'อนุทิน' หารือ 'อ.เดชา' เตรียมพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่มีปัญหาให้ 'หมอพื้นบ้าน'

'อนุทิน ชาญวีรกูล' รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข รับฟังกลุ่มมูลนิธิขวัญข้าวและคณะ นำโดย 'อ.เดชา ศิริภัทร' หารือปัญหาระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้านปี 2562 ส่งผลให้หมอพื้นบ้านกว่า 3 พันคนได้รับผลกระทบ และการทำให้ CBD ซึ่งอยู่ใน 'กัญชา' และ 'กัญชง' เป็นสารที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการค้นคว้าวิจัยและนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ย้ำไม่ได้มุ่งใช้กัญชาเพื่อสันทนาหรือเปิดเสรี เด็กเยาวชนต้องเข้าไม่ถึง


ที่มาภาพ: เว็บไซต์พรรคภูมิใจไทย

21 ก.ค. 2562 เว็บไซต์พรรคภูมิใจไทย รายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการหารือกับนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ นายยืนยง โอภากุล(แอ๊ด คาราบาว) นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัยมหาวิทยาลัยรังสิต ถึงกรณีที่นายเดชา ยังไม่ได้รับการรับรองให้เป็นหมอพื้นบ้านตามกฎหมาย ว่า

ครั้งหนึ่งนายเดชา ผ่านการรับรองแล้ว แต่ปรากฎว่าเมื่อไม่นานมานี้มีการออกระเบียบกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการรับรองหมอพื้นบ้าน พ.ศ 2562 ซึ่งทำให้คุณสมบัติของนายเดชาขาดหายไปบางข้อ ประเด็นนี้ไม่ได้กระทบเพียงนายเดชา แต่กระทบกับหมอพื้นบ้านประมาณ 3 พันคนด้วย

หลังจากนี้ ต้องไปคุยกับทางภาครัฐทั้งปลัดกระทรวงสาธารณสุข และในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขกฎหมายที่มีปัญหา หากอยู่ในระดับกฎกระทรวงเป็นอำนาจที่รัฐมนตรีสามารถทำได้ แต่ต้องขอเวลาหารือก่อน ตนและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ให้ความสำคัญกับสุขภาพคนไทย และต้องมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพตัวเองที่หลากหลายขึ้น

นายอนุทิน กล่าวต่อว่านอกจากเรื่องหมอพื้นบ้าน ต้องไปดูในเรื่องการทำให้ CBD ซึ่งอยู่ในกัญชาและกัญชง เป็นสารที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการค้นคว้าวิจัย และนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ เพราะมีคนป่วยจำนวนมาก รอการช่วยเหลือจากสาร CBD อยู่

ย้ำไม่ได้มุ่งใช้กัญชาเพื่อสันทนาหรือเปิดเสรี เด็กเยาวชนต้องเข้าไม่ถึง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานว่าในขณะการตรวจราชการที่ จ.เลย นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเชื่อมั่นว่าการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์มีประโยชน์ ซึ่งเรื่องโทษนั้นเราสามารถควบคุมกำกับการใช้ได้ เช่น บุหรี่ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เราไม่ต้องการให้เด็กเยาวชนเข้าถึงและนำมาใช้โดยปราศจากการควบคุม 

ทั้งนี้การพยายามผลักดันเรื่องนี้ มาจากข้อเรียกร้องของประชาชนจำนวนมากที่อยากให้นำมาใช้ทางแพทย์ ไม่ได้มุ่งเป้าเพื่อสันทนาการหรือการเปิดให้ใช้อย่างเสรี แต่เพื่อให้เกิดผลในการรักษาโรคบางโรคหรือทุเลาอาการของโรคบางโรค ตามข้อมูลที่สถาบันต่างๆ ได้วิจัย และหากเป็นไปได้จะช่วยลดค่าใช้จ่าย ลดจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับบริการในโรงพยาบาล มีงบประมาณเหลือนำมาใช้พัฒนาคุณภาพระบบบริการด้านอื่นๆ เพื่อประชาชนต่อไป

สำหรับการเตรียมการพร้อมของหน่วยบริการเพื่อนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ของจังหวัดเลยมีวัตถุประสงค์ 2 เรื่องคือ การใช้ประโยชน์และการควบคุมกำกับการใช้ โดยจังหวัดเลย มีผู้แจ้งครอบครองกัญชา 236 ราย ใช้ในโรคมะเร็ง นอนไม่หลับ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ลมชัก ต่อมลูกหมากโต เป็นต้น ซึ่งทางจังหวัดได้นำร่องจัดบริการ 2 แห่ง ที่โรงพยาบาลเลย และโรงพยาบาลปากชม เตรียมพร้อมอบรมบุคลากร 37 คน จากโรงพยาบาล 18 แห่ง เป็นไปตามเงื่อนไขข้อกำหนดทางกฎหมายทุกประการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท