'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง'-คณะ ร้องผู้นำอาเซียนกรณีไทยโกงเลือกตั้ง นักกิจกรรมถูกทำร้าย

อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง พร้อมคณะ เข้ายื่นหนังสือถึง กต. ฝากต่อให้ผู้นำชาติอาเซียนเรื่องการโกงเลือกตั้งและการทำร้ายนักกิจกรรมในไทย เดิมทีจะชุมนุมแถวที่ประชุมอาเซียนซัมมิต แต่โดนพาเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 1 ชั่วโมง ย้ำ ให้หยุดคุกคามการแสดงออกใต้กรอบกฎหมาย หาตัวผู้ร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ 

ฟอร์ดและคณะแสดงข้อความเรื่องการโกงเลือกตั้งและนักกิจกรรมถูกทำร้ายหลังเข้าพบผู้ช่วยปลัดกระทรวงการต่างประเทศ

22 มิ.ย. 2562 ราว 12.20 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' นักกิจกรรมด้านการเมืองและคณะอีกราวสิบคน เข้าพบฉัตรชัย วิริยะเวชกุล ผู้ช่วยปลัด กต. เพื่อยื่นหนังสือเรื่องการทำร้ายนักกิจกรรมและปัญหาการเลือกตั้งในประเทศไทย เป็นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้นำชาติสมาชิกอาเซียน ที่มาร่วมการประชุมซัมมิตในวันที่ 20-23 มิ.ย. นี้

เดิม ฟอร์ดและคณะ มีแผนไปชุมนุมที่สี่แยกเพลินจิต ซึ่งเป็นบริเวณที่ประชุมซัมมิต ฟอร์ดกล่าวว่าได้ขออนุญาตชุมนุมไปนัง สน. ปทุมวันแล้ว แต่ได้รับการปฏิเสธในเวลา 10.20 น. ฟอร์ดถูกนำตัวไปยังกองบัญชาการสันติบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติและอยู่ในนั้นเป็นเวลาราวหนึ่งชั่วโมง โดยผู้สื่อข่าวไม่สามารถติดต่อได้ และไม่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สตช. ว่ามีการนำตัวฟอร์ดเข้าไป 

หลังจากนั้นฟอร์ดได้โพสท์ในเฟสบุ๊คว่ากำลังเดินทางไปยัง กต. เพื่อยื่นหนังสือ โดยเดินทางไปพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคณะที่จะมาร่วมชุมนุมก็ปรากฏตัวที่ กต. โดยนั่งรถตู้ของตำรวจมาเช่นกัน ฟอร์ดยืนยันว่าไม่ได้ถูกกระทำความรุนแรงขณะอยู่ในกองบัญชาการสันติบาล

ฟอร์ดนำคณะแถลงข่าวว่า มีสองเรื่องที่อยากให้ผู้นำชาติอาเซียนรับรู้ หนึ่ง การเลือกตั้งในไทยครั้งที่ผ่านมานั้นไม่บริสุทธิ์ ไม่ยุติธรรม มีการโกงทุกขั้นตอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้เป็นนายกฯ ที่ประชาชนเลือกมา เพราะเสียงส่วนมากเลือกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยหากแต่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. ที่ตั้งมาเอง

สอง ไทยมีการปิดปาก คุกคามประชาชนหลายครั้งและยังไม่เคยจับตัวคนร้ายได้ อย่างตนและเพื่อนที่มาวันนี้นั้น หนึ่งวันหนึ่งคืนที่ผ่านมาก็ถูกตำรวจโทร.ตาม ไปหา ไปเฝ้าถึงบ้าน จึงอยากขอให้ทางการจับตัวคนร้ายให้ได้และไม่ให้มีการคุกคามนักกิจกรรมอีก

ฟอร์ดเป็นหนึ่งในนักกิจกรรมที่ถูกทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นบาดเจ็บถึงสองครั้งในช่วงปี 2562 นี้

ข่มขู่ คุกคาม ทำร้ายร่างกายนักกิจกรรม รัฐเมินกวดขันติดตามคดี

ฟอร์ดตอบผู้สื่อข่าวว่าไม่พอใจกับการมายื่นหนังสือที่ กต. เพราะเดิมตั้งใจจะไปแสดงสัญลักษณ์ที่บริเวณแยกเพลินจิต ในเวลาเช่นนี้ ประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เช่นสหรัฐฯ จะมีการจัดพื้นที่ให้ประชาชนที่จะชุมนุมออกมาใช้สิทธิ เสรีภาพการแสดงออก แต่ในไทยนั้นไม่ใช่

ด้านฉัตรชัยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เอกสารหนังสือที่อนุรักษ์ยื่นมาถึงผู้นำประเทศนั้นจะดำเนินการส่งให้กับกรมอาเซียนประสานงานต่อไป

“ผมมองว่าประเทศที่มีการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย เขาจะอนุญาตให้ประชาชนแสดงความเห็นทางการเมือง ภายใต้กรอบกฎหมาย อเมริกาที่มีประชาธิปไตยก้าวหน้า เขาก็จะมีการจัดพื้นที่ให้กับผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน มีความคิดทางการเมืองแบบไหน นี่คือเสรีภาพในการแสดงความเห็น เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในประเทศที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย” อนุรักษ์กล่าวระหว่างแถลงข่าว

“แต่ในประเทศไทย ไม่ว่าเราจะพยายามบอกว่ามีประชาธิปไตย แต่สื่อก็เห็นแล้วว่าพวกเราถูกปิดกั้นในการแสดงความคิดเห็น อยากจะไปประชุม ประท้วง ปิดสภาเหรอครับ คุยกันด้วยเหตุด้วยผลไม่ได ต้องให้ผู้ชุมนุมขออนุญาตทุกครั้ง ไม่เป็นไร ส่งคนไปตื้บมันเลย ตีหัวมันเลย เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

“วิธีนี้สร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศชาติมาก เจ็บหัวไม่เท่าไหร่ แต่ประเทศเสียหายนี่ใครรับผิดชอบ แผลแตกเย็บแปดเข็ม เดือนเดียวก็หาย แต่ภาพลักษณ์นักกิจกรรมที่ประชาชนถูกทำร้ายร่างกายแล้วใครรับผิดชอบ เผด็จการรับผิดชอบไหม อีกไม่นานคุณก็ตายไป ลูกหลานผม คนรุ่นหลังต้องรับผิดชอบ นักศึกษาต้องรับผิดชอบ” อนุรักษ์กล่าว

“เราต้องการแค่สิทธิของประชาชนที่จะพูด แสดงความเห็นภายใต้กรอบของกฎหมายเรายินดีที่จะให้ความร่วมมือ เราต้องการเรียกร้องเพียงเท่านี้ เรียกร้องความปลอดภัย”

จดหมายเปิดผนึกถึงผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 
An open Letter for leaders of Members of ASEAN Countries

เรียน ท่านผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 
To the Honorable Leaders of the Countries of ASEAN :

ประชาชนชาวไทยขอต้อนรับทุกท่านในการร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2562 ด้วยความยินดียิ่ง ปีนี้เป็นโอกาสที่ประเทศไทยได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพ และเป็นปีที่ผู้นำของประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นประธานอาเซียน

With great pleasure, the people of Thailand would like to welcome you to join together in the 34th ASEAN Summit, in Bangkok, July 20-23, 2019. This is the year that Thailand has the opportunity to be the host and the year that that the leader of Thailand has the honor to be President of ASEAN.

แต่ด้วยความเคารพในการปกครองของสมาชิกทุกประเทศในอาเซียน บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นประธานในอาเซียนที่ให้การรับรองทุกท่านในวันนี้มิได้มาจากการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม การเลือกตั้งของไทยเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาได้รับการกล่าวถึงจากผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองในต่างประเทศว่าเป็นการเลือกตั้งที่สกปรกที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทย มีการทุจริตในทุกระดับของการเลือกตั้งโดยไม่คำนึงถึงวิธี องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องเช่น คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ให้ความช่วยเหลือพรรคพลังประชารัฐที่คสช.ให้การสนับสนุนชนะการเลือกตั้งโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ และแม้จะมีการทุจริตการเลือกตั้งมากเพียงใดพรรคพลังประชารัฐก็มิอาจชนะเลือกตั้ง พวกเขาพ่ายแพ้ให้กับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งสมควรที่จะได้รับโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล แต่องค์กรอิสระก็ได้บิดเบือนผลการเลือกตั้งโดยการเจตนาจงใจคำนวณคะแนนเลือกตั้งที่ผิดพลาดเพื่อแจกสส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้กับพรรคการเมืองขนาดเล็กจำนวน 11 พรรคเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐได้รับเสียงสนับสนุนที่เกินกึ่งหนึ่งไปเพียงเล็กน้อยในการจัดตั้งรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการทหาร และผู้ที่โหวทเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรีก็มิได้มาจากตัวแทนของประชาชนหากแต่เป็นบรรดาวุฒิสมาชิกจำนวน 250 คนที่เป็นคนของคสช.แต่งตั้งกันเองไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง ญาติ อดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของเหล่าทหารในกองทัพ ฯลฯ

With all respect to the governments of the member countries of ASEAN, the individual who serves as President of ASEAN, who welcomes everyone today, did not come from a clean and fair election. Rather, the election in Thailand on March 24th of this year, was declared by foreign political experts to be the dirtiest election in the history of Thailand. There was cheating at every stage of the election, with relevant independent organizations having no regard for proper methods. For example, the Election Commission assisted the Palang Pracharat Party, which the junta (or National Council for Peace and Order) supported to win the election, without regard for proper methods. And however huge the cheating, the Palang Pracharat Party was still unable to win the election; they lost to the pro-democracy parties. And the political parties that won the election are supposed to have the opportunity to set up a government. But the independent organization distorted the results of the election, intentionally miscalculating the election scores in order to give so-called “party list” seats in Parliament to 11 small parties. This was done so that Palang Pracharat would receive the supporting votes it needed to ensure the continued rule of the military dictatorship. And the representatives who voted for General Prayut Chan-o-cha to be Prime Minister weren’t representatives of the people. On the contrary, all 250 Senators who voted for him were appointed by the NCPO (the junta) in a casual way––so what if they were friends, relatives, former subordinates in the military, and so forth?

หลังการเลือกตั้งได้มีนักกิจกรรมทางการเมืองหลายคนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการโกงเลือกตั้งแต่กลับถูกอันธพาลทางการเมืองทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า นักกิจกรรมเช่นคุณเอกชัย หงส์กังวานถูกทำร้ายร่างกาย 9 ครั้ง เผารถยนต์ 2 ครั้ง คุณอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ ถูกทำร้ายร่างกายในบ้านพักยามวิกาล และถูกรุมทำร้ายจากชายฉกรรจ์ 6 คนหน้าป้อมตำรวจในยามเช้าวันที่จัดกิจกรรมประท้วงคัดค้านการเปิดประชุมสภา ทั้งสองคนเป็นแกนนำกลุ่มกิจกรรมของประชาชนที่ได้รณรงค์เลือกตั้งอย่างหนักตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา คุณสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ผู้นำนักศึกษาที่จัดกิจกรรมคัดค้านการเลือกนายกรัฐมนตรีถูกรุมทำร้ายร่างกายในย่านชุมชนหลังจากเสร็จจากการทำกิจกรรม ฯลฯ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นโดยน้ำมือของเผด็จการที่อยู่เบื้องหลัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยจับกุมคนร้ายได้แม้แต่ครั้งเดียว

After the election, there were many activists who came out campaigning against election cheating. But they were physically assaulted by political thugs again and again–-activists like Mr. Ekachai Hongkangwan, who was physically assaulted nine times (and his car was burned two times), Mr Anurak Jeantawanich, who was assaulted one time in his home at night, and another time ambushed and assaulted by six men in front of a police booth (small police station) on a morning that he had planned to protest the opening of Parliament. Both were leaders of a group of activists that had been strenuously calling for elections throughout the past 9 months. Mr. Sirawith Seritiwat, a student leader demonstrating against the election of General Prayut Chan-o-cha as the Prime Minister, was ambushed and assaulted by several men after finishing the protest, etc. These incidents happened at the hands of a dictatorship; they are behind it. And police officers haven’t caught a culprit even once.

เผด็จการทหารได้ทำทุกวิถีทางในการปิดปากนักกิจกรรมซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชนมิให้พูดความจริงให้สังคมได้รับรู้ พวกเขาได้กรอกหูซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับประชาชนในประเทศนี้ว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างถูกต้อง และพรรคพลังประชารัฐที่คสช.ให้การสนับสนุนเป็นฝ่ายชนะเลือกตั้ง พวกเขาโกหกอย่างน่าละอาย สร้างความเสื่อมเสียให้กับกองทัพ สร้างความอับอายสู่คนไทยทั้งชาติ นี่คือความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ ประเทศที่ประชาชนต่อสู้กับเผด็จการทหารมาตลอด 5 ปีหลังการรัฐประหาร และพวกเรารอคอยที่จะประกาศชัยชนะของประชาชนอีกครั้งในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

The military dictatorship used every method to silence the activists, who are the representatives of the people, not allowing them to speak and make society aware. They have gone on filling the ears of the people of this country with “the election was carried out correctly.” And the Palang Pracharat Party, which the junta supported to win, tells lies shamelessly, creating a bad reputation for the army and embarrassment for Thais through the country. This is the truth of what has happened in this country, a country where the people have struggled continuously against military dictatorship for the whole five years since the coup. And we continue to wait for the announcement of the victory of the people at each election we come to.

ประเทศไทยยินดีต้อนรับทุกท่าน ชาวไทยทุกท่านยินดีต้อนรับท่าน แต่จงได้โปรดรำลึกไว้ว่ารัฐบาลนี้มิใช่ตัวแทนของคนไทย และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็มิได้เป็นผู้นำที่ประชาชนชาวไทยเลือกมา

Thailand welcomes you, each one. Every Thai welcomes you! But please remember that this government does not represent the Thai people and that General Prayut Chan-o-cha is not a leader that the citizens have chosen.

ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง 
With greatest respect,

นาย​อนุรักษ์​ เจนต​ว​นิชย์​
Anurak Jeantawanich

ตัวแทนกลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้ง 
(Representative of Citizens Want Elections Group )

(ที่มา: Facebook/Anurak Jeantawanich)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท