Skip to main content
sharethis

ศาลแพ่งนัดสืบพยานโจทก์และจำเลย 28 – 31 ม.ค.ปีหน้า คดีมารดาอะเบ แซ่หมู่ ฟ้องกองทัพบก เรียกค่าเสียหาย จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนยิงบุตรชายตนเสียชีวิต

ครอบครัวของชัยภูมิ ป่าแส และอะแบ แซ่หมู่ เข้ายื่นฟ้องแพ่งกองทัพที่ศาลแพ่ง รัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม รายงานความคืบหน้าคดี อะหมี่มะ แซ่หมู่ มารดาของอะเบ แซ่หมู่ ชาวชาติพันธุ์ลีซู ฟ้องกองทัพบก เรียกค่าเสียหาย จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนยิงบุตรชายตนเสียชีวิต โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 13.30 น. ศาลแพ่งนัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางการดำเนินคดี โดย อะหมี่มะ มารดาของ อะเบ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกองทัพเป็นจำเลย เพื่อเรียกค่าเสียหายจำนวน 7,845,153.37บาท ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารผู้ใต้บังคับบัญชากองทัพบก ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง อะเบบุตรชาย จนถึงแก่ชีวิต และศาลได้รับฟ้องคดีดังกล่าวเป็นคดีหมายเลขดำที่ พ.2592/2562

ศาลได้ตรวจคำฟ้องและคำให้การแล้ว พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีประเด็นข้อพิพาทดังนี้

ประเด็นแรก เจ้าหน้าที่ทหารผู้ใต้บังคับบัญชาของจำเลยกระทำละเมิดต่อ อะเบ บุตรของโจทก์หรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้จำเลยให้การต่อสู้ว่า ในขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงใส่ อะเบ และชายคนที่ขับรถจักรยานยนต์ เป็นการกระทำที่จำเป็นเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองและผู้อื่นให้พ้นจากอันตราย ซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าประเด็นนี้ภาระการพิสูจน์เป็นหน้าที่ของจำเลย

ประเด็นที่สอง จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด ซึ่งประเด็นนี้โจทก์เป็นฝ่ายกล่าวอ้าง ภาระการพิสูจน์จึงเป็นหน้าที่ของโจทก์ ในการนำสืบข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้รับความเสียหายและการกระทำของจำเลยมิใช่การป้องกันสิทธิตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใดอีกทั้งจำเลยต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามคำฟ้อง

ฝ่ายโจทก์ โดยทนายความโจทก์แถลงต่อศาลขอสืบพยาน 9 ปาก ใช้เวลา 3 นัด และพยานส่วนใหญ่คือจำนวน 8 ปาก อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงจะขอส่งประเด็นไปสืบพยานทั้งแปดนั้นที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ศาลเห็นว่าสามารถสืบพยานผ่านระบบการประชุมทางจอภาพได้โดยไม่ต้องส่งประเด็นไปศาลอื่น จึงมีให้ใช้วิธีสืบพยานทางจอภาพ และคดีนี้โจทก์ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดในการดำเนินคดีของศาลชั้นต้น จึงได้รับการยกเว้นค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมในการสืบพยานทางจอภาพด้วย  

ฝ่ายจำเลย โดยพนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายความจำเลยแถลงต่อศาลขอสืบพยาน 3 ปาก ใช้เวลาสืบ 1 นัด

ดังนั้นศาลจึงกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 28 ถึงวัน 30 ม.ค. 2563 เวลา 9.00-16.30 น. และสืบพยานจำเลยในวันที่ 31 ม.ค. 2563 เวลา 9.00-16.30 น. ณ ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ อะเบ ชาติพันธุ์ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญฆาตกรรมเมื่อปี 60 แล้ว ยังมีกรณีชาวชาติพันธุ์ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมและเป็นคดีดังคือชัยภูมิ ป่าแส ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้ ญาติยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากกองทัพบก ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหาร เช่นเดียวกัน โดย รัษฎา มนูรัษฎา ทนายความกล่าวว่า หลังจากศาลจังหวัดเชียงใหม่มีคำสั่งไต่สวนการเสียชีวิตของทั้งสองคน และพบว่าเสียชีวิตจากการถูกพลทหารใช้ปืนเอ็ม 16 ยิง โดยทั้งสองเหตุการณ์มีความคล้ายคลึงกันและเกิดเหตุในระยะเวลาห่างกันเพียงหนึ่งเดือน โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นทายาทมีสิทธิที่จะฟ้องร้องทางแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลจะต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหาย โดยคดีทั้งสองนี้มีข้อกล่าวอ้างว่าทหารต้องยิงป้องกันตัวเองเนื่องจากผู้ตายมีอาวุธคือระเบิดที่จะขว้างใส่ทหาร และคดีทั้งสองมีพยานที่เป็นชาวบ้านรู้เห็นเหตุการณ์ได้ให้การไว้ในศาลแล้ว โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปอย่างที่ทหารอ้างว่าป้องกันตัว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net