อุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นจำคุกชาวบ้านซับหวายอีก 2 รายคดีทวงคืนผืนป่า

ศาลจังหวัดชัยภูมิ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี "ทวงคืนผืนป่า" ที่ชาวบ้านซับหวายพิพาทกับอุทยานแห่งชาติไทรทองอีก 2 ราย ทำให้ขณะนี้ศาลอุทธรณ์ตัดสินไปแล้ว 11 ราย โดยสั่งจำคุก 10 ราย รอลงอาญา 1 ราย จำเลยถูกปรับตั้งแต่ 1 แสนบาท จนถึง 1.5 ล้านบาท ขณะที่จะมีการอ่านคำพิากษาศาลอุทธรณ์เพิ่มอีกวันพุธนี้

แฟ้มภาพชาวบ้านซับหวาย เดินทางมาที่ศาลจังหวัดชัยภูมิเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2562 (ที่มา: Facebook/สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน)

2 ก.ค.62 สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน รายงานว่า ที่ศาลจังหวัดชัยภูมิ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ชาวบ้านซับหวาย ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ กรณีอุทยานแห่งชาติไทรทองยื่นฟ้องดำเนินคดีชาวบ้านบุกรุกป่าอีก 2 ราย ได้แก่

1. นายสมพิตร แท่น​นอก​ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น​ จำคุก 10 เดือน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท

2. นายพุธ​ สุข​บงกช​ ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุก​ 6 เดือน 20 วัน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 370,00 บาท

โดยในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ค.) จะเป็นการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ของจำเลยที่เหลือเป็นวันสุดท้าย

อนึ่งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา สมาคมผู้หญิง กฎหมายและการพัฒนาแห่งเอเชียแปซิฟิก หรือ APWLD แถลงว่าองค์กรภาคประชาสังคมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชน 226 องค์กรทั่วโลก เรียกร้องรัฐบาลไทยให้ยกเลิกการดำเนินคดีในทุกข้อหาต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและที่ดิน 14 คนจากบ้านซับหวาย จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งกำลังถูกสั่งจำคุกอย่างไม่ได้สัดส่วนกับความผิด และถูกปรับสูงถึงกว่าหนึ่งล้านบาท ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า พวกเขามีความผิดเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติป่าไม้และพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ แม้เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการยกเว้นจากการดำเนินคดี ในฐานะเป็นกลุ่มคนจน ไร้ที่ดิน และมีรายได้ต่ำ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

226 ประชาสังคมทั่วโลก เรียกร้องไทยยุติดำเนินคดี-รับรองสิทธิที่ดินชาวบ้านซับหวาย, 1 ก.ค. 2562

ศาลอุทธรณ์ชัยภูมิพิพากษาคดี "ทวงคืนผืนป่า" จ.ชัยภูมิ เพิ่มเป็น 9 ราย, 25 มิ.ย. 2562

สำหรับคดีดังกล่าว เป็นกรณีพิพาทระหว่างอุทยานแห่งชาติไทรทองกับชาวบ้านซับหวาย ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่ปี 2534-2535 ในเวลานั้น มีการอพยพชาวบ้านออกจากที่ดินทำกินตามโครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับราษฏรผู้ยากไร้ (คจก.) และเมื่อรัฐได้สร้างความเดือดร้อนส่งผลกระทบมากมาย ชาวบ้านในภาคอีสานจึงรวมตัวชุมนุมลุกขึ้นสู้เรียกร้อง รัฐบาลจึงมีมติให้ยกเลิกโครงการ คจก. ชาวบ้านผู้เดือดร้อนจึงได้กลับคืนสู่ที่ดินเดิม อย่างไรก็ตาม ที่ดินเดิมถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติไทรทอง ตั้งแต่ปี 2535 ทำให้ชาวบ้านทำกินในที่ดินเดิม

และในปี 2557 รัฐบาลดำเนินนโยบายทวงคืนผืนป่า มีการจับกุมและดำเนินคดีชาวบ้านข้อหาบุกรุกป่า มีผู้ถูกฟ้องดำเนินคดีทั้งสิ้น 14 ราย รวม 19 คดี แม้ชาวบ้านจะมีความพยายามในการหาทางออก โดยผลักดันให้มีกลไกการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมระหว่างรัฐกับประชาชน และการรับรองแผนการจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วม กระทั่งที่ประชุมคณะทำงานระดับจังหวัด โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิเป็นประธาน มีมติเห็นชอบแผนดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านต่างคาดหวังว่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง และปลดล็อกปัญหาคดีความ

อย่างไรก็ตามกลไกลของคณะทำงานระดับจังหวัดกลับไม่มีความคืบหน้า ทำให้ชาวบ้านต้องเข้าสู่กระบวนการของศาลซึ่งดำเนินมาตั้งแต่กรกฎาคม 2559 โดยต่อมาศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก พร้อมทั้งปรับเงินและให้ออกจากที่ดินทำกิน โดยชาวบ้านได้ยื่นอุทธรณ์ทั้งหมด 14 ราย

โดยจำเลยในคดีพิพาทที่ดินของชาวบ้านซับหวาย รวมทั้งสิ้นจาก 14 คน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้วจำนวน 11 ราย สั่งจำคุก 10 ราย รอลงอาญา 1 ราย

โดยสถานภาพปัจจุบันทางคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 11 ราย ดังนี้

1.วันที่ 15 พ.ค. 62 ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก นิตยา ม่วงกลาง 4 เดือน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 40,000 บาท (คดีที่ 1)

2.วันที่ 4 มิ ย. 62 ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก สีนวล พาสังข์ 5 เดือน 10 วัน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 150,000 บาท

3.วันที่ 5 มิ.ย. 62 ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก นิตยา ม่วงกลาง (คดีที่ 2) 8 เดือน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 150,000 บาท

3.วันที่ 12 มิ.ย. 62 ศาลอุทธรณ์นัดจำเลย 3 ราย ฟังคำพิพากษา ดังนี้

3.1) ศาลพิพากษาจำคุก สุนี นาริน 5 เดือน 10 วัน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 439,027 บาท
3.2) ศาลพิพากษาจำคุกสุภาพร สีสุข 5 เดือน 10 วัน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 380,000 บาท
3.3) ศาลพิพากษาจำคุก ปัทมา โกเม็ด 8 เดือน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 200,000 บาท

4. วันที่ 18 มิ.ย.62 ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก สากล ประกิจ 4 ปี ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 1,587,211 บาท

5. วันที่ 25 มิ.ย. 62 ศาลอุทธรณ์นัดจำเลย 3 ราย ฟังคำพิพากษา ดังนี้

5.1) ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก ทองปั่น ม่วงกลาง 8 เดือน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท
5.2) ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกนายวันชัย อาภรแก้ว 6 เดือน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 860,395 บาท 
และ 5.3) ศาลอุทธรณ์พิพากษานายสมร สมจิตร จำคุก 1 ปี ให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี และให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 366,663 บาท รวมทั้งให้บำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 1 ปี

6. วันที่ 2 ก.ค. 62 ศาลอุทธรณ์นัดจำเลย 2 ราย ฟังคำพิพากษาดังนี้

6.1) สมพิตร แท่น​นอก​ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น​ จำคุก 10 เดือน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท

6.2) พุธ​ สุข​บงกช​ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก​ 6 เดือน 20 วัน ให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 370,00 บาท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท