โฆษกประชาธิปัตย์ ถามเตือนสติถ้าจ่านิวเป็นลูกคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร ไม่กลัวถูกตำหนิที่ออกมาปกป้อง ยันการเรียกร้องความถูกต้องไม่ต้องมองว่าใครถูกกระทำ โฆษกประชาชาติชี้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความพยายามฆ่า จี้ คสช. อย่าปล่อยไทยเข้าสู่ยุคอันธพาลครองเมือง โฆษกเพื่อชาติให้กำลังใจจ่านิว และครอบครัว ระบุรัฐต้องเร่งหาตัวคนผิดมาลงโทษ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จ่อยื่นข้อเรียกร้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
28 มิ.ย. 2562 ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ที่ สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักกิจกรรมทางการเมือง ถูกรุมทำร้ายร่างกายโดยใช้ไม้เบสบอลฟาดที่หัวโดยชายนรินามส่วมหมวกกันน๊อคปิดบังใบหน้า 4 คน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. บริเวณปากซอยพระยาสุเรนทร์ 2 ซึ่งเป็นปากทางเข้าบ้านพักของตนเอง โดยระบุว่า หลังจากที่รับทราบเหตุการณ์ ในฐานที่ตนเองเป็นนักกฎหมาย อยากถามทุกคนว่า ถ้าจ่านิวเป็นลูกคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร บ้านเมืองต้องมีกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีกระบวนการยุติธรรม คนที่ถูกทำร้าย 2 ครั้งในเวลาใกล้เคียงกัน รัฐต้องจับผู้กระทำผิดมาให้ได้ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนต้องแสดงบทบาทเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้
ราเมศ กล่าวด้วยว่า หากจะมีใครที่ออกมาตำหนิที่ตนออกมาพูดเรื่องนี้ เพียงเพราะผู้ถูกทำร้ายชื่อ จ่านิว ตนขอตอบไว้เลยว่า การเรียกร้องความถูกต้อง ไม่จำเป็นเป็นต้องคิดว่าผู้ถูกกระทำคือใคร หากคิดแบบนี้แสดงว่ากฎหมาย และความถูกต้องมีข้อยกเว้น อย่าลืมว่าเขาคือ มนุษย์คนหนึ่งที่ย่อมได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายเช่นกัน
ขณะที่ สุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ กล่าวถึงกรณีนี้เช่นกัน โดยระบุว่า การประทุษร้ายจ่านิว เข้าข่ายพยายามฆ่า และเป็นการกระทำอย่างอุกอาจ เพราะเป็นการกระทำกลางเมืองหลวงในเวลากลางวันแสกๆ ซ้ำซาก จ่านิว เป็นเสรีชนที่ออกมารณรงค์และเรียกร้องให้บ้านเมืองมีการปกครองระบบประชาธิปไตยแบบเต็มใบ เช่น เรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง สรรสร้างและร่วมกิจกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย จนเป็นบุคคลที่รัฐเฝ้าติดตาม เคยถูกทำร้ายมาแล้ว แต่รัฐยังไม่มีการจับกุม และยังปล่อยให้มีกระทำในลักษณะเดิมๆ ที่ถูกยกระดับความรุนแรง ทำให้ภาพพจน์ของรัฐไทยเสียหายในสายตาของคนไทยและสายตาชาวโลก ซึ่งในขณะนี้จมตีว่าประเทศไทยยังไม่เป็นประชาธิปไตยและการเลือกตั้งที่ผ่านมาถูกให้ฉายาว่าเป็นการเลือกตั้งจอมปลอม
สุพจน์ กล่าวต่อว่า เพื่อแสดงความจริงใจของรัฐบาลทหาร จึงเรียกร้องให้รัฐ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรีสองสำรับ ต้องสำทับและสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งคลี่คลายคดีจับผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว อย่าปล่อยให้กรุงเทพมหานคร ย้อนยุคไปไกลและกลายเป็น “ยุคอันธพาลครองเมือง”
สุพจน์ กล่าวอีกว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ชี้ว่าการกระทำข้างต้น เป็นการกระทำที่รับมิได้ โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม
เช่นเดียวกันกับ เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ซึ่งได้แสดงความเสียใจกับจ
นอกจากนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนสชั่นแนล ยังได้เรียกร้องให้ทางการไทยเร่งสืบสวนคดีนี้ โดนทันที ละนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและมีการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม หากทางการไม่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ย่อมเป็นการส่งสัญญาณถึงวัฒธรรมการลอยนวลพ้นผิดในประเทศไทย ทางการไทยต้องมีแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม สอดคล้องกับพันธกรณีที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในการให้การคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้วย นอกจากนั้นในวันพุธที่ 3 ก.ค. เวลา 10.00 น. ทางตัวแทนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยจะเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในกรณีนี้ด้วย