Skip to main content
sharethis

ผู้รายงานพิเศษ UN เผย เจ้าฟ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย น่ามีส่วนรู้เห็นการสังหารโหดนักข่าวชาวซาอุฯ จามาล คาชอกกี เมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากเหตุการณ์มีการวางแผนอย่างดี การใช้ทรัพยากรอยู่ในระดับที่ภาครัฐทำได้ องค์กรสมาคมนักเขียนอเมริกาและกลุ่มสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้มีการดำเนินการจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ และ UN ต่อซัลมานในกรณีนี้

โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (ซ้าย) และจามาล คาชอกกี (ขวา)
ที่มา: Wikipedia และ Flickr/Pomed

20 มิ.ย. 2562 เมื่อ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผู้รายงานพิเศษของสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แอกเนส คัลลามาร์ด เปิดเผยรายงานระบุว่ามี "หลักฐานที่น่าเชื่อถือ" แสดงให้เห็นว่า เจ้าฟ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดิอาระเบียและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศมีส่วนร่วมในกรณีการสังหาร จามาล คาชอกกี นักข่าววอชิงตันโพสต์เชื้อสายซาอุฯ

รายงานดังกล่าวนี้เปิดเผยออกมาหลังจากที่คัลลามาร์ดทำการสืบสวนเป็นเวลา 5 เดือน โดยที่คาชอกกีเป็นนักข่าวที่เขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ ในสื่อสัญชาติสหรัฐฯ เขาเสียชีวิตที่สถานกงสุลซาอุฯ ประจำกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกีเมื่อเดือน ต.ค. 2561 รายงานของคัลลามาร์ดระบุว่า คาชอกกีเป็นเหยื่อของการสังหารที่มีการวางแผนเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้า และถือว่าประเทศซาอุดิอาระเบียมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนนานาชาติ

คัลลามาร์ดระบุถึงสาเหตุที่กล่าวหาว่าเจ้าฟ้าชายซัลมานมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเพราะลักษณะการสังหารคาชอกกีนั้นต้องอาศัยการวางแผนจากภาครัฐเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการประสานงาน การใช้ทรัพยากรและการเงิน อีกทั้งจากคำปรึกษาของผู้เชี่ยวชาญทุกคนต่างก็บอกว่าการปฏิบัติการในระดับนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำการโดยที่เจ้าฟ้าชายซัลมานไม่รู้

ก่อนหน้านี้เคยมีหน่วยงานข่าวกรองตะวันตกที่ระบุไปในทำนองเดียวกันว่าเจ้าฟ้าชายซัลมานน่าจะมีส่วนในการสังหารคาชอกกี แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่รายงานจากคณะสืบสวนสอบสวนอิสระวินิจฉัยไปในทำนองเดียวกัน และลงความเห็นว่าควรจะต้องมีการสืบสวนเจ้าฟ้าชายซัลมานและเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม สื่อคอมมอนดรีมส์ระบุว่าถึงแม้จะเคยมีการนำเสนอรายงานจากสหรัฐฯ ในเรื่องนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ที่ผ่านมารัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำซาอุฯ แม้กระทั่งเสนอขายอาวุธให้กับซาอุฯ โดยไม่ผ่านกระบวนการสภาคองเกรส

จากรายงานล่าสุดของ UN ทำให้ตัวแทนจากสมาคมนักเขียนและส่งเสริมเสรีภาพสื่อ PEN อเมริกา แถลงว่ารายงานของ UN เป็นสิ่งที่จะเปิดโปงความพยายามปกปิดอาชญากรรมที่โหดร้ายของรัฐบาลซาอุฯ ซัมเมอร์ โลเปซ ตัวแทนของ PEN อเมริกากล่าวว่าในซาอุฯ มีการดำเนินคดีต่อผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารคาชอกกีแต่เป็นการดำเนินคดีที่มีตำหนิเนื่องจาก "ละเลยหลักฐานที่แสดงให้เห็นชัดว่าซัลมานอยู่เบื้องหลังการสังหารในครั้งนี้" ทำให้ไม่สามารถนำไปสู่ความยุติธรรมที่แท้จริงได้

โลเปซยังแถลงสนับสนุนการเรียกร้องให้มีการสืบสวนสอบสวนอย่างอิสระต่อกรณีที่ซัลมานอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงเรียกร้องให้สภาคองเกรสของสหรัฐฯ มีปฏิบัติการบางอย่างจากที่กรรมาธิการด้านการต่างประเทศเคยแถลงว่าจะขอความร่วมมือสองฝ่ายกับซาอุฯ ในการตรวจสอบกรณีการสังหาร เธอบอกว่า "การไม่ต้องรับผิดในคดีนี้สร้างความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงต่อความปลอดภัยของนักข่าวในทุกแห่ง ... พวกเราจึงขอเรียกร้องให้มีปฏิบัติการความร่วมมืออย่างยึดในหลักการเพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมต่อจามาล คาชอกกี และทำให้แน่ใจว่าการสังหารนักข่าวจะไม่ถูกปล่อยให้ลอยนวล"

ร็อบ เบอร์ชินสกี จากองค์กรฮิวแมนไรท์เฟิร์สท์ยังเรียกร้องให้นักการเมืองสหรัฐฯ โต้ตอบในกรณีนี้ โดยบอกว่ารายงานของคัลลามาร์ดเน้นย้ำให้เห็นว่าคาชอกกีไม่ได้รับความเป็นธรรมจนกว่าสภาคองเกรสจะเคลื่อนไหว และกลุ่มผู้นำซาอุฯ ก็แสดงออกชัดเจนว่าพวกเขาพยายามหลบเลี่ยงให้ตัวเองลอยนวลจากข้อหาฆาตกรรม เบอร์ชินสกีเสนอว่าสภาคองเกรสแสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะไม่ให้ผู้นำซาอุฯ หลบหนีความผิดได้

โรเบิร์ต มาโฮนีย์ รองผู้อำนวยการบริหารของคณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าว (CPJ) เรียกร้องให้มีปฏิบัติการจากทั้งสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ในกรณีนี้ โดยบอกว่ารายงานของ UN เป็นก้าวแรกที่สำคัญของการให่้ความเป็นธรรมแก่คาชอกกี ทั้งสหรัฐฯ และประเทศสมาชิก UN ต่างก็มีหน้าที่ในเชิงจริยธรรมในการที่จะดำเนินการตามสิ่งที่พวกเขาเสนอ

ลินน์ มาลูฟ นักวิจัยประเด็นตะวันออกกลางจากแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลเรียกร้องให้เลขาธิการ UN อันโตนิโอ กูแตร์เรส ดำเนินการตามข้อเสนอของผู้รายงานพิเศษของพวกเขาโดยทันทีด้วยการจัดตั้งคณะสืบสวนนานาชาติเข้าไปติดตามผลการสืบสวนคดีอาชญากรรมนี้โดยทันที เพื่อเป็นการส่งสัญญาณอย่างหนักแน่นว่าการสังหารผู้ต่อต้านรัฐบาล นักข่าว นักกิจกรรม นักคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ในที่ต่างๆ ของโลกควรจะต้องเผชิญกับปฏิบัติการตอบโต้ที่แข็งขัน

เรียบเรียงจาก

U.N. Report Implicates Saudi Crown Prince In Killing Of Jamal Khashoggi, NPR, 19-06-2019

After Damning UN Report, Human Rights and Press Freedom Advocates Demand Justice for Khashoggi, Common Dreams, 19-06-2019

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net