Skip to main content
sharethis

ผมไปร่วมคารวะลุงธง ทั้งที่ไม่ได้รู้จักส่วนตัว แทบไม่เคยเจอ ได้เห็นครั้งหลังสุดก็งาน อ.ยิ้ม อยู่ป่าก็ไม่เคยเจอ เพราะเป็นสหายนำระดับกรมการเมือง อยู่ศูนย์กลางพรรคที่น่าน ที่ตะนาวศรี ไม่ใช่อย่างลุงเชี่ยวที่รับผิดชอบจังหวัดเชียงราย

แต่ก็เคารพ "สหายดิน" เสมอมา ทั้งการยืนหยัดรักษาพรรคในช่วงล่มสลาย และแสดงจุดยืนที่ชัดเจนหลังรัฐประหาร 49 ว่า (อดีต)ชาวคอมมิวนิสต์ที่ใฝ่ฝันจะเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่ความเสมอภาคเป็นธรรม ต้องสนับสนุนประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่ใช่หันไปเชียร์รัฐประหารโค่นทุนสามานย์แบบที่สับสนกัน

อย่างไรก็ดี ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือการคารวะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ "คนสุดท้าย" ซึ่งมีความหมายมากกว่าตัวบุคคล ในฐานะที่เราไม่เคยมีโอกาสได้จัดงานให้กับเลขาธิการพรรคคนก่อนๆ เป็นการรำลึกและให้ความเคารพ ชาวพรรคคอมมิวนิสต์ทั้งขบวน ที่ต่อสู้เสียสละเพื่ออุดมการณ์มายาวนานกว่า 80 ปี แม้พ่ายแพ้สูญเสียและสังคมในอุดมคติล่มสลายไปคาตา แต่ก็ไม่เคยสิ้นหวัง

พรรคคอมมิวนิสต์ไทย พรรคคอมมิวนิสต์โลก คือขบวนของผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ผู้รักความเป็นธรรม ที่ลุกขึ้นต่อสู้การกดขี่ การใช้อำนาจรังแก การแบ่งปันผลประโยชน์ในสังคมอย่างไม่ยุติธรรม เพราะอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ถือว่าทรัพย์สินทุกอย่างในโลก มาจากประชาชนผู้ใช้แรงงาน ผู้ใช้สมอง แต่ถูกดูดกินโดยอำนาจและทุน ไปสั่งสมเป็นทรัพย์สินส่วนเกิน

พรรคคอมมิวนิสต์ไทย พรรคคอมมิวนิสต์โลก อาจผิดพลาดในแนวคิดแนวทาง การยึดอำนาจรัฐด้วยกำลังอาวุธ สร้างเผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ ซึ่งท้ายที่สุดก็กลืนกินตัวเอง เพราะทำลายสิทธิเสรีภาพ ที่เป็นจุดเริ่มต้น ให้บรรพชนพรรคคอมมิวนิสต์ลุกขึ้นสู้กับระบอบเก่านั่นเอง

แต่จะบอกว่าพรรคคอมมิวนิสต์สูญเปล่าก็คงไม่ใช่ ถ้าไม่มีการต่อสู้เรียกร้อง ก็ไม่มีการยินยอมให้ความเป็นธรรมระดับหนึ่ง เช่นถ้าไม่มีการต่อสู้ของสหภาพแรงงาน ที่พรรคคอมมิวนิสต์และขบวนฝ่ายซ้ายผลักดันในอดีต ก็ไม่มีการยกระดับมาตรฐานคุ้มครองแรงงาน หรือถ้าไม่ใช่เพราะ พคท.เติบใหญ่เข้มแข็งหลัง 6 ตุลา เผด็จการหอยก็คงอยู่นาน 12 ปี คงไม่ปรับตัวเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ (และเป็นกระแสโลก หลังแพ้สงครามเวียดนาม อเมริกาก็เลิกนโยบายหนุนรัฐประหาร)

วันนี้นั่งกับป้าน้ำ มีผู้หญิงอายุร่วม 80 สองคนมาไหว้ป้าน้ำ ปรากฏว่าเป็นผู้นำกรรมกรยุคจอมพล ป. อะโห เขาสู้กันมาตั้งแต่ผมยังไม่เกิด

ในความผิดพลาดของพรรคคอมมิวนิสต์ สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ ขบวนพรรคคอมมิวนิสต์เป็นขบวนอุดมคติสูงส่งที่สุดที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ เพราะทุกคนต้องเสียสละตัวเอง ไม่ใช่แค่ชีวิตเลือดเนื้อความพลัดพรากความยากลำบากแสนเข็ญ แต่ต้องดัดแปลงตนเอง ขัดเกลานิสัย รอบรู้ความคิดทฤษฎี แต่อ่อนน้อมถ่อมตน อดออมให้ผู้อื่น ไม่เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ใช่มึงแน่กูก็แน่ (แบบขบวนประชาธิปไตย) ใช้ชีวิตเรียบง่ายสมถะ โดยเฉพาะคนที่จะเป็นสหายนำ พูดง่ายๆ ว่าบวชพระยังง่ายกว่าเป็นคอมมิวนิสต์ (ซึ่งจะมีลำดับขั้น ต้องเป็น ย.สมาชิกสันนิบาตเยาวชน ก่อนเป็น ส. ผมนี่เข้าป่าหลายปีอุตส่าห์วิจารณ์ๆตนเอง ยังเป็นแค่ ย.อยู่เลย จนป่าแตก ก็เป็น ย.ค้างมาจนอายุ 62)

ในด้านหนึ่งเหมือนมันสุดโต่ง และมันก็มีความบกพร่องอยู่บ้าง แต่คนที่เป็นสหายนำส่วนใหญ่ ก็เป็นอย่างนั้นจริงนะ เหมือนอย่างลุงธง ที่เรียบง่ายสมถะแต่ยืนหยัดมั่นคงตลอดชีวิต 98 ปี

ชีวิตในป่ามันมีด้านที่เป็นชีวิต "สูงส่ง" ด้วยเหตุนี้ คนที่เคยเข้าป่า ไม่ว่าวันนี้จะคิดต่างกันอย่างไร ก็ไม่มีวันลืมช่วงเวลา 3-4 ปีในชีวิต ที่อุทิศทุกอย่างเพื่อการต่อสู้ แต่อบอุ่นท่ามกลางมวลหมู่สหาย มันเหมือนชีวิตในฝัน ที่เกินจริงและล่มสลายไปแล้ว แต่ยังเป็นแสงดาวประจำใจ

ณ วันนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จบบทบาทไปแล้ว แนวทางการยึดอำนาจรัฐด้วยกำลังอาวุธ เผด็จการชนชั้นกรรมาชีพ ไม่สามารถนำไปสู่สังคมอุดมคติได้ แต่ตำนานการต่อสู้ แบบอย่างของคนจำนวนมากมายที่เสียสละทุกสิ่งด้วยความหวังจะสร้างความเป็นธรรมในสังคม จะคงอยู่ตลอดไป เพราะอุดมการณ์เพื่อความเป็นธรรมไม่มีวันตาย

และอันที่จริง อุดมการณ์สังคมนิยมก็ยังไม่ตาย ในโลกทุกวันนี้ที่เกิดความเหลื่อมล้ำสูงลิบ เศรษฐกิจโลกกำลังวิกฤตเพราะเงินล้นเกิน ทำให้สังคมนิยมประชาธิปไตยจะกลับมาใหม่ เพียงแต่คนรุ่นนี้จะต้องดัดแปลงรูปแบบโครงสร้างให้เข้ากับยุคสมัย เป็นเป้าหมายใหม่ ชูประชาธิปไตยที่ลดเหลือมล้ำขจัดการผูกขาดผลประโยชน์ของกลุ่มทุน

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net