อดีตชาวชุมชนป้อมมหากาฬและสมาชิกองค์การทอผ้า จัดพิธียกเสาเอก บ้านมั่นคงเกียกกาย เอาฤกษ์ที่อยู่ใหม่ หลังถูกรื้อชุมชนเดิมกว่า 1 ปี

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 08.30 น. ที่บริเวณชุมชนบ้านมั่นคงเกียกกาย ถนนทหาร เขตดุสิต กรุงเทพฯ กลุ่มประชาชน ซึ่งเคยเป็นผู้อาศัยอยู่ที่ชุมชนป้อมมหากาฬ และ สมาชิกองค์การทอผ้าจัดพิธียกเสาเอกเพื่อเป็นสิริมงคลและกำลังใจให้แก่สมาชิกในชุมชนแห่งใหม่ หลังจากครบรอบกว่า 1 ปี ที่ชาวชุมชนป้อมมหากาฬถูกรื้อชุมชน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในงานยกเสาเอกครั้งนี้มีตัวแทนจาก กอ.รมน.กทม., ตัวแทนจากสำนักส่งเสริมสหกรณ์ กรุงเทพมหานคร พื้นที่เขต 1, ตัวแทนจากสำนักงานกรุงเทพมหานคร, สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน), กรมธนารักษ์ รวมทั้งเครือข่ายประชาชน เข้าร่วม

พีระพล เหมรัตน์ หรือเล็ก ประธานสหกรณ์บ้านมั่นคงเกียกกายพัฒนา (ผู้นำชุมชนป้อมมหากาฬ) กล่าวว่า นับจากวันนี้ไปอีกประมาณ 7 เดือน สมาชิกของชุมชนจึงจะสามารถเข้ามาอยู่อาศัยในชุมชนแห่งใหม่ รวม 32 ครัวเรือน โดยแบ่งเป็นชาวชุมชนป้อมหากาฬ 18 ครัวเรือน และ องค์การทอผ้า 14 ครัวเรือน

สำหรับความกังวลของปัญหาของชาวชุมชนป้อมมหากาฬในระหว่างการรอเพื่อที่จะได้ย้ายเข้ามายังที่อยู่อาศัยใหม่นั้น ประธานสหกรณ์บ้านมั่นคงเกียกกายพัฒนา กล่าวว่า ที่อยู่ของชาวชุมชนป้อมมหากาฬในปัจจุบัน บางส่วนยังคงอาศัยอยู่ในสำนักงานการประปาเก่าแยกแม้นศรีที่ทาง กทม. และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพฯ (กอ.รมน.กทม.) จัดสรรให้อยู่ชั่วคราว ซึ่งกทม. จะต้องคืนพื้นที่สำนักงานดังกล่าวให้กับที่ดินส่วนทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ทำให้ชาวบ้านต้องย้ายออกก่อนที่ที่อยู่ใหม่จะสร้างเสร็จ ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากในเรื่องของภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมา เพราะถ้าหากอยู่อาศัยต่อก็ไม่มีน้ำ ไฟฟ้าใช้อุปโภค บริโภค จึงวางแผนหารือกับชาวในชุมชนว่าจะรวมตัวกันขอต่อรองกับเจ้าของพื้นที่ให้ได้อยู่ต่อจนกว่าโครงการบ้านมั่นคงเกียกกายจะสร้างเสร็จ

พีระพล ได้กล่าวถึงอนาคตของสหกรณ์บ้านมั่นคงเกียกกายพัฒนาจะต้องมีสิ่งที่เกิดขึ้นคือการรวมกลุ่มกันของคนในชุมชนเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชน และ ต้องมีการบริหารจัดการด้านการเงินที่โปร่งใสมีระบบการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมาเป็นสิ่งที่สำคัญ