green Innovation and Development Centre (GreenID), Vietnam
- Greenpeace Thailand
- Human Rights Lawyers Association
- Indian Social Action Forum, India.
- International Accountability Project
- International Rivers
- Kachin Development Networking Group (KDNG), Myanmar
- Kanlat Metta Organization, Shan State, Myanmar
- Karen Environmental and Social Action Network (KESAN), Myanmar
- Karen Rivers Watch, Myanmar
- KIARA, Indonesia
- Kruha, Indonesia
- Khmer Kampuchea Krom for Human Rights and Development Association (KKKHRDA), Cambodia
- LAIN Technical Support Group, Myanmar
- Land Core Group, Myanmar
- Land In Our Hands, Myanmar
- Laos Dam Investment Monitor (LDIM), Thailand
- Law and Policy of Sustainable Development Research Centre (LPSD), Viet Nam
- Living River Association, Thailand
- Malaysian Youth League, Malaysia
- Mandalay Community Centre, Myanmar
- Mekong Butterfly, Thailand
- Mekong Community Institute Association, Thailand
- Mekong Delta Youth (MDY), Vietnam
- Mekong Legal Network
- Mekong Wetland University Network, Vietnam
- Mekong Energy and Ecology Network (MEENet)
- Mekong Watch, Japan
- Migrant Forum Asia
- MiningWatch Canada
- Minority Rights Organization (MIRO-Cambodia)
- Mong Pan Youth Association, Myanmar
- Myanmar Cultural Research Society (MCRS), Myanmar
- Myanmar People Alliance (MPA), Shan State, Myanmar
- NGO Forum on Cambodia, Cambodia
- Nyan Lynn Thit Analytica, Myanmar
- Pace On Peaceful Pluralism, Myanmar
- Pakistan Fisherfok Forum, Pakistan
- Paungku, Myanamar
- People and Nature Reconciliation, Vietnam
- People’s Empowerment Foundation, Thailand
- Perlumpulan AEER, Indonesia
- Persatuan Aktivis Sahabat Alam (KUASA), Malaysia
- Philippine Movement for Climate Justice (PMCJ), Philippines
- Program on Alternative Development, University of the Philippines Centre for Integrative and Development Studies (UP CIDS AltDev), Philippines
- Project Sevana South-East Asia
- Qadir Law Associates, Pakistan
- Radio Emergency Communications Network Philippines, Inc. (RECON Philippines)
- Regional Center for Social Science and Sustainable Development (RCSD), Thailand
- River Basin Friends, India.
- Salween Basin Community Network, Mae Hong Son, Thailand
- Shwechinthae Social Support Group, Myanmar
- Sibuyanons Against Mining (SAM), Philippines
- Southern Youth Organization, Tanintharyi, Myanmar
- STAR Kampuchea, Cambodia
- Suara Rakyat Malaysia (SUARAM), Malaysia
- Summer Shelter Library, Shan State, Myanmar
- Synergy-social harmony organization, Myanmar
- Taunggyi Education Network, Myanmar
- The Corner House, UK
- UNLAD-BLFFA, Philippines
- Urgent Initiative, Philippines
- World Rainforest Movement
- Worker’s Information Centre (WIC), Cambodia
- Women’s Network for Unity, Cambodia
- Youth Resource Development Program (YRDP), Cambodia