28 มิ.ย. 2562 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า ภายหลังที่มีกระแสข่าวว่า อนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ อาจหลุดตำแหน่ง รมช.คลัง ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ อนุชา ตลอด 2 วันที่ผ่านมา แต่อนุชา ไม่รับโทรศัพท์ คาดว่าอาจจะเกิดความผิดหวังกับการที่ไม่มีชื่อตนเองร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้

อย่างไรก็ดีได้รับการเปิดเผยจากคนใกล้ชิด อนุชา ว่า เป็นไปได้ที่อนุชา จะผิดหวัง เพราะตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา อนุชา ถือเป็นแกนนำคนสำคัญที่ทำงานอย่างหนักร่วมกับ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน ตั้งแต่ในนามของกลุ่มสามมิตร ก่อนมาเป็นพรรคพลังประชารัฐ อีกทั้งในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง รับผิดชอบงานหลายด้าน ไม่เฉพาะภาคกลางที่ดูแลทั้งการคัดแยกผู้สมัคร ส.ส. ดูเอกสารต่างๆ วางยุทธศาสตร์ด้านสื่อให้กับพรรค คิดนโยบาย จัดเวทีปราศรัยทั่วประเทศ ตรวจสอบบัญชีเลือกตั้ง ทำบัญชีรายรับรายจ่ายของพรรค และในฐานะที่ประสบการณ์เป็น ส.ส.มาก่อน ก็ได้ร่วมลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียง รวมทั้งหมดเกือบ 30 เวทีทั่วประเทศ ทั้งภาคกลางที่รับผิดชอบ และยังไปช่วยที่ภาคอีสานด้วย ขณะเดียวกันก็ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.ในระบบเขตที่ จ.ชัยนาท แต่กลับลงพื้นที่หาเสียงในเขตของตัวเองช่วง 3 วันก่อนการเลือกตั้งเท่านั้นยังดีที่ นายอนุชา ทำพื้นที่มาตลอด และเป็นที่รักของคน จ.ชัยนาท จึงได้ทำให้พรรคพลังประชารัฐได้รับเลือกตั้งทั้ง 2 เขต จ.ชัยนาท 

"ถึงผิดหวังยังไงก็ยังเชื่อว่า นายอนุชา ก็พร้อมที่จะทุ่มเททำงานในฐานะผู้แทนราษฎร ตอบแทนที่ได้รับความไว้วางใจจากคนชัยนาท และในฐานะ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้คงใช้เวลาทำใจซักระยะ" คนใกล้ชิดอนุชา ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การไม่มีชื่ออนุชา ในครั้งนี้อาจทำให้เกิดความไม่สบายใจขึ้นภายในพรรคพลังประชารัฐ เพราะนายอนุชาถือเป็นผู้ที่คนทำงานหนัก แต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแล ทั้งที่นายกรัฐมนตรีก็เคยรับปากให้อนุชา มาช่วยงานในฐานะรัฐมนตรีด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีการเปรียบเทียบกับการมอบเก้าอี้รัฐมนตรีให้พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคที่มีเพียง 3 ที่นั่งด้วย

ขณะเดียวกันมติชนออนไลน์ รายงานว่า เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มสามมิตร ที่มี ส.ส. 30 คน ถูกเฉือนโควต้า 1 เก้าอี้ คืออนุชา ที่มีโผมาโดยตลอดว่าจะเป็น รมช.คลัง แต่กลับไม่ได้รับเอกสารกรอกประวัติรัฐมนตรี ล่าสุดกลุ่มสามมิตรถกเครียด ถึงกับต้องมีการทบทวนการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีนอกจากนายอนุชา จะโดนกระทำแล้ว สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพปชร. ซึ่งมีชื่อเป็น รมว.อุตสาหกรรม ได้รับคำสั่งจากผู้มีบารมีในรัฐบาล ให้มาพูดคุยสลับเก้าอี้กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับปากที่จะให้รับผิดชอบงานในกระทรวงพลังงาน ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยน จึงทำให้กลุ่มสามมิตรไม่พอใจอย่างมาก แม้จะมีการหารือกับผู้มีในรัฐบาล ถึงเหตุผลขอสลับเก้าอี้ ในช่วงเวลาที่ต้องกรอกเอกสาร ประวัติรัฐมนตรีเพื่อเตรียมทำขึ้นทูลเกล้าฯ

ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในพรรคพปชร. เปิดเผยว่า การสลับตำแหน่งสุริยะ จาก รมว.พลังงาน ไปเป็นรมว.อุตสาหกรรม นั้นจะทำให้เกิดปัญหาและรอยร้าวภายในพรรคอย่างแน่นอน เนื่องจากกลุ่มสามมิตร มี ส.ส. 30 คน และยอมรับได้หากจะตัดชื่ออนุชา ออกจาก รมช.คลัง เพื่อรักษาเสถียรภาพรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลโดยยังคง 2 ตำแหน่ง คือ สุริยะ เป็นรมว.พลังงาน สมศักดิ์ เทพสุทิน เป็น รมว.ยุติธรรม แต่ในขณะที่กลุ่มกปปส.มี ส.ส.เพียง 10 คน กลับได้ 2 เก้าอี้รัฐมนตรี คือ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็น รมว.ศึกษาธิการ และ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะที่กลุ่มอื่นๆ อาทิ กลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ กลุ่มส.ส.ภาคกลาง รวมถึงร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ต่างก็ยอมเสียสละให้ทั้งๆที่มีส.ส.มากกว่า 10 คน

“ทางกลุ่มสามมิตรโดยเฉพาะสุริยะ จะรอดูท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดและเคยรับปากในตำแหน่ง ถือเป็นการให้สัจจะชายชาติทหาร แต่เมื่อมากลับคำพูดแบบนี้ ทางกลุ่มก็พร้อมทบทวนท่าทีการทำงานกับพรรค เพราะถือว่าไม่รักษาคำพูด” แหล่งข่าวระดับสูง กล่าว