กิจกรรมมหกรรมดนตรี ฝ่ายประชาธิปไตย ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เวทีเดือด ชี้จาก 2475 แทนที่จะเดินหน้ากลับถอยหลัง-ต้องจับคนร้ายทำ 'จ่านิว' ให้ได้ 'ธนาธร' ระบุ ต้องไม่ปล่อยให้คดีหายไป เพราะคือการคืนความเป็นธรรมให้กับคนทั้งสังคม นคร มาฉิมยกธนาธร-ปิยบุตร เป็นแม่ทัพฝ่ายประชาธิปไตย 'ณัฐวุฒิ' ชวนช่วยกันหยุดความรุนแรง วอนสังคมอย่าทิ้งความเป็นมนุษย์ไปยินดีการถูกทุบตี

คลิปมหกรรมดนตรีฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อ 29 มิ.ย. 62 ช่วงแรก

คลิปมหกรรมดนตรีฝ่ายประชาธิปไตย ช่วงจบ

29 มิ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน กลุ่มประชาธิปไตยศึกษาและเครือข่ายต่างๆ ร่วมกันจัดกิจกรรมมหกรรมดนตรี ฝ่ายประชาธิปไตย จากเดิมเป็นกิจกรรมที่ จ่านิว หรือสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ เตรียมร่วมงานด้วย แต่กลับถูกทำร้ายสาหัสเสียก่อน โดยพิธีกรในงานระบุว่า งานครั้งนี้จัดรำลึก "วันชาติ" 24 มิถุนายน 2475 แต่กลับต้องมาจัดวันนี้เนื่องจากผู้จัดติดภารกิจต้องขึ้นศาล

เวลาประมาณ 16.45 น. วงสามัญชนขึ้นแสดง โดย 'ไผ่ ดาวดิน' ร่วมเล่นพิณด้วยให้วงด้วย

พร้อมกันนี้ยังมีการตั้งโต๊ะสกรีนเสื้อประณามความรุนแรงโดยกลุ่มเพื่อนศิลปิน โดยผู้สนใจสามารถนำเสื้อมาสกรีนฟรี หรือซื้อเสื้อที่โต๊ะได้ในราคา 100 บาท 

จาก 2475 แทนที่จะเดินหน้ากลับถอยหลัง-ต้องจับคนร้ายทำ 'จ่านิว' ให้ได้ 

อดิศร เพียงเกษ

อดิศร เพียงเกษ (พ่อใหญ่อดิศร) อดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย ขึ้นพูดในเวทีงานมหกรรมดนตรีฝ่ายประชาธิปไตย โดยเขากล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจ่านิว เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภา 35 และพฤษภา 53 ที่มีการทำร้ายผู้เห็นต่างอย่างโจ่งแจ้ง

"เขาเป็นรุ่นน้องผม เรียนคณะรัฐศาสตร์ มธ. กำลังจะไปเรียนต่างประเทศ ไปเรียนอินเดีย แต่ก็อาจจะไม่ได้ไปแล้ว

ผมอยากจะบอกว่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา มึงต้องจับคนร้ายให้ได้ ถ้าไม่ได้กูจะปลดมึง กูในที่นี้ไม่ใช่ผม แต่หมายถึงเราทุกคน

จาก 2475 แทนที่จะเดินไปข้างหน้า แต่กลับเดินถอยหลัง ทุกวันนี้จะได้เวลากันหรือยังก็ไม่รู้ คนอีสานบ้านผมนี่พร้อมนะครับ แต่ไม่รู้จะเดินกันมาถึงเมืองพลหรือเปล่า วันนี้ผมไม่ได้มายุยง แต่มาปลุกปั่นโดยเฉพาะ

สิ่งสำคัญคือรัฐธรรมนูญต้องแก้ไข ต้องตั้ง สสร. (สภาร่างรัฐธรรมนูญไทย) ขึ้นมา ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ คนทุกรุ่นจะต้องช่วยกัน คนรุ่นใหม่ก็เดินนำหน้าไป คนรุ่นผมก็ไม่หนีไปไหนมันก็ยังเดินอยู่ร่วมทางไปด้วยกัน

ขอให้จ่านิวหายวันหายคืน ผมกับแม่ก็รู้จักสนิทสนมกันดี เคยไปให้แกดูไพ่ยิปซีอยู่ครั้งหนึ่ง แกว่าผมจะได้เป็นรัฐมนตรี แต่แกดูไม่แม่น ทุกวันนี้ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย (หัวเราะ)

หายเร็วๆ นะลูกจ่านิว" พ่อใหญ่อดิศรกล่าว

พันตรี พุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา

พันตรี พุทธินาถ พหลพลพยุหเสนา คืออีกคนขึ้นเวทีในงานนี้ ตอนหนึ่งเขาได้กล่าวว่า "คณะราษฎรเอาชีวิตเข้าแลก เพื่อนำต้นประชาธิปไตยมาปลูกในแผ่นดินนี้ ซึ่งไม่เคยมีต้นไม้นี้มาก่อน จึงไม่ใช่ชิงสุกก่อนห่ามตามที่เขาว่า เพราะต้นยังไม่มีเลย"

นคร มาฉิม ยก ธนาธร-ปิยบุตร เป็นแม่ทัพฝ่ายประชาธิปไตย

นคร มาฉิม

นคร มาฉิม ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดพิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตั้งแต่เดินเข้ามาในเวทีนี้ได้รับรู้ถึงพลังของประชาชนที่หยัดยืนต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทุกวันนี้สำหรับตนเองชัดเจนที่สุดแล้วว่า การต่อสู้ทางการเมืองในทุกวันนี้มีเพียงแค่สองฝ่าย คือ เผด็จการ และประชาธิปไตย

"หลายครั้งฝ่ายเผด็จการชนะ นั่นก็เป็นเพียงเพราะเขามีปืน แต่เชื่อว่าไม่นานชัยชนะจะเป็นของประชาชน

แม่ทัพฝ่ายประชาธิปไตยมีมาตลอดประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น ปรีดี พนมยงค์ ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเมื่อถึงวันนี้ผู้ที่จะเป็นแม่ทัพคนต่อไป คือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล

อยากจะบอกกับพี่น้องสั้นๆ ว่า วันนี้สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร และด้วยจิตวิญญาณที่แรงกล้า และด้วยการหลอมรวมหัวใจของฝ่ายประชาธิปไตย พวกเราจะชนะคมกระสุนของฝ่ายเผด็จการได้อย่างแน่นอน" นครกล่าว

'ธนาธร' ระบุ ต้องไม่ปล่อยให้คดีหายไป เพราะคือการคืนความเป็นธรรมให้กับคนทั้งสังคม

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

เวลาประมาณ 20.30 น. ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ขึ้นพูดในเวทีงานมหกรรมดนตรีฝ่ายประชาธิปไตย ที่จัดขึ้นที่ อนุสรณณ์สถาน 14 ตุลาคม สี่แยกคอกวัว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ จ่านิว หรือสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ จัดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอินเดีย ทว่าสิรวิชญ์ ไม่ได้ร่วมงานที่ตนเองตั้งใจจัดขึ้น เพราะถูกคนร้ายรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส

ธนาธรกล่าวว่า ด้านหนึ่งเศร้าที่เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคนที่เรียกร้องสิทธิให้พวกเรา และอีกด้านคับแค้นที่พวกเราไม่สามารถทำอะไรที่จะนำคนผิดมาลงโทษได้เลย

"ผมกับจ่านิว ไม่รู้จัก ไม่ได้สนิทสนมกัน ห่างไกลจากคำว่าเพื่อน เจอกันตามงานชุมนุมต่างๆ ก่อนหน้านี้ แต่พูดได้เต็มปากว่า เราเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณณ์กัน

พฤษภาคม ปี 59 ผมได้ไปพบกับแม่จ่านิว เนื่องจากตอนนั้นเขาถูกดำเนินคดี 112 เรื่องเปิดอ่านข้อความจากคนๆ หนึ่ง แล้วพิมพ์ตอบไปว่าจ้า ผมรู้ข่าวผมจึงไปให้กำลังใจ

ส่วนจ่านิวนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกกระทำ ถ้าใครถามว่าคำนิยามของจ่านิวคืออะไร สำหรับผมเขาคือประวัติศาสตร์ของการต่อต้านรัฐประหาร

22 พ.ค. 2557 เมื่อเกิดการรัฐประหารขึ้น ในขณะที่เรากำลัง งง ไม่รู้ว่าจะทำอะไร แต่จ่านิวกับเพื่อนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร พวกเขาสร้างความหวังว่าการต่อต้านรัฐประหารเป็นไปได้ จากนั้นเขายังคงทำกิจกรรมต่อไปเพื่อที่จะทำให้สังคมเห็นว่า รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชนไม่ได้สะอาดอย่างที่ล้ำลือกัน เขานั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ แต่สุดท้ายก็ถูกดำเนินคดีเสียเอง และจากนั้นไม่ว่าจ่านิวจะทำอะไร ก็จะถูกดำเนินคดีโดยตลอด ไม่เว้นแม้แต่ พ.ร.บ.ความสะอาดฯ

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งก็เกิดขึ้น แต่เป็นการเลือกตั้งที่มีคนตั้งข้อสงสัยมากที่สุด มีผู้ลงชื่อถอดถอน กกต เกือบล้านคน จ่านิว จัดกิจกรรมล่าชื่อถอนถอด แล้วก็โดน กกต. ฟ้องหมิ่นประมาท ระหว่างที่กำลังมีการจัดตั้งรัฐบาล จ่านิวรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกดดันให้ ส.ว. งดออกเสียง และหลังจากนั้นเขาก็ถูกทำร้ายร่างกาย

จ่านิวคือหนามของผู้มีอำนาจ เขาคือหนามของผู้ที่ต้องการสืบทอดอำนาจ ฉะนั้นนี่ไม่ใช่การทำร้ายจ่านิว แต่นี่คือการสั่งสอนพวกเราทุกคนว่า อย่าลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจ

วันนี้ผมอยากให้ทุกคนออกมาเรียกร้องร่วมกัน อย่าปล่อยให้คดีหายไปกับสายลม อย่าปล่อยให้ผู้กระทำความผิดไม่ตัองรับผิดชอบ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก และไม่ใช่คนแรก

คนผิดจะต้องถูกลงโทษ นี่ไม่ใช่การเรียกร้องความเป็นธรรมกับจ่านิวเพียงคนเดียว แต่มันคือการคืนความเป็นธรรมให้กับคนทั้งสังคม

แม้เราจะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่เราจะท้วงถามเรื่องจนข้อเท็จจริงกระจ่างชัด และในฐานะพรรคการเมืองเราทำเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ พ่อแม่พี่นัองต้องประสานเสียงร่วมกันด้วยว่าจะไม่ปล่อยเรื่องนี้หายไป เราจะต้องร่วมกันเอาสังคมที่เป็นธรรม และเอาประชาธิปไตยกลับมา

วันนี้คือเวลาของการยืนเคียงข้างกัน" ธนาธรกล่าว

'ณัฐวุฒิ' ชวนช่วยกันหยุดความรุนแรง วอนสังคมอย่าทิ้งความเป็นมนุษย์ไปยินดีการถูกทุบตี

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ณัฒวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เป็นแขกรับเชิญขึ้นร้องเพลงเป็นคนสุดท้าย และยังได้แถลงในเรื่องของจ่านิว ใจความว่า;

งานนี้จ่านิวเป็นคนจัด และน้องๆ อีกหลายคน จริงๆ ก็ไม่อย่างจะมา เพราะมาแล้วรู้สึกว่าตัวเองแก่ แต่ไม่ได้แก่แค่ผม หน้าเวทีนี่ก็พอกัน เด็กๆ เขาจะแร๊ป จัดฟังก์ ก็ยังตามกันมา แต่คนรุ่นเรามากันแล้วก็อยู่กันยาวเพราะลูกไม่ยอมมารับ เอามาส่งตอนเย็น แล้วมารับอีกทีเย็นพรุ่งนี้พวกเราก็ไม่ไปไหน (หัวเราะ)

ก่อนมาก็ไปเยี่ยมจ่านิว ทราบว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนคอยประสานช่วยเหลือ จะส่งไปยังโรงพยาบาลรามาธิบดีเพื่อรักษาตาโดยเฉพาะ

“จริงๆ นิวไม่ควรเลือดออกเลย ไอ้คนสั่งกับคนทำน่ะควรเอาเลือดหัวมันออกเสียบ้าง ผมไม่ได้บอกว่าจะไปตีหัวใครนะครับ แต่ผมคิดว่าเลือดชั่วมันไม่ควรอยู่ในตัวคน มันควรไหลออกมาเองได้ บ้นาเมืองใดก็ตาม ถ้าคนหนุ่มคนสาวที่เป็นอนาคตของประเทศกล้าออกมายืนบนหลักการที่ถูกต้อง กลับถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยกลไกของกฎหมายไม่สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ แล้วจะให้คนคิดยังไงนอกจากผู้มีอำนาจสั่งการหรือยังไง น้องๆ หน่วยข่าวฟังดีๆ นะ พี่เต้นไม่ได้โจมตีรัฐบาลนี้ พี่เต้นไม่ได้ด่ารัฐบาลนี้ พี่เต้นด่ารัฐบาลที่แล้ว รัฐบาลนี้มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ไปว่าไม่ได้หรอก เขายังไม่มีรัฐมนตรี ต้องให้ความเป็นธรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย แต่รัฐบาลที่แล้วอยู่มาห้าปี เด็กถูกตีหัวแต่ไม่มีปัญญาจับ อยู่ทำหอกอะไร”

ณัฐวุฒิกล่าวต่อไปว่า ได้คุยกับแม่นิว แกอายุน้อยกว่า 1 ปี เจอกันทุกทีแกก็เรียกผมว่าพี่ ไอ้นิวมันก็นักเคลื่อนไหวรุ่นน้อง เจอกันมันก็เรียกผมพี่ สรุปเป็นน้องผมทั้งสองคน ผมก็บอกแม่นิวว่าห่วงใย คุณหมอบอกว่าอาการไม่ถึงทุพพลภาพ แต่สิ่งที่ห่วงคือหลังจากนิวหายดีแล้ว ความปลอดภัยของนิวจะเป็นอย่างไรเพราะหมาบางพันธุ์มันงับแล้วมันไม่ปล่อย

“นี่เป็นหน้าที่ที่พวกเราทั้งหลายต้องช่วยกันดูแลปกป้อง ผมพูดไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศเลยนะครับ ท่านอย่าไปคิดว่าจ่านิวเป็นข้างไหน ท่านอย่าไปเข้าใจว่าจ่านิวเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองว่าต้องถูกตี ถูกทุบ ถูกทำร้ายได้ ไม่ใช่ครับ การปกป้อง การดูแลและการให้ความปลอดภัยกับคนเหล่านี้เท่ากับปกป้องสังคมไทยให้พ้นจากความอำมหิต ความรุนแรงและการใช้อำนาจมืดจัดการคนเห็นต่างทางการเมือง กระบองที่ทุบลงบนหัวนิวคือกระบองที่ทุบลงบนคำว่าเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” ณัฐวุฒิกล่าว

ถ้าลูกชาวบ้านธรรมดาๆ คนหนึ่งอย่างจ่านิวเดินอยู่กลางถนนในกรุงเทพฯ กลางวันแสกๆ แล้วถูกคนตีปางตายโดยจับคนร้ายไม่ได้ ลูกเราจะปลอดภัยได้ยังไงในประเทศนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง นี่คือเรื่องอาชญากรรมต่อประชาชน และนี่คือหน้าที่ของประชาชนที่จะต้องดูแลเคียงข้าง และปกป้องซึ่งกันและกัน ผมขอให้กำลังใจกับนักสู้ทุกคน”

ณัฐวุฒิกล่าวว่า บ้านเมืองในสภาพแบบนี้ โดยทั่วไปผู้มีอำนาจบริหารต้องรับผิดชอบแต่เนื่องจากรัฐบาลนี้ยังไม่มีอำนาจบริหาร จึงยังเป็นความชั่วของรัฐบาลที่แล้วล้วนๆ ที่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย และรัฐบาลนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะตั้ง ครม. เสร็จเมื่อไหร่ อ่านหนังสือพิมพ์จนเหนื่อยใจ ไม่ได้เกรงอกเกรงใจประชาชน แต่นี่เขาก็คงอ้างว่ายังไม่มี ครม. ยังไม่มีอำนาจบริหาร

อดีตแกนนำ นปช. ยังแสดงความกังวลไปยังกลุ่มคนที่สะใจหรือยินดีกับการที่จ่านิวถูกทำร้ายว่าสังคมเช่นนี้จะไม่ทำให้เกิดสันติสุขและสันติภาพได้ หวังว่าสังคมไทยจะตั้งสติ อย่าข้ามความเป็นมนุษย์จนยิ้มย่องไปกับความรุนแรง

“มีเรื่องจะสื่อสารไปยังใครก็ตามที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างกับจ่านิว แล้วกำลังแสดงความสุขีปรีดา สะใจ หรือชื่นชมยินดีกับสิ่งที่นิวกำลังประสบ ผมคิดว่านี่เป็นเรื่งองที่สังคมไทยต้องตั้งสติร่วมกันดีๆ 

“เมื่อใดก็ตามที่สังคม ประเทศที่มีคนชื่นชมกับชะตากรรมของผู้คนที่ถูกกระทำอย่างอยุติธรรมและอำมหิต สังคมนี้ไม่ใช่สังคมที่จะนำพาไปสู่สันติสุขและสันติภาพแล้ว

“สังคมแบบนี้มันอาจจะเกิดกลายเป็นสังคมที่ผู้คนหันมาเผชิญหน้าและห้ำหั่นกัน เราอย่าปล่อยให้ประเทศไทย สังคมนี้ไปถึงขั้นนั้น ต่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นกับจ่านิวไปเกิดขึ้นกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณผมก็ชื่นชมยินดีไม่ได้ ไปเกิดขึ้นกับใครก็ตามที่เราเห็นต่างกันทุกวัน ผมก็ไปสุขีปรีดากับสิ่งที่เกิดกับพวกเขาไม่ได้

"ผมหวังใจว่าสังคมไทยจะตั้งสติ ผมหวังใจว่าสังคมไทย แม้จะโกรธแค้นชิงชัง แต่อย่าข้ามเส้นความเป็นมนุษย์จนกระหยิ่มยิ้มย่องกับโลหิตของเพื่อนมนุษย์ในสังคมที่หลั่งออกมา