ธนาธรตั้งคำถามจะต้องให้มีคนถูกทำร้ายอีกครั้ง ปิยบุตรชี้ทำไมเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยโดยไม่สามารถหาคนผิดมาลงโทษได้ ณัฐวุฒิเล่าครั้งแรกที่เจอกับจ่านิว หวังคนสั่งทำร้ายมองเห็นความเป็นมนุษย์ สุดารัตน์จี้ประยุทธ์ลงมาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พลเมืองโต้กลับถาม คสช. ยังเป็นชายชาติทหารอยู่หรือไม่ ครป. เรียกร้องหยุดทำร้ายผู้เห็นต่าง
28 มิ.ย. 2562 ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงความเห็นกรณีการดักรุมทำร้ายร่างกาย สิรววิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว(อ่านข่าวที่นี่) โดยระบุว่า จะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง ต้องทนอีกกี่หนกับการที่คนธรรมดาผู้กล้าลุกขึ้นสู้กับความไม่เป็นธรรมถูกทำร้ายอย่างป่าเถื่อนโดยไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้ถึงคราวลูกหลานของคุณ จึงรู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญ
ขณะที่ปิยบุตร แสงกนกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แสดงความเห็นว่า การหาตัวคนกระทำผิดมาลงโทษ ทั้งกรณีการทำร้ายจ่านิวครั้งก่อนและผู้เห็นต่างคนอื่นๆ ก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน ผมขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อนักกิจกรรมและผู้เห็นต่างทางการเมืองอีกครั้ง คำถามเดิมๆ ยังคงอยู่ซ้ำๆ อย่างไม่ได้รับคำตอบ เหตุใดการกระทำลักษณะจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้งได้โดยที่ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ? ไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้? แต่ซ้ำร้ายผู้ที่ถูกคุกคามทำร้ายเพราะความเห็นต่างทางการเมืองกลับโดนคดีซ้ำอีก เพื่อขัดขวางไม่ให้พวกเขาแสดงออกทางการเมือง
ส่วน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ได้แสดงความเห็นโดยระบุว่า จ่านิว เป็นเพียงลูกชาวบ้าน แม่มีอาชีพรับจ้าง ชีวิตรายวัน อยู่บ้านเช่าหาเงินส่งลูกๆเรียน ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักจ่านิวมาก่อน เพียงแค่เห็นในทีวี ก็คิดว่า เด็กคนนี้ พูดจาท่าทางดูตลก น่ารัก จนกระทั่งได้ตัวจริงในงานแห่งหนึ่งเห็นว่า แววตามุ่งมั่น พูดตรง ท่าทีห่ามๆ แต่สุภาพนอบน้อม
ณัฐวุฒิ เล่าด้วยว่า ได้มีโอกาสไปกินลาบข้างทางกับจ่านิว และเพื่อนๆ ของเขา หลังจากเสร็จสิ้นจากงานแต่งของ ปิยบุตร โดยได้นั่งกินลาบกับเด็ก จนถึงตี 5 ครึ่ง แต่ตอนตี 5 จ่านิวก็อ้อนขอกลับก่อน แม้ว่าก่อนมาเพื่อนๆ จ่านิว จะเป็นคนรบเร้าให้มาก่อนก็ตาม สุดท้ายณัฐวุฒิถามลองเชิงจ่านิวไปว่า เมื่อไหร่จะนัดมากินลาบกันอีก จ่านิวตอบด้วยสายตาหวั่นๆ ว่า เดี๋ยวผมปรึกษาเพื่อนๆอีกทีนะครับ
ณัฐวุฒิหวังว่า คนสั่งและคนลงมือทำร้าย จ่านิว จะได้อ่านเรื่องนี้ เขาเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ถ้าได้รู้จักท่านจะเอ็นดูเขา สิ่งที่”นิว”ควรได้รับคือความเมตตาจากผู้มีอำนาจ ไม่ใช่การลอบกัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุขนัก ภูมิใจนักหรือไงที่ตีเด็กปางตายให้แม่มันร้องไห้คอยกอดคอยเฝ้า
“หายเร็วๆ นิว เอ๊ย ... เตรียมตัวไปเรียนต่อตามที่ตั้งใจไว้ บางคนมันใจแคบโหดร้ายก็อย่าหมดกำลังใจ คนรักและเห็นใจ นิว กับแม่ยังมีอีกมากเหลือเกิน เชื่อพี่ งานพรุ่งนี้ที่ นิว จัดแล้วชวนพี่ไปร้องเพลงพี่ไปแน่ ใครจะมาดักตีก็ไม่กลัว พี่ไม่ใช่นักเลง แต่เป็นนักมวย” ณัฐวุฒิ ระบุ
ขณะที่ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัว ถึงกรณีนี้ว่า "คดีทำร้ายจ่านิวรอบที่แล้วยังไม่คืบ วันนี้โดนอีก เหมือนอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อน รัฐไม่เหลียวแลความปลอดภัยให้นักกิจกรรมผู้เห็นต่างจากผู้มีอำนาจเอาใครมาลงโทษไม่ได้ ขอประณามการกระทำรุนแรงนี้ ขอเรียกร้องให้นายก รับผิดชอบลงมาดูปัญหานี้ด้วยตัวเอง คนเห็นต่างต้องไม่โดนทำร้ายอีก"
ด้านกลุ่ม พลเมืองโต้กลับก็ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีนี้ด้วย โดยตั้งคำถามว่า ประเทศนี้ยังมีรัฐบาลและกฎหมายบ้านเมืองอยู่หรือไม่
แถลงการณ์กลุ่มพลเมืองโต้กลับ
ประเทศนี้ยังมีรัฐบาลและกฎหมายบ้านเมืองหรือไม่?
นับตั้งแต่ประยุทธ์ จันทร์โอชาและคณะรักษาความสงบแห่งชาติทำรัฐประหารยึดอำนาจ พร้อมทั้งสถาปนาตัวเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์ รวบอำนาจเป็นเผด็จการมานานกว่าห้าปี โดยอาศัยข้ออ้างในเรื่องการรักษาความสงบแห่งชาติ อ้างความเป็นผู้มีศีลธรรมจรรยาจะนำพาบ้านเมืองสู่สังคมอุดมสุข แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ประยุทธ์และรัฐบาล คสช. กลับไม่สามารถทำตามสัญญาได้แม้แต่อย่างเดียว โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาความสงบภายในประเทศ
จากเหตุการณ์ดักทำร้ายนักกิจกรรมฝ่ายต่อต้านเผด็จการอย่างต่อเนื่อง ทั้งกรณีของเอกชัย หงส์กังวานที่ถูกทำร้ายหลายต่อหลายครั้ง มาจนถึงกรณีของสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์หรือจ่านิว ซึ่งล่าสุดในวันนี้ถูกทำร้ายอาการสาหัส ทุกครั้งที่ผ่านมา ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวผู้ร้ายได้ กล้องวงจรปิดเสียหรือใช้การไม่ได้ทุกครั้ง อีกทั้งรัฐบาล คสช. ไม่เคยแสดงท่าทีสนใจหรือใส่ใจต่อการทำร้ายร่างกายกันกลางเมืองกลางวันแสกๆ โดยอันธพาลหลายคนรุมทำร้ายคนที่ไม่มีอาวุธไม่มีทางสู้ การตั้งตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์อ้างว่าจะรักษาความสงบในบ้านเมืองนั้น ควรถือเป็นคำพูดพล่อยๆ เพียงลมปากหรือเปล่า?
ในนามของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เราขอตั้งคำถามต่อนายประยุทธ์ จันทร์โอชาในฐานะนายกรัฐมนตรี นายประวิตร วงษ์สุวรรณในฐานะรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและเป็นผู้ดูแลกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งนายอนุพงษ์ เผ่าจินดาในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย พวกท่านยังมีความสามารถในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองหรือไม่? ในขณะที่รัฐบาล คสช.สามารถระดมตำรวจทหารเป็นกองร้อยไปกดดันนักกิจกรรมที่เรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติวิธีได้ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในบ้านเมืองที่มีการทำร้ายร่างกายกันจริงๆ และเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว รัฐบาล คสช. กลับไม่มีสมรรถภาพในการจัดการอะไรทั้งสิ้น
ถ้าหากความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของประยุทธ์ จันทร์โอชาและรัฐบาล คสช. หมายถึงการปล่อยให้บ้านเมืองนี้ตกอยู่ในสภาพป่าเถื่อน ไม่มีขื่อแปเช่นนี้ เราจะมี คสช. ไว้ทำไม? หากพวกท่านยังมีศักดิ์ศรีในฐานะชายชาติทหารอยู่บ้าง ก็จงแสดงความสามารถจับกุมคนร้าย หรือถ้าทำไม่ได้ ก็เลิกรับเงินเดือนไปวันๆ โดยไม่มีผลงานและหลีกทางให้ผู้มีความสามารถมาทำหน้าที่รัฐบาลแทน
ด้วยความไม่นับถือ
กลุ่มพลเมืองโต้กลับ
เช่นเดียวกันกับ คณะกรรมการรณรงค์เพื่
แถลงการณ์คณะกรรมการรณรงค์เพื่
ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องคุ้
ตามที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนรุมทำร้ายนายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักกิจกรรมเพื่อสังคม ที่หน้าปากซอยทางเข้าบ้านพั
ก่อนหน้านี้นั้นมีเจ้าหน้าที่
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิ
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิ
1)ครป. ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและหน่
2)ครป. ขอเรียกร้องให้สังคมจั
3)ครป. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลจริงจั
ด้วยจิตสมานฉันท์
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิ
28 มิถุนายน 2562
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)