ความคืบหน้าคดี 'ตีหัวจ่านิว' ตร.ควบคุมตัวผู้ต้องหาแล้ว แต่เป็นคดีโพสต์กล่าวหา รอง ผบ.ตร. อยู่เบื้องหลัง ขณะที่คนร้ายตีหัวนั้น ตร.แจงไม่สามารถขอหมายจับได้ เนื่องจากปิดบังอำพรางใบหน้า

ภาพ สุชานันท์ (ที่มาภาพ นกแดง เสรีภาพ)

23 ก.ค.2562 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา สุชานันท์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นหญิงข้ามเพศเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีโพสต์เฟสบุ๊คว่า รอง ผบ.ตร. อยู่เบื้องหลังการทำร้ายจ่านิว

เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน ปอท. ทำบันทึกจับกุม แจ้งข้อกล่าวหา สุชานันท์ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับแก้ไข พ.ศ.2560 มาตรา 14 (2) โดยมีหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 12 ก.ค. 2562 จากนั้นพนักงานสอบสวนจะให้ผู้ต้องหานำค้นที่พัก รวมถึงขอตรวจและยึดโทรศัพท์มือถือแต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอม และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ต่อมาประมาณ 15.30 น. ศาลอาญาธนบุรีอนุมัติหมายค้นที่พักของ สุชานันท์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังพร้อมตัวผู้ต้องหาและผู้ติดตามเข้าค้นที่พัก แล้วจึงนำตัวกลับมาควบคุมตัวที่ สน.ทุ่งสองห้อง เนื่องจาก บก.ปอท. ไม่มีห้องขัง ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังก่อนการพิจารณาคดีที่ศาลอาญาในวันที่ 23 ก.ค. 2562 โดยอาจต้องใช้เงินเพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวถึง 100,000 บาท

อย่างไรก็ตาม กรณีนี้เป็นที่สังเกตว่า แม้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับแก้ไข พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) จะถูกแก้ไขไม่ให้ใช้กับความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา แต่ยังคงมีการแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต่อกรณีที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทอยู่

สำหรับ สุชานันท์ ถูกเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “เจ๊แน๊ต สุชานันท์” 

ล่าสุดวันนี้ (23 ก.ค.62) นกแดง เสรีภาพ โพสต์แจ้งผ่านเฟสบุ๊คว่า ศาลให้การประกันตัวสุชานันท์ และปล่อยตัวเมื่อ 18:00 น. ที่ผ่านมา

ตร.ยันคดีจ่านิวคืบหน้า แต่ไม่สามารถขอหมายจับคนร้ายได้ เหตุปิดบังอำพรางใบหน้า

ขณะที่ความคืบหน้าคดีทำร้ายร่างกายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ จ่านิว นักกิจกรรมทางการเมือง กลุ่ม Start up people จนบาดเจ็บสาหัส เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณ ปากซอยรามอินทรา 109 กรุงเทพฯ โดยที่เหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่กลุ่มบุคคลนิรนามได้กระทำความรุนแรงต่อเขา และที่ผ่านมาได้มีนักกิจกรรมทางการเมือง ที่ส่งเสริมประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนถูกทำร้ายร่างกายมาไม่น้อยกว่า 16 ครั้ง แต่ทว่าเจ้าหน้าที่รัฐแทบทั้งหมดไม่สามารถดำเนินการจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้เลยนั้น

วันนี้ (23 ก.ค.62) สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. รายงานว่าา พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. คดีดังกล่าวว่า ยืนยันตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและยังดำเนินการสืบสวนสวนอย่างต่อเนื่อง และคดีมีความคืบหน้าต่อเนื่อง โดยกล้องวงจรปิดที่ประสานขอ กทม. และเอกชนได้มาหมดแล้ว โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางหลบหนี แต่ที่ไม่สามารถขอหมายจับคนร้ายได้ เนื่องจากมีการปิดบังอำพรางใบหน้า ก็ต้องนำหลักฐานอื่นไปสืบจำ ซึ่งมีข้อมูลอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ ขณะที่หลังจาก จ่านิว ออกจากโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ได้ไปสอบปากคำแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติม โดยในส่วนของการดูแลความปลอดภัยนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการส่งชุดเจ้าหน้าที่ไปคอยดูแลอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้ จ่านิว จะเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ก็มีข้อพิพาทหลายๆ เรื่อง ซึ่งหากจับคนร้ายได้ก็จะรู้ว่าก่อเหตุเพราะอะไร จึงต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด