Skip to main content
sharethis

12 ก.ค. 2562 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยสมาชิกพรรคเพื่อไทยมีมติเลือกสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค 28 คนประกอบด้วย ปลอดประสพ สุรัสวดี กิตติรัตน์ ณ ระนอง ชูศักดิ์ ศิรินิล ไพจิต ศรีวรขาน เกรียง กัลป์ตินันท์ วิทยา บุรณศิริ สามารถ แก้วมีชัย วิชาญ มีนชัยนันท์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ชวลิต วิชยสุทธิ์ ลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร นคร มาฉิม พล.ต.ท.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ เป็นรองหัวหน้าพรรค 

นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เป็นเลขาธิการพรรค ละออง ติยะไพรัช จตุพร เจริญเชื้อ จิรายุ ห่วงทรัพย์ ศราวุธ เพชรพนมพร สุรชาติ เทียนทอง ขัตติยา สวัสดิผล เผ่าภูมิ โรจนสกุล เป็นรองเลขาธิการพรรค ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เป็นเหรัญญิกพรรค จักรพงษ์ แสงมณี เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด เป็นโฆษกพรรค ประพนธ์ เนตรรังสี ณรงค์ รุ่งธนวงศ์ เป็นกรรมการบริหารพรรค เสนาะ เทียนทอง เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค และสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค 

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ กล่าวว่า ภารกิจแรกในฐานะผู้นำฝ่ายค้านที่จะเกิดขึ้นในสมัยประชุมนี้คือการอภิปรายนโยบายรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลนโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา หากนโยบายดีก็พร้อมสนับสนุน แต่หากนโยบายใดควรจะปรับปรุง ต้องถูกอภิปรายพร้อมให้ข้อคิดและคำแนะนำ ฝ่ายค้านพร้อมทำหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา จากนั้นในเดือนส.ค. หรือ ก.ย. จะอภิปรายงบประมาณรายประจำปี เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาล คสช. ไม่สามารถตรวจสอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ ครั้งนี้จำเป็นต้องจะใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเงินงบประมาณนำไปใช้ในส่วนใดบ้าง เกิดประโยชน์หรือไม่ และสุดท้ายคือยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ  อาจจะเป็นเฉพาะเจาะจงตัวบุคคลหรืออาจจะทั้งคณะ ซึ่งจะต้องหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน ยืนยันฝ่ายค้านไม่เคยใช้สภาเพื่อล้มรัฐบาล แต่เป็นการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา

“การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายภายในพรรคถือเป็นเรื่องปกติ แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหาเพราะทุกคนมองที่ผลประโยชน์เป็นหลัก และครั้งนี้พรรคได้นำคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานกับพรรค ซึ่งทุกคนมีความตั้งใจและพร้อมทำงานขับเคลื่อนพรรค ยืนยันไม่มีใครเป็นนอมินี  หรือมีใครมาสั่งการได้” สมพงษ์ กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคฝ่าฟันสถานการณ์ทางการเมืองมาอย่างมากมาย เป็นพรรคที่ประสบความสำเร็จมาได้ด้วยดีโดยตลอด สิ่งที่ต้องรับผิดชอบต่อจากนี้ จะไม่ใช่การกระทำเพื่อตนเอง แต่ขอให้สัญญาว่าจะดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ของพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคที่ยิ่งใหญ่ในระบอบประชาธิปไตย พร้อมเป็นไม้เป็นมือของทุกคน จึงขอให้โอกาสได้ใช้โอกาสเป็นตัวเชื่อมกับทุกคนในการทำงานกับส่วนกลาง 

เสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรค กล่าวว่า ไม่คาดฝันว่าพรรคเพื่อไทยที่เคยได้รับการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นอันดับหนึ่งจะกลายเป็นฝ่ายค้าน ไม่ใช่เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มีความสามารถจัดตั้งรัฐบาล แต่เกิดจากนักกฎหมายคนหนึ่งที่ออกแบบกฎหมาย ทำให้พรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า การทำงานของพรรคต่อจากนี้จะเข้าถึงปัญหาของประชาชนให้มากขึ้น พรรคจะเป็นสะพานเชื่อมให้ประชาชนและผู้เชี่ยวชาญในการทำงาน ด้วยการเปิดช่องทางในการนำเสนอนโยบายให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมคิดสิ่งใหม่ ๆ ทั้งนี้ โครงสร้างใหม่ของพรรคเกิดขึ้นภายในสองสัปดาห์โดยจะเปิดโอกาสให้สมาชิกทำงานตามความถนัดและความสามารถอย่างเต็มที่

“ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายค้านที่แข็งแกร่ง ดูแลผลประโยชน์ของประชาชน เป็นสะพานเชื่อมนำความรู้ไปสู่โลกยุคใหม่ มีวัตถุประสงค์คืนความกินดีอยู่ดีและความสุขให้กับคนไทย คืนประชาธิปไตยที่แท้จริงกลับสู่ประเทศ” สุดารัตน์ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net