Skip to main content
sharethis

ปมพรรคพลังประชารัฐจัดสัมมนาในรีสอร์ตบุกรุกป่า 'ศรีสุวรรณ' จ่อร้อง กกต.เสนอศาล รธน. ยุบพรรค 'ดำรงค์ พิเดช' ชี้บุกรุกป่า ยกจริยธรรมไม่ควรใช้ ด้าน ส.ส.พลังประชารัฐ แจงเหตุไปจัดงานในที่ส่อรุกป่าจะได้รู้ปัญหาที่ดิน ขออย่าโยงการเมือง ขณะที่ 'ประวิตร' ปัดนั่งฮ.ไปสัมมนา ยันนั่งรถจาก กทม.ไป 'พีมูฟ' ร้อง รมว.กระทรวงทรัพยฯ ยุตินโยบายทวงคืนผืนป่า

ภาพซ้าย ศรีสุวรรณ, ภาพขวา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แวะ ให้กำลังใจ ส.ส.ที่ 88 กามองเต้ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 

23 ก.ค.2562 จากกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การใช้สถานที่จัดงานสัมมนา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่​ 88​ การ์มองเต้​ รีสอร์ท​ อ.วังน้ำเขียว​ จ.นครราชสีมา ไม่เหมาะสม เพราะกรมอุทยานฯ มีคำสั่งให้รื้อถอน เพราะใช้ประโยชน์ที่ดินผิดประเภท นั้น

'ศรีสุวรรณ' จ่อร้อง กกต.เสนอศาล รธน. ยุบพรรค

ล่าสุดวันนี้ (23 ก.ค.62) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ว่า สมาคมฯ จะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นร้องเรียนต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อดำเนินการไต่สวนและยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพุธที่ 24 ก.ค.2562 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ อาคาร B ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม.

ศรีสุวรรณ ระบุด้วยว่า สถานที่จัดงานดังกล่าวเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่าเคยถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ เข้าจับกุมมาแล้วถึง 2 ครั้ง ข้อหาบุกรุกป่า เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2555 เนื้อที่ 20 ไร่ ต่อมาวันที่ 31 มี.ค.2560 จับเพิ่มอีก 30 ไร่ 2 งาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบสิ่งปลูกสร้างจำนวน 18 รายการ โดยเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว พื้นที่ดังกล่าวมีสถานะเป็นพื้นที่ป่าและยังอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ การเข้ามาซื้อที่ดิน ยึดถือครอบครองที่ดินและประกอบกิจการรีสอร์ต เพื่อแสวงหาประโยชน์ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

"การที่พรรคพลังประชารัฐหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลได้ไปจัดสัมมนาในรีสอร์ตดังกล่าว ทั้งๆที่กำลังจะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 25-26 ก.ค.นี้และหนึ่งในนโยบายหลักข้อ 10 คือ การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อการสร้างการเติบโตอย่างยั้งยืนนั้น ช่างเป็นการย้อนแย้งที่ไม่ควรกระทำ และถือได้ว่าเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้รีสอร์ตดังกล่าวกระทำการอันเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ ซึ่งต้องห้ามตาม ม.45 แห่ง พรป.พรรคการเมือง 2560 อันมีความผิดตาม ม.92(3) อันเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคพลังประชารัฐ และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองได้ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมืองและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติดังกล่าว เพราะมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคพลังประชารัฐได้กระทำการฝ่าฝืนจริง" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุ

'ดำรงค์ พิเดช' ชี้บุกรุกป่า ยกจริยธรรม ไม่ควรใช้

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานปฏิกิริยาจาก ดำรงค์ พิเดช ส.ส.พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย และอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งกล่าวถึงกรณีว่า รีสอร์ตแห่งนี้ ในสมัยที่ตัวเองเป็นอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้เข้าไปจับกุมตั้งแต่ปี 2555 และทราบว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในชั้นอัยการ และทางเจ้าของขอคุ้มครองชั่วคราวจากศาลปกครอง ดังนั้น เมื่อศาลยังไม่ตัดสิน ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้ยังสามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อยู่ แต่ก็ตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้ผ่านมาแล้ว 7 ปี น่าจะจบไปนานแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า เชื่อว่า ถ้าเจ้าของบริสุทธิ์ คดีนี้น่าจะจบไปแล้วแต่ยังมีการดึงเกมอยู่ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็น่าจะรู้ว่า เป็นเรื่องของนักการเมือง พรรคการเมือง จึงไม่ได้ทำอะไรมาก แต่ในแง่ของจริยธรรม ส.ส. ก็ไม่ควรเข้าไปใช้ เพราะรู้ว่าที่แห่งนี้มีคดีความอยู่ ควรจะเลือกไปที่อื่น

'พลังประชารัฐ' แจงเหตุไปจัดงานในที่ส่อรุกป่าจะได้รู้ปัญหาที่ดิน ขออย่าโยงการเมือง

ขณะที่ ข่าวสดออนไลน์ รายงานคำชี้แจงของพรรคพลังประชารัฐ โดยวันนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐแถลงชี้แจงกรณีนี้ว่า ไม่อยากให้เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง แต่อยากให้นำปัญหาเรื่องประกาศที่ดินอุทยานทับซ้อนกับที่ชุมชนมาแก้ไข ซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อให้ประชาชนกว่า 2 ล้านครอบครัว ได้มีที่ดินใช้ประโยชน์ สถานที่อาจใช้ประโยชน์ผิดประเภท แต่อัยการยังไม่ฟ้องคดี ยังไม่ตัดสินว่าผิดและคดียังอยู่ในชั้นศาล ที่ระบุเช่นนี้อย่ามองว่าทำเพื่อเศรษฐีหรือนายทุน

แต่ต้องการสะท้อนปัญหาเรื่องที่ดินเพื่อให้ส่วนรวมได้ประโยชน์ เรื่องนี้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินคดีจับกุม ตรวจยึด ทุบทำลาย ทรัพย์สินสิ่งปลูกสร้างของราษฎรทั้งที่มีอยู่เดิมและเข้ามาอยู่ใหม่ เมื่อปี 2555โดยอ้างว่า บุกรุกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ทั้งที่ชาวบ้านได้อยู่อาศัยมาก่อนที่จะมีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ ซึ่งไปถึงชั้นอัยการก็ไม่มีการสั่งฟ้อง

จนกระทั่งปี 2560 มีการจับกุมซ้ำ ซึ่งคดียังไม่ถึงที่สุด จะไปกล่าวหาว่าผิดไม่ได้ เพราะคนที่จะบอกว่าผิดคือศาล ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทั้งนี้เราทราบปัญหาอยู่แล้วและตั้งใจตั้งแต่ต้นที่จะพา ส.ส.ไปประชุมที่นี่ โดยแจ้งหัวหน้าและผู้บริหารพรรครับทราบแล้วว่าต้องการทำให้เกิดกระแสเพื่อนำไปสู่การแก้ไข ซึ่ง อ.วังน้ำเขียว เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ประสบปัญหานี้ หากฝ่ายค้านจะตั้งกระทู้ในเรื่องนี้ ขอเสนอให้ตั้งเป็นญัตติเลย เพราะจะได้ชี้แจงให้ชัดเจน

“ตอนนี้เขายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ส่วนเรื่องของรีสอร์ต สร้างตั้งแต่ปีไหน ไม่ใช่ประเด็น ที่จะต้องมาถาม ถ้าบอกว่าเขาผิด แปลว่าโรงพยาบาลอำเภอวังน้ำเขียวก็ผิด ตลาดก็ผิด ธนาคารและร้านค้าก็ผิดกันหมด” สมศักดิ์ กล่าว

ต่อกรณีที่ ดำรงค์ ถามถึงจริยธรรมนั้น สมศักดิ์ ยังกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าจริยธรรมของนักการเมืองที่ดำรงค์พูดถึงหมายความว่าอย่างไร เพราะจริยธรรมนักการเมืองต้องดูแลความเดือดร้อนของประชาชน ตอนนี้เราสู้ในแง่ข้อกฎหมายไม่ได้ แต่เราเห็นความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ขอร้องอย่าบ้าอำนาจกันนักเลย ทำแล้วจะได้อะไรเลยขึ้นมา เพราะการทุบสิ่งปลูกสร้างมันทำให้ประชาชนตกใจ วันนี้ควรจะชวนทุกคนมาท่องเที่ยวอ.วังน้ำเขียว เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวจะดีกว่า

ประวิตร ปัดนั่งฮ.ไปสัมมนา

ข่าวสดออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงอยู่ภายในห้องทำงาน บนตึกบัญชาการ 1 ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าใช้เฮลิคอปเตอร์จากกรุงเทพฯไปลงที่ค่ายสุรนารี เพื่อไปร่วมงานสัมมนา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ที่รีสอร์ท 88 กามองเต้ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ว่า “ผมไปโดยรถยนต์ตลอด ออกจากกรุงเทพฯตั้งแต่ตี 5 แล้ว”

ต่อคำถามถึงความกังวลกรณีที่ตกเป็นเป้าถูกโจมตีจากฝ่ายค้านเพราะแค่เริ่มต้นก็มีการจับจ้องแบบนี้จะต้องระวังตัวหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวสั้น ๆ ว่า “จะทำยังไงได้”

'พีมูฟ' ร้อง รมว.กระทรวงทรัพยฯ ยุตินโยบายทวงคืนผืนป่า

วานนี้ 22 ก.ค.2562 ไทยพีบีเอส รายงานว่า วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมปลัดกระทรวง และข้าราชการประจำกระทรวง ร่วมหารือกับผู้แทนกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ

โดยผู้แทนกลุ่มพีมูฟ ได้นำข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาป่าไม้และที่ดินในเขตป่า เข้าประชุมหารือร่วมกับรัฐมนตรีจำนวน 11 เรื่อง คือ 1)ยุตินโยบายทวงคืนผืนป่า 2)ผลักดันให้มีมาตรการคุ้มครองพื้นที่นำร่องโฉนดชุมชน 486 ชุมชน 3)ทบทวน ปรับปรุง และแก้ไขเนื้อหา พ.ร.บ.ป่าชุมชน, พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ, และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ให้สอดคล้องกับเนื้อหาและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 4)ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี 26 พ.ย. 61 5)ผลักดันให้มีการคุ้มครองพื้นที่วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและชาวเล ตามมติ ครม. 2 มิ.ย. 53 และ 3 ส.ค. 53 และยกระดับ มติ ครม.ให้เป็น พ.ร.บ. 6)ผลักดันให้มี พ.ร.บ.สิทธิชุมชน ในการจัดการที่ดินและทรัพยากรในรูปแบบโฉนดชุมชน 7)ให้ชุมชนเข้าถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานกรณีเป็นพื้นที่อยู่ระหว่างกระบวนการแก้ไขปัญหา 8)ให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากคดีความตามนโยบายทวงคืนผืนป่า 9)เร่งแก้ปัญหาป่าไม้ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับ ทส. จำนวน 73 กรณี 10)ให้มีนโยบายพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ แก้ปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ซึ่งผ่านการรับรองวิธีการจัดการของชุมชนแล้วว่ายั่งยืนและเป็นไปตามแนวทางการอนุรักษ์ และ 11)ให้มีกลไกประสานงานเพื่อติดตามความคืบหน้า

ข้อสรุปจากการหารือเบื้องต้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้มีการตั้งคณะกรรมการที่มาจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าของปัญหาเพื่อหาทางออกร่วมกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net