Skip to main content
sharethis

อภิปราย ส.ส. หลังแถลงนโยบาย หัวหน้า พท. ให้ค่ามากสุดเป็นประชาธิปไตยกึ่งเผด็จการ 'วันนอร์' ถามหาคำตอบเรื่องเตรียมรัฐประหารมา 3 ปี-ปมซ้อมทรมานภาคใต้ ปชป. ร่วมวงอัด นโยบายเลื่อนลอย ไม่มีเป้า 'อุตตม' ยังไม่แจงเรื่องปล่อยกู้ ธ.กรุงไทย พล.ท.พงศกรแนะวิธีทำนโยบายความมั่นคง ประยุทธ์แจง คนเป็นลมในห้องสอบหาว่าโดนซ้อม 'ดูหนังมากไปหรือเปล่า'

ประชุมรัฐสภา (ที่มา:Youtube/TPchannel)

25 ก.ค. 2562 ในช่วงเช้า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายที่ห้องประชุมสำนักงาน TOT มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขึ้นต่อคิวอภิปราย 

(ลิงค์ข่าวนี้จะมีการอัพเดทเนื้อหาการอภิปรายเรื่อยๆ)

ประยุทธ์เปิดฉากอภิปรายแทนอ่านคำแถลงนโยบาย จนประธานสภาขอให้อ่านทุกถ้อยคำ

ก่อนการอภิปรายจะเริ่ม มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่กล่าวเชิงประท้วงประยุทธ์ว่า ประยุทธ์ยังไม่ได้กล่าวอ้างพระราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ และ ครม. ในส่วนย่อหน้าที่ 1 ของคำแถลงนโยบาย หากไม่กล่าวตรงนี้ การบันทึกการประชุมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจะทำให้เกิดความน่าสงสัยว่าที่ขึ้นมาพูดนโยบายจนจบ พูดไปด้วยสถานะอะไร จะอนุมานเอาเองไม่ได้ว่าเป็นนายกฯ

ประยุทธ์ลุกขึ้นตอบว่า “อันที่จริงแล้วผมก็มือใหม่ ใจหนึ่งก็คิดอย่างที่ท่านทักท้วงว่า ทำไมไม่อ่าน ผมคิดว่าเอกสารมันมีอยู่ ท่านก็อ่านมาบ้างแล้ว ก็ถือเป็นเกียรติสำหรับคำแนะนำ ผมเป็นรุ่นน้องทางการเมืองของทุกท่านอยู่แล้ว” เสร็จแล้วจึงอ่านความในย่อหน้าที่หนึ่งของเอกสารแถลงนโยบาย

หัวหน้า พท. อัดประเด็นคุณสมบัติ ให้ค่าอย่างมากก็เป็นประชาธิปไตยกึ่งเผด็จการ

สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยลุกขึ้นอภิปราย กล่าวว่า ตนไม่มีความมั่นใจว่ารัฐบาลปัจจุบันที่มีเสียงปริ่มน้ำจะนำนโยบายที่เสนอไปแก้ไขปัญหาประเทศภายใต้บริทโลกาภิวัฒน์ ความเปลี่ยนแปลง ท้าทายในสงครามการค้า ปัญหาเศรษฐกิจ ภัยแล้ง ปัญหาสังคม ปัญหาถดถอยในการใช้สิทธิเสรีภาพประชาชน ปัญหาการท่องเที่ยวที่ปัจจุบันลดลงถึงร้อยละ 30 และปัญหารัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

จากการเห็นการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ สื่อมวลชน คนในบ้านเมืองทั้งในไทยและต่างประเทศพูดกันค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่ได้ให้ความเชื่อมั่นรัฐบาลชุดนี้แม้แต่น้อย ต้องเรียนว่าความไม่เชื่อมั่นภายใต้การนำของนายกฯ คนนี้ กับหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนเดิม หน้าเดิมๆ จะสามารถแก้ปัญหาให้กับประเทศ การที่รัฐบาลชุดใหม่ยืนยันใช้บุคลากรคนเดียวกันและมาตรการเดิมๆ ที่ล้มเหลวมาแล้ว มีแต่จะนำประเทศมาสู่หายนะ ความมืดมนและเป็นอันตรายต่อพี่น้องประชาชนไทย

ถ้าพูดถึงความชอบธรรม จะยกตัวอย่างเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นลำดับแรก รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 นี้ผ่านการทำประชามติมา แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีทั่วไปว่าเป็นประชามติแบบมัดมือชก มีการออกกฎหมายห้ามรณรงค์ไม่ให้ทำประชามติ เอาผิดผู้แสดงความเห็นต่างกับร่างรัฐธรรมนูญ จึงต้องปล่อยให้รัฐบาลและคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญดำเนินการไปเอง ซ้ำร้ายคือมีการแต่งตั้ง ส.ว. 250 ท่านเข้ามาร่วมโหวตการเป็นนายกฯ ได้ มีการคิดสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อที่ทำให้เกิดการพลิกขั้วของการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา คงไม่ต้องกล่าวลึกว่าทำกันอย่างไร ทั้งหมดจึงเป็นข้อสรุปว่ารัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ จึงได้นายกฯ เดิมๆ กระทรวงสำคัญเดิมๆ และถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้า ครั้งต่อๆ ไป เกิดขึ้นโดยไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญ ก็จะพบนายกฯ และรัฐมนตรี (รมต.) หน้าเดิมๆ อีกเช่นกัน

การตั้งรัฐบาลในลักษณะที่กราบเรียนมา ขาดความสง่า มีการใช้เล่ห์เหลี่ยมทางกฎหมาย ใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม รมต. แต่ละท่านที่เห็นอยู่นี้ก็มาจากนายกฯ คือแต่งตั้งให้ รมต. ของท่านตั้งพรรคการเมือง ใช้ชื่อเดียวกับนโยบายรัฐบาล และ รมต. ก็กลับมาเป็นแคนดิเดตอีกทีในพรรคการเมืองนั้น ก่นเลือกตั้งไม่นาน ท่านก็ดำเนินการสิ่งที่ตนอยากเรียกว่าซื้อเสียง โดยอนุมัติงบกลางใส่ในบัตรคนจนครั้งแล้วครั้งเล่า ร้ายที่สุดคือโอนงบประมาณจำนวนหนึ่งให้ อสม. ก่อนจะมีการเลือกตั้งสองวัน

อีกประการคือความชอบธรรมของรัฐมนตรี คุณสมบัติและความรู้ความสามารถเป็นเรื่องสำคัญ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่มคุณสมบัติและความรู้ความสามารถ อย่างเช่ นต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง ใน ครม. นี้มี รมต. หลายท่านมีคดีความผิดติดตัวอยู่ ทั้งที่มีข้อหาร้ายแรงถึงประหารชีวิต บางท่านเคยมีคดียาเสพติด แต่ท่านรอง รมต. ฝ่ายกฎหมายที่วันนี้ยังไม่เห็นกันก็ออกมาแก้ตัวว่าความผิดดังกล่าวเกิดในต่างประเทศ ไม่ได้เกิดในประเทศไทย ท่านไม่ได้คิดหรือว่าความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญฉบับนี้บอกว่าห้ามไม่ให้คนมีคดียาเสพติดมาเล่นการเมืองตลอดชีวิต ซึ่งนายกฯ ต้องรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องนี้

การปฏิรูปการเมืองนั้น การตั้ง ครม. ที่ทำอยู่นี้เหมือนกับว่าไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปเลย เป็นต้นว่า พี่เป็น รมต. ไม่ได้ ก็เอาน้องมา ภรรยาเป็น รมต. ไม่ได้ก็เอาสามีมา พ่อเป็นไม่ได้ ก็เอาลูกมา ที่ทำอย่างนี้มันไม่สวยงาม มันพิลึกกึกกือกว่าการเป็นนอมินีด้วยซ้ำ อย่างนี้หรือคือการปฏิรูปการเมือง

ปัญหาด้านคุณสมบัติของนายกฯ ท่านนายกฯ ยอมมาเป็นแคนดิเดต ที่ รัฐธรรมนูญ ไม่ให้เสนอชื่อคนที่มีคุณสมบัติต้องห้าม การเป็นหัวหน้า คสช. แม้ในขณะที่โปรดเกล้าฯ ประยุทธ์ก็ยังเป็นหัวหน้า คสช. อยู่ จึงไม่เห็นประโยชน์ที่จะมาบอกว่าท่านไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เพราะมีราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหัวหน้า คสช. มีอำนาจออกคำสั่ง ออกระเบียบให้คนปฏิบัติ ใครไม่ทำก็อาจโดนดำเนินคดีฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน หากประยุทธ์ไม่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นอะไร

ที่ผ่านมา การดำเนินแก้ไขปัญหาเศรษบกิจล้มเหลว ทำให้บ้านเมืองมีสโลแกนออกมาว่า รวยกระจุก จนกระจาย การจัดสรรงบประมาณทำให้เกิดภาวะงบประมาณขาดดุลต่อเนื่องทุกปี หนี้ครัวเรือนที่ขณะนี้สูงเป็นประวัติการณ์ เศรษฐกิจยุคที่ผ่านกันมานี้ตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับท้ายๆ ของอาเซียน ทั้งๆ ที่ในอดีตเป็นผู้นำมาก่อน แต่ตอนนี้ หนังสือพิมพ์ต่างชาติพากันขนานนามไทยว่าเป็นคนป่วยแห่งเอเชียแล้ว ตามตลาด ใน กทม. หัวเมืองต่างๆ ซบเซา เมื่อสินค้าขายไม่ได้ ก็มีโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องหยุดนิ่ง นักลงทุนต่างๆ ย่อมไม่สามารถคิด จับ หรือต้องการมาลงทุนเนื่องจากสภาพตลาดเป็นแบบนี้ อยากจะชี้แนะว่า ให้ระมัดระวังการดำเนินงาน อย่าให้รวยกระจุก จนกระจายอย่างที่ผ่านมา ในเรื่องนโยบายที่นายกฯ ชี้แจงในวันนี้ ท่านมีนโยบายอัดฉีดเม็ดเงินสู่ระบบต่างๆ การอัดฉีดไปสู่ระบบต่างๆ นั้น ต้องระมัดระวังปัญหาหนี้ครัวเรือน พี่น้องประชาชนมีหนี้ครัวเรือนแบบที่ไม่สามารถใช้คืนได้ จึงเรียนว่า ปัญหาที่ได้มานี้ หนี้สินที่มีอยู่ ค่าแรงขั้นต่ำยังไม่สามารถใช้ทดแทนได้ มีแต่จะพอกพูนไป นโยบายรัฐที่ต้องการให้มีการซื้อขาย หมุนเวียนเศรษฐกิจให้หมุนเวียนหลายๆ รอบ แต่เมื่อหนี้ครัวเรือนสูงขนาดนี้ ท่านส่งเข้าไป เขาก็เอาไปใช้หนี้หมด ไม่ได้หมุนเวียน

ปัญหาการปฏิรูป การออก ม.44 ที่ผ่านมา ให้นักการเมืองท้องถิ่นยุติงาน แต่ต่อมาไม่ทราบไปเจรจากันมาอย่างไร นักการเมืองท้องถิ่นก็ได้กลับเข้าไปปฏิบัติงานอย่างเดิม แถมยังขึ้นหาเสียงกับพรรคที่ท่านสังกัดอยู่เป็นประจำ ความล้มเหลวทางการเมืองนี้ ในเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชนก็ยังไม่มีคำตอบเรื่องจ่านิว การละเมิดสิทธิที่รุนรขึ้นอย่างมากคืออำนาจห้าที่ทหารในการค้นบ้าน จับกุม ที่ผ่านไปแล้ว

ความล้มเหลวในการใช้งบประมาณ เข้าใจว่ากองทัพจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ แต่อย่าให้มันมากจนเกินไป เพราะไทยยังมีความต้องการที่จะเป็นอย่างอื่นเยอะแยะ อยากให้คิดเรื่องนี้ตลด บางทีที่านใส่งบประมาณเข้าไปมาก ทั้งๆ ที่เรายังไม่มีสงครามเกิดขึ้น ก็สะสมไว้จนมากเกินขอบเขต งบประมาณกองทัพต้องมีการปรับปรุงและดยกย้ายให้เหมาะสม ต้องเอาเงินมาใช้ในการลงทุน การค้าบ้างก็จะดี

สรุปว่า รัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศเนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ ล้มเหลวอย่างยิ่งในการบริหารเศรษฐกิจที่ผ่านมา เมินเฉยต่อการปราบปรามทุจริต คอรัปชัน บิดเบือนกลไกกฎหมายช่วยเหลือพวกพ้องในช่วงที่ผ่านมา โกหกประชาชนและนานาชาติ เพราะท่านไปบอกพี่น้องต่างชาติ ประชาชนว่าจะเป็นประชาธิปไตย แต่ขณะนี้มันเป็นประชาธิปไตยอะไร มันไม่ถึงขั้นประชาธิปไตย หรือไม่ก็เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม กึ่งเผด็จการเท่านั้นเอง

'วันนอร์' ถามหาคำตอบเรื่องเตรียมรัฐประหารมา 3 ปี-ปมซ้อมทรมานภาคใต้

วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายต่อจากสมพงษ์ว่านโยบายที่แถลงมาทั้งหลายเป็นการพูดเรื่อยเปื่อย ไม่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ไม่มีกรอบเวลาการปฏิบัติงานว่าจะทำเมื่อไหร่หรือทำอย่างไร แม้แต่นายกฯ ที่เป็นคนอ่าน ยังมีความรู้สึกที่ไม่อยากอ่าน อ่านข้ามไปมา เพราะนโยบายไม่จูงใจให้อ่าน และเพราะผู้อ่านรู้ว่าที่เขียนไปนั้นทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ จะบรรลุวัตถุประสงค์ตรงไหนก็ยังไม่รู้เลย นโยบายไม่สามารถวัดในเชิงปริมาณและคุณภาพ ยากในการติดตามผลทั้งผู้ปฏิบัติและผู้ที่จะตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยภาคประชาชน นโยบายเร่งด่วน 12 ข้อนั้น คำว่าเร่งด่วน เข้าใจว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี แต่นโยบายหลักนั้น ตามกรอบนโยบายหลักก็มีเวลา 4 ปี แต่ดูนโยบายแล้วยากที่จะจบใน 4 ปี 

“ท่านนายกฯ บอกว่าจะยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำว่ายึดมั่นต้องเป็นคนที่มีความศรัทธา ถ้าท่านประธานเขียนไว้ให้พวกผมฟัง ผมก็จะเชื่อ เพราะท่านไม่เคยปฏิวัติ ไม่เคยทำรัฐประหาร แต่คนที่เคยทำปฏิวัติซ้ำซาก อย่างน้อยก็สองครั้ง และจะมาบอกว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร คนที่ยึดมั่นนั้นต้องเคารพต่อรัฐสภา ต่อพี่น้องประชาชนและรัฐธรรมนูญ ท่านประธานครับ ท่านนายกฯ ที่จะเป็นผู้นำรัฐบาล ท่านเขียนได้อย่างไรว่าท่านยึดมั่นในการปกครองแบบประชาธิปไตย เขียนได้ เขียนดี และต้องเขียน แต่สิ่งที่ผมไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติคือท่านปฏิวัติ รัฐประหาร ท่านฉีกรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ผิดอย่างแรงอยู่แล้ว ขบถอยู่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าข้อความอันนี้เกิดจากคนที่ปฏิวัติแล้วมาพูดกับพวกเราว่าจะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ถ้าท่านแปลงคำพูดเป็นอย่างอื่นว่า ถ้าท่านจะยึดมั่นในระบบเผด็จการประชาธิปไตย แบบนี้มันพอไปได้ ซึ่งผมก็ไม่รู้อะไรคืออะไร แต่ถ้าบอกว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยแล้ว ยากที่ผมจะเชื่อและจะทำได้สำเร็จครับ” วันมูหะหมัด กล่าว 

“ในวันที่ท่านยึดอำนาจ ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ท่านมีอำนาจท่านพูดได้ แต่ผมติดใจวรรคสุดท้ายอยู่วรรคหนึ่งเพราะพวกผมอยู่ในห้องประชุม หลายคนอยู่ ท่านบอกว่า เมื่อตกลงกันไม่ได้ รัฐบาลไม่ลาออก ผมขอยึดอำนาจประเทศไทยนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ก็ไม่ติดใจ ท่านประกาศได้ แต่ท่านชี้หน้าพวกผมที่นั่งว่า อย่าใครคิดสู้ผมนะ ถึงสู้ก็สู้ไม่ได้ ผมเข้าใจครับ สู้ไม่ได้ เพราะรถถัง อาวุธ เต็มไปหมด แต่ประโยคสุดท้ายนี่ผมอยากจะถามท่านนายกฯ ว่าจำได้ไหม และท่านหมายความว่าอย่างไร ท่านบอกว่า อย่าใครคิดสู้นะ ถึงสู้ก็สู้ไม่ได้ ผมเตรียมการเรื่องนี้มาสามปีกว่า ประโยคนี้สำคัญและผมข้องใจจนบัดนี้ ขอถามว่า การเตรียมการมา 3 ปีกว่าหมายความว่าอย่างไร นับย้อนหลังไปว่า 2556 2555 2554 หมายความว่าท่านเตรียมการตั้งแต่ยังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินคำนี้ และถ้าท่านปฏิเสธ ผมก็จะพูดต่อ ท่านได้เตรียมการอย่างละเอียดมากด้วย ซึ่งไม่เป็นไร เดี๋ยวให้นายกฯ มาปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้ เตรียมการมา 3 ปีแล้วมาอ้างยึดอำนาจเพราะบ้านเมืองวุ่นวาย มาก้ปัญหา แต่สามปีท่านเตรียมการอะไร ไอ้สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนยึดอำนาจเป็นการคิดเพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ผมไม่อยากกล่าวหา แต่ก็ไม่อยากเชื่อครับ”

หัวหน้าพรรคประชาชาติยังกล่าวว่า ที่ผ่านมา เวลาจะเลือกแต่งตั้ง รมต. คลัง เขาจะดูว่าจะกำกับดูแลอย่างเคร่งครัดได้แค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และรัฐมนตรีคลังที่ท่านแต่งตั้งให้ดูแลกำกับนี้ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ตลอดว่า ไม่ได้มีวินัยในทางการเงิน สมัยท่านไปกำกับดูแลสถาบันการเงิน ธนาคารกรุงไทยนั้น ท่านได้อนุมัติเงินให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศและธนาคารหมื่นกว่าล้านบาท มีติดคุกกัน 20 กว่าคน กรรมการ 3 ใน 5 ติดคุก ในข้อบังคับนั้นชัดเจนว่าธนาคารจะอนุมัติเงินมากกว่า 2 พันล้านไม่ได้ถ้ามีกรรมการคนหนึ่งคนใดคัดค้าน ท่านอุตตม (สาวนายน รมต. คลัง) เป็นคนหนึ่งที่อนุมัติ รายงานก็ชัดเจนว่าท่านนั่งอยู่ และไม่ได้มีบันทึกการประชุมว่าท่านคัดค้าน จะให้ผมเชื่อว่าท่านจะมากำกับเงินงบประมาณ 3 ล้านล้านของประเทศด้วยความเคร่งครัด มีวินัยได้อย่างไร แค่ ธ. กรุงไทยท่านยังขาดวินัยเลย 

“รมต. คลังต้องเซ็นลงนามในธนบัตรว่าชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ในธนบัตรนั้นมีพระบรมฉายาลักษณ์ด้วย คนที่มีตำหนิ คนที่ไม่ได้มีความซื่อสัตย์ ไม่เหมาะสม ผมว่ามาลงนามตรงนี้ ที่เงินนี้ใช้ทั่วประเทศ ทั้งโลก ผมไม่อยากจะเห็นลายเซ็นของคนที่ไม่ค่อยที่จะยอมรับได้ลงนามข้างซ้ายของพระบรมฉายาลักษณ์”

การกระจายสิทธิที่ดิน เป็นนโยบายที่เขียนดี แต่ไม่ได้บอกว่าจะจัดอย่างไร เพราะขณะนี้ความเหลื่อมล้ำสูงมาก คนๆ เดียวบางทีครองที่ดินเป็นแสนไร่ล้านไร่ แต่ชาวบ้านตาดำๆ บางทีที่ดินทำกินก็ไม่มี แต่ในคำแถลงไม่มีเขียนไว้ว่าทำเมื่อไหร่ ทำอย่างไร เรื่องสร้างฐานความมั่นคงทรัพยากรแร่ ทะเล ชายฝั่ง เพื่อพัฒนาประเทศ สร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน อยากจะพูดสั้นๆ ว่า ที่จะสร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากรแร่ ท่านนายกฯ ได้ไปใช้ ม.44 ให้ยุติการทำเหมืองแร่ทอง และถูกฟ้องทั้งศาลไทยและอนุญาโตตุลาการ ที่บอกว่าจะสร้างความมั่นคงในทรัพยากรแร่อาจเกิดความไม่มั่นคง เพราะโอกาสแพ้สูง ขณะนั้นท่านอุตตม เป็น รมต. กระทรวงอุตสาหกรรม เหตุใดไม่ทำการแก้ไข ต้องให้ นายกฯ ใช้ ม.44 

เรื่องการกระจายอำนาจ เดิม รัฐธรรมนูญ เขียนว่าต้องให้งบประมาณไปยังท้องถิ่นร้อยละ 35 ท่านก็ทำไม่ได้ เอาเงินไปซื้ออาวุธ ซื้ออะไรที่ไม่จำเป็นเยอะแยะ แต่ท้องถิ่นนั้นไม่เติบโตและรับผิดชอบได้ พรรครัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลที่ไปพูดเรื่องการกระจายอำนาจไว้เยอะนั้น ท่านต้องรับผิดชอบเพราะเขาต้องทวงถามพวกท่าน ในโอกาสต่อไป ท่านจะพูดได้อย่างไรว่านโยบายเกิดขึ้นจากการที่หลายพรรคมารวมกัน ซึ่งทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะนโยบายที่หาเสียงคือสัญญาประชาคม ส่วนตัวจะติดตามเรื่องงบประมาณต่อไปว่ามีการกระจายงบประมาณแค่ไหน

เรื่องยาเสพติดในจังหวัดชายแดนใต้นั้นเป็นปัญหาจริง เกือบทุกตำบลต้องการ อส. แค่ 12 คน มีคนสมัครหลายร้อยคน แต่กำหนดว่า คนที่จะเป็น อส. นั้นต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ปรากฏว่าทั้งตำบล หาคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้ไม่ถึง 5 คน เป็นไปได้อย่างไร อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไร คนวัยแข็งแรง 12 คนจะเป็น อส. หาไม่ได้ ยาเสพติดระบาดมาก ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอย่างจริงจัง เร่งรัดเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่

วันมูหะหมัดกล่าวในประเด็นสถานการณ์สาม จ. ชายแดนใต้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลก็บอกว่าอยากเลิกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ที่ผ่านมา งบประมาณลงไปหลายล้าน ส่งคนลงไป 3-4 หมื่นคน สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้น ลองถาม ส.ส. อาดิลัน (อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส. พลังประชารัฐ) ที่เป็นทนายให้กับคดีความมั่นคงเป็นร้อยคดีก็ได้ ผมถามท่านอาดิลันว่า ทำไมคนเหล่านี้ถูกจับติดคุกติดตะราง เขาตอบว่า ส่วนใหญ่ต้องสารภาพ เพราะถูกถุงดำคลุมหน้าไม่ให้เขาหายใจ เขาสารภาพดีกว่า มันจะตาย 

กฎหมายก็แย่อยู่แล้ว นอกกฎหมายก็ไม่แน่ว่าท่านอาดิลันยืนยันหรือเปล่า แต่ตอนนั้นท่านยืนยันกับผมหลายครั้งว่า หลายคดีถูกเอาถุงดำปิดหน้าแล้วก็สารภาพ บางครั้งไปสอบ (ปากคำ) ให้นอนในห้องแอร์ เปิดความเย็นสุดๆ ไม่ให้ถอดเสื้อ ไม่ให้ผ้าห่ม เขาบอกว่าอย่าแค่คืนเดียวเลย แค่ชั่วโมงหนึ่งก็พอแล้ว สารภาพดีกว่า ตรงนี้ขอให้อย่าเชื่อเจ้าหน้าที่เกินไปนัก เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี ตั้งใจไปทำงาน เสียสละชีวิต ก็เห็นใจ อยากให้ท่านนายกฯ ดูแลเจ้าหน้าที่ให้ดี ให้สวัสดิการให้เต็มที่ อย่าให้ตั้งอยู่ในความประมาท รถลาดตระเวนก็มี แต่ท่านให้เขาเดิน ให้เขาเป็นเป้าหมายผู้ไม่ประสงค์ดี ก็เสียชีวิตไปเยอะ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร

พท. - ปชป. อัด นโยบายเลื่อนลอย ไม่มีเป้า 'อุตตม' ยังไม่แจงเรื่องปล่อยกู้ ธ.กรุงไทย

ชลน่าน  ศรีแก้ว ส.ส. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า นโยบายและผู้ขับเคลื่อนที่มีความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน องคาพยพต่างๆ ต้องอาศัยปัจจัยหลักสองปัจจัย คือตัวนโยบายและผู้ขับเคลื่อนนโยบาย นโยบายที่แถลงมานั้น นโยบายเร่งด่วนเรื่องที่ 11 การเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย กลัวว่าจะทำไม่ครบถ้วนตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เพราะนายกฯ ไม่ได้แถลงเรื่องนี้ หากฝ่ายค้านทักท้วงก็จะกลายเป็นว่านายกฯ ไม่ได้แถลง จึงให้รัฐบาลแถลงใหม่เมื่อมีโอกาส แต่ที่ไม่แถลงเรื่องภัยแล้ง ไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์แอบแฝงหรือไม่ แต่ภาพรวมถือว่าภัยแล้งเป็นปัญหาหนักที่ผู้นำรัฐบาลไม่ควรอ่านข้าม ถ้าไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น

ชลน่านกล่าวว่านโยบายที่แถลงมานั้นเลื่อนลอย ไม่ชัดเจน ไร้เป้าหมาย นโยบายหลัก 12 ด้าน ด่วน 12 เรื่อง ไม่เขียนเป้าหมายในการดำเนินนโยบายเอาไว้สักข้อเดียว แล้วฝ่ายค้านที่จะตรวจสอบผลสัมฤทธิ์จะทำได้อย่างไร ไม่ว่าเป็นการศึกษาใดๆ ของนักศึกษา ถ้าใครศึกษาเรื่องการนำนโยบายไปปฏิบัติ เป้าหมายนโยบายที่ชัดเจนเป็นเรื่องที่สำคัญ

“ปิดบังซ่อนเร้นพวกผม ไม่เป็นไรนะครับ ผมล้วงแคะแกะเกาได้ แต่คนที่จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ถ้าท่านไม่กำหนดให้ชัดเจน เขาจะปฏิบัติให้ท่านได้อย่างไร พี่น้องข้าราชการเหนื่อยนะครับ พี่น้องประชาชนก็เหนื่อยว่าเราจะได้อะไร ความชัดเจนเชิงเป้าหมาย ในตัวนโยบาย ผมถือว่ารัฐบาลทำมาเสมือนซ่อนเร้น ปิดบังรัฐสภาแห่งนี้”

“ผมตามทวิตเตอร์ของอดีตสมาชิกรัฐสภาท่านหนึ่ง เขาไม่ได้เข้ามาเพาะถูกยุบพรรคไปก่อน เขาเขีนชัดจนว่า วิธีคิด วิธีเขียนแบบนี้เหมือนวิธีการเมื่อ 30-40 ปีก่อน นำแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติมาเขียนเป็นนโยบาย แล้วค่อยไปหาวิธีการปิฏิบัติรองรับ แต่สมัยนี้ไม่ใช่ครับ เพราะท่านไม่รับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ท่านเลยไม่ใส่เป้าหมายที่ชัดเจนลงไป ถ้าท่านรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ท่านต้องใส่ครับ เพราะรัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้ง”

ชลน่านกล่าวในประเด็นคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ความไม่เหมาะสมของอุตตม สาวนายน รมต. กระทรวงการคลัง ปล่อยกู้ ธ.กรุงไทยนั้นชัดเจนมาก กล่าวได้ว่าอุตตมให้การเท็จกับศาลก็ยังได้ สู้กันมาหลายเวที ข้างในท่านชี้แจงได้ว่าทำไมถึงรอด แล้วคนอื่นติดคุก ละทิ้งเพื่อน ขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรง วิกฤติศรัทธาทั้งหลายทั้งปวงจะทำให้นโยบายที่แถลงมาอย่างคลุมเครือนั้นล้มเหลว ประชาชนโดยรวมไม่มีความผาสุก

อุตตม ชี้แจงว่า กรณีปล่อยกู้ ธ.กรุงไทยนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่ง 26 ส.ค. 2558 ถึงที่สุดแล้วว่ามีผู้ต้องโทษ 25 ราย แต่เป็นที่น่าเสียดายและน่าเศร้าใจที่มีขบวนการของบุคคลพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงให้คนในสังคมเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าตนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีความพยายามหลายครั้งที่จะหยิบยกเรื่องนี้มาบิดเบือนให้เกิดความเคลือบแคลงถึงคุณสมบัติการเป็น รมต. คลัง ในฐานะนักการเมือง บุคคลสาธารณะ ยินดีให้มีการตรวจสอบ แต่ถ้าคนไม่ผิดมาแต่เดิม แล้วจะมาให้เหตุบอกว่าผิดนั้นจะทำได้อย่างไร มีการตรวจสอบ สอบสวน ไต่สวนมาแล้วในระดับหนึ่ง ซึ่งมีรายละเอียดพอสมควร ขออนุญาตประธานว่าจะอธิบายในโอกาสต่อไป

กรณ์ จาติกวณิช ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายว่า พี่น้องประชาชนที่ติดตามอภิปรายยังอดกังวลไม่ได้ว่ารัฐบาลจะนำนโยบายไปปฏิบัติได้มากน้อยเพียงใด ้พราะอำนาจทางกฎหมายนายกฯน้อยลง รมต. มาจากหลายพรรค รัฐบาลจึงจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายแต่ละนโยบายให้ชัดเจน ว่าแต่ละนโยบายจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ประชาชนจับต้องได้ และจะวัดผลได้อย่างไร รัฐบาลต้องกำหนดแนวทาง การที่นายกฯ ได้กำหนดเป้าหมายว่าอยากใช้นโยบายชุดนี้นำไปสู่ประเทศที่มีการพัฒนา มีรายได้ระดับสูงนั้นถูกต้อง แต่ที่ขาดไปคือเส้นทางการไปสู่เป้าหมาย ถ้าลองดูประเทศในภูมิภาคนี้ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสิงคโปร์เขาไม่ได้ทำหลายเรื่อง แต่มีเส้นทางที่กำหนดให้ชัดเจนว่าจะเป็นศูนย์กลางการให้บริการทางการเงิน จีนในสมัยเติ้งเสี่ยวผิงก็เพียงกำหนดว่าจะพึ่งพาเศรษฐกิจแบบการตลาด เกาหลีใต้สมัยปี 2540 ก็กำหนดว่าภาครัฐ กฎหมายที่ล้าสมัย ต้องได้รับการปรับปรุง ปฏิรูประบบกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจ ทำให้กฎหมายปัจจุบันน้อยลง ขอให้รัฐบาลมุ่งสู่การแก้ปัญหา ส่วนการสร้างชาติ สร้างคน อย่าไปพูดถึงการปฏิรูป ควรกำหนดนโยบายให้อย่างชัดเจนว่าจะทำอย่างไรให้เด็กไทยพูดได้ 2-3 ภาษา นั่นก็คือการปฏิรูปอยู่แล้ว 

วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ส.ว. กล่าวว่า ประชาชนไม่น้อยอยากเห็นบทบาทภาครัฐ หนึ่ง จำกัดบทบาทตนเองเฉพาะสิ่งสำคัญ เรื่องการดำเนินการบริหารประเทศเพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน สอง อยากเห็นภาครัฐมีความเข้มแข็ง กล้าที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างที่ควรจะเป็นเพื่อให้เกิดความถูกต้องแก่สังคม สร้างความมั่นคงให้ภาคธุรกิจ สาม ออกนโยบาย กฎระเบียบต่างๆ ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ทำนโยบายสาธารณะที่มีเหตุมีผล

ไชยา พรหมา ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลประยุทธ์และทีมงานเศรษฐกิจชุดเดียวกันกับปัจจุบันนี้ขาดดุลงบประมาณติดต่อกัน 5 สร้างหนี้ให้ประเทศติดต่อกันมาสูงสุดในประวัติศาสตร์การมีรัฐบาลปกครองประเทศ มียอดกู้รวมสูงเกือบ 2.2 ล้านล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าคนไม่มีความเชื่อมั่นว่าการเมืองภายใต้การบริหารงานของท่านจะนำประเทศชาติออกจากปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่ ประชาชนไม่มีรายได้ ไม่มีจะกิน ต้องดิ้นรน 

ถ้าไปดูประเทศรอบข้าง โดยเฉพาะประเทศในอาเซียนด้วยกัน จีดีพีเขาโตขึ้นกว่าไทย ทำไมเขาไม่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า เพราะเขามีความสามารถในการบริหารประเทศ อยากเห็นรัฐบาลคิดถึงการแก้ปัญหา 5 ปีนี้คนไม่มีกำลังซื้อเพราะเครื่องยนตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 5 ด้าน ได้แก่ ส่งออก บริในประเทศ การใช้จ่ายภาครัฐ การท่องเที่ยว และการลงทุนใหม่ๆ การส่งออกนั้น ตัวเลขของหน่วยงานราชการเคยคาดว่าจะมีการโตร้อยละ 3.7 สุดท้ายต้องปรับเหลือร้อยละ 0 รายได้ประเทศย่อมหดหายไป ส่งผลสู่การจัดเก็บรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการ

ตลอด 5 ปีที่บริหารประเทศ พบว่าการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า หมายความว่าวันนี้คนไม่มีสตางค์ เมื่อการส่งออกเป็นศูนย์ ประเทศไทยที่พึ่งพาการส่งออกร้อยละ 70 ของจีดีพี เมื่อตัวเลขการส่งออกเป็น 0 หมายความว่าสินค้าส่งออกได้รับผลกระทบ คือไม่มีรายได้เข้าประเทศ ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้ แปลว่าเกษตรกรส่งออกไม่ได้ แปลว่าเงินในกระเป๋าเขาไม่มี เกิดปัญหาหนี้สินล้นตัว 5 ปีที่ผ่านมา หนี้สินครัวเรือนสูงขึ้นเป็นประวัติศาสตร์ สภาพัฒน์ฯ บอกว่าหนี้ประชาชนต่อหัวคนละประมาณ 2 แสนบาท ติดต่อกันมาแล้ว 5 ปี เพราะเงินในกระเป๋าชาวบ้านไม่มี วันนี้เราผลิตสินค้าเพื่อส่งออกมาแล้วขายไม่ได้ คนไม่มีกำลังซื้อ จะไปหวังพึ่งว่าการกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศที่เป็นเครื่องยนตร์ที่สองก็ทำไม่ได้ วันนี้ยางอีสานบ้านผม 6-7 กิโลกรัมได้ 100 บาท เรามีหนี้ครัวเรือนสูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย และติดอันดับ 10 ของโลก

สิ่งที่รัฐบาลทำขณะนี้อาจภูมิใจกับการเติมเงินไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ทุกครั้งที่เติมเงินลงไปนั้น เงินวิ่งไปที่นายทุน เจ้าสัว เจ้าของสินค้าอุปโภคบริโภคคือร้านธงฟ้าราคาประหยัด ถ้าจดทะเบียนคนจน 14 ล้านคน เดือนละ 300 ก็ตกเดือนละ 4,200 ล้านบาท ในร้านธงฟ้ามีสินค้าจากชาวบ้าน จากโอท็อปแค่ไหนเชียว สิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้ง ชาวบ้านรอกดคิวที่ ธ.กรุงไทยธนาคารเดียว ธนาคารรัฐ หรือพาณิชย์ทั้งหลายสามารถดึงข้อมูลมาได้ไหม

การเพิ่มกำลังซื้อสินค้าการเกษตร วันนี้การบริโภคเปลี่ยนไป อยากเห็นรัฐจัดการแบบทันสมัย วันนี้ผู้ซื้อ-ขายไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากัน ฝาก รมว.กระทรวงดิจิทัล ทำอย่างไรให้พี่น้องชาวนาเป็นผู้ขาย เป็นเทรดเดอร์ได้ไหม วันนี้ต้องให้ชาวบ้าน ศูนย์แสดงสินค้าโอท็อปทุกวันนี้ทิ้งร้าง ควรที่จะไปปัดฝุ่น

ส.ส. อนค. แนะแนวทำนโยบายความมั่นคงให้จับต้องได้ สิทธิมนุษยชนสำคัญ

พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) อภิปรายในประเด็นนโยบายความมั่นคงที่แถลงว่านโยบายความมั่นคงค่อนข้างเขียนน้อยและเป็นนามธรรม เป็นการนำเอาเนื้อความในรัฐธรรมนูญมาเขียนไว้ แต่ทิศทางความมั่นคงต้องเห็นชัด อย่างประเทศจีนที่มีโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง พอมีนโยบายแบบนี้มาก็รู้ได้ทันทีว่าภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ รัฐบาลจะมุ่งหน้าไปตามเส้นทางนี้ กำหนดว่าใครเป็นพันธมิตร ใครเป็นหุ้นส่วน ร่วมมือกันเป็นแถบ หรือที่อินเดีย เวียดนาม มีความร่วมมือทางความมั่นคงถ้ามีปัญหาทะเลจีนใต้ ส่วนสหรัฐฯ ก็จะมองตะวันออกกลางไปถึงอิหร่าน มองทะเลจีนใต้ไปถึงจีน เวลาพูดถึงความมั่นคงต้องมองเห็นภาพ ไม่เช่นนั้นจะไม่รู้ว่าจะไปทางไหน ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู

เมื่อจะเขียนเรื่องความมั่นคง ควรจะมีเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกประเทศ การดำเนินการด้านความมั่นคงของสหประชาชาติที่กล่าวเอาไว้เมื่อ 10 ปีก่อน คือเรื่องภาวะโลกร้อน ที่บอกว่าต่อไปมนุษยชาติจะแย่งชิงน้ำและอาหารกัน ไทยมีพื้นที่และอากาศที่เหมาะแก่การเป็นครัวโลก ดังนั้นไทยต้องฉกฉวยโอกาสนี้สร้างความมั่นคงให้ประเทศ นานาชาติ และมนุษยชาติ ความมั่นคงไม่ได้หมายความว่าใครเหนือกว่าใคร แต่หมายถึงมนุษยชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

ในประเด็นการก่อการร้าย พงศกรแจกแจงปัจจัย 4 ประการ หนึ่ง ต้องระบุปัญหาของการอยากก่อการร้าย สอง มีการดำเนินการป้องกัน ปราบปรามจริงจังแค่ไหน สาม ถ้าขีดความสามารถไม่ถึงเราจะทำอย่างไร และสี่ ที่สำคัญคือหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชน เพราะเรารู้ดีตั้งแต่สมัยสงครามคอมมิวนิสต์ว่าถ้าการก่อการร้ายจะไม่จบถ้ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ควรจะเขียนลงไป หรือแม้แต่ในด้านเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ระบุเลยว่า ห้ามชาวต่างชาติเข้าถึงเทคโนโลยีบางอย่าง หรือแม้แต่ปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ เราอยู่บนจุดไหนของโลกนี้ ถ้าเราตกขบวนแล้วเราจะเดินอย่างไรต่อไป

เรื่องเหล่าทัพและ กอ.รมน. ได้ยินข่าวว่าเหล่าทัพมีแผนจะรับแนวทางของสหรัฐฯ เข้ามาเพื่อปรับให้กองทัพมีขนาดเล็ก ทันสมัย และมีประสิทธิภาพ เรื่องนี้น่าจะเป็นรัฐบาลกำหนด แทนที่จะเป็นเหล่าทัพ เพื่อบอกสาธารณะว่าสิ่งนี้เป็นแนวทางที่รัฐบาลกำหนดให้เหล่าทัพ และเมื่อจะรับมาแล้วก็ขอให้รับให้หมดเพราะว่าวิธีการของสหรัฐฯ ไม่ให้ทหารเป็นเผด็จการที่ไปละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย ตั้งแต่สนธิสัญญาเจนีวา ไม่ยิงพลเรือน ไม่ยิงมัสยิด ไม่ยิงแพทย์ เรื่องเหล่านี้ต้องมีการอบรม ทั้งหมดเพื่อให้กองทัพมีความเป็นมืออาชีพ ในกองทัพสหรัฐฯ จะไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไม่ว่าจะสนับสนุนหรือคัดค้าน ภารกิจทางการเมืองของกองทัพและ กอ.รมน. ควรจะยกเลิกเสีย

กอ.รมน. มีปัญหาอย่างที่เคยเสนอไว้ว่าคำสั่ง คสช.ที่ 3/58 13/59 และ 51/60 อยากจะฝากไปทางรัฐบาลว่ากรุณาดำเนินการยกเลิก เมื่อศุกร์ที่ผ่านมา (19 ก.ค. 2562) นิสิตจุฬาฯ จะจัดสภาจำลอง ปรากฏว่าจัดไม่ได้เพราะได้รับแรงกดดันบางประการซึ่งถือเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้น

อำนาจกำลังรบทั้งที่เป็นและไม่เป็นตัวตน ที่เป็นตัวตนคืออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ไม่มีตัวตนคือขวัญกำลังใจทหาร ถ้านำแนวทางของ อนค. นำเสนอคือให้สื่อมวลชน ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดซื้อจัดหาอาวุธ ก็จะได้อาวุธที่ถูกลง แล้วก็จะมีเงินไปช่วยชั้นผู้น้อยเรื่องสวัสดิการ ยกตัวอย่างเรือดำน้ำที่ซื้อมาประมาณ 426 ล้านบาท ถ้าเทียบกับเรือดำน้ำ Type 214 ของเยอรมนี ราคาเมื่อ 10 ปีก่อนก็ประมาณ 330 ล้าน ปัจจุบันก็คง 400 กว่าล้าน ก็ใกล้เคียงกัน แทนที่จะใช้เรือดำน้ำที่เป็นต้นแบบ มีประวติมายาวนานกว่าจะดีหรือไม่ รถถังก็ใช้ VT-4 ที่เป็นต้นแบบ คันละ 5 ล้าน ถ้าใช้ของเยอรมนีที่เป็นเบอร์หนึ่งของโลกคือ 2A7 ราคา 9 ล้าน ต่างกันหนึ่งเท่า ถ้ามีการปรับโครงสร้างกองทัพกันดีๆ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเป็นจำนวนมากแต่มีคุณภาพสูง 

หรือใน กอ.รมน. ก็มีปืน AK รุ่น 100 ซีรี่ส์ สำนักข่าวอิศราระบุว่าซื้อมา 3849 กระบอก มูลค่าประมาณ 321 ล้านบาท รวมแล้วประมาณ 2,500 เหรียญสหรัฐฯ (ต่อกระบอก) ถ้าไปดูที่เว็บไซต์สมอลล์อาร์ม (คาดว่า http://www.smallarmssurvey.org/) ราคาเขาประมาณ 210 เหรียญเท่านั้นเอง ราคาต่างกันเยอะ ประชาชนต้องสามารถตรวจสอบ อย่าให้ราชการมาเสนอราคาที่แพงเกินไป

เรื่องชายแดนใต้ ในการทำความเข้าใจนั้น ขออัญเชิญพระราชดำรัสล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ที่ตรัสว่าให้ข้าราชการศึกษาภาษายาวี ในขณะที่รัชกาลที่ 9 ก็ได้ตรัสไว้ปี 2502 ว่าภาษาไทยนั้นจำเป็น คิดว่าให้เด็กๆ ที่อายุไม่ถึง 8 ขวบ สัญชาตญาณด้านภาษายังไม่หมด ต้องให้โอกาสคลุกคลี เล่นด้วยกัน เขาจะได้เข้าใจกันตั้งแต่เด็ก และจะกลายเป็นภาษาที่หนึ่งทั้งคู่ เป็นหนทางการสร้างความมั่นคงในระยะยาว

เรื่องการต่อสู้นั้นใช้สองเงื่อนไข หนึ่ง เงื่อนไขแบ่งแยกดินแดน สงครามกลางเมือง มีกำลังสองฝ่ายสู้กัน และก็ขอสหประชาชาติช่วยแบ่งแยกดินแดน กับอันที่สองคือสิทธิในการกำหนดใจตนเอง (Self Determination) วิธีการแยกดินแดนนั้นเราต้องไม่พูดถึงกรณีสงครามพันทาง เราต้องไม่พูดถึงองค์กรการจัดตั้งของเขา การใช้กำลังทหารปรากฏในพื้นที่เป็นสิ่งที่ไม่ควร ควรจะเป็นกองหนุนฝ่ายตำรวจ ฝ่ายพลเรือน ฝ่ายปกครองดีกว่า โดยมีเครื่องมือที่เพียงพอจะดูแลเขาได้ และไม่ได้ห้ามที่จะดำเนินการปฏิบัติการเมื่อมีเหตุ

ถ้าไปดูคณะกรรมาธิการด้านการปลดปล่อยอาณานิคม จะพบว่าไม่มีชื่อของสาม จ.ชายแดนใต้ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครทราบ ควรจะเผยแพร่ให้แพร่หลายเพื่อให้นำไปสู่ความเข้าใจตรงกันว่าเรื่องแบบนี้ในไทยไม่มีทางเกิดขึ้นได้ จึงควรอยู่ และร่วมกันสร้างความสงบในพื้นที่ดีกว่า

เรื่องการโจมตีเป้าหมายอ่อนแอนั้นเข้าข่ายการก่อการร้าย จริงๆ ควรมีการรายงานสหประชาชาติเป็นระยะๆ จะทำให้ผู้ก่อการไม่สามารถแบ่งแยกดินแดน และประชาชนทั่วไปเขาต้องการเพียงอาชีพ การไม่มีเงินจากอุปสรรคทางภาษา ความปลอดภัย เครื่องไม้เครื่องมือไม่เพียงพอต่อบุคลากรที่มีจำนวนมากเกินไป การบริหารจัดการตนเอง และสุดท้ายเขาจะได้ความภูมิใจในอัตลักษณ์ทางการเมือง แล้วก็ให้อำนาจทางการเมืองเขา ให้เขาเป็นคู่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างฝ่ายรัฐกับผู้เห็นต่างที่จะมีการคุยกัน เพื่อเป็นกลุ่มที่สามที่จะบอกว่าพื้นที่ทางการเมืองเขาเป็นอย่างไร เพื่อแจ้งทั้งฝ่ายรัฐและผู้เห็นต่างว่าเขาอยากเห็นบทสรุปอย่างไร

การวิจัยฝ่ายเห็นต่างพบว่ามีแบ่งเป็นสองส่วน อย่างที่หนึ่งคือเรื่องอาณานิคม กับอีกเรื่องคือ การไม่ได้รับความเป็นธรรม แปลว่าถ้าเราจัดการกับการไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็คือการคุมขัง 7 วันด้วยกฎหมายวิเศษต่างๆ ที่ทำให้เกิดเรื่อง เมื่อมีผู้ที่เข้า ICU สมองตาย แล้วจึงมีระเบิดตามมา อันนี้เกิดเป็นความต่อเนื่องกัน เรื่องสิทธิมนุษยชนจึงสำคัญที่สุด

ประยุทธ์แจงพงศกร คนเป็นลมหาว่าโดนซ้อม 'ดูหนังมากไปหรือเปล่า'

ประยุทธ์ชี้แจงต่อจากพงศกรว่า การแก้ปัญหาชายแดนใต้นั้นอันตรายที่จะพูดแล้วไม่เข้าใจกันต่อไปข้างนอก หลักการต่างประเทศบางอันใช้ไม่ได้ การใช้สิทธิมนุษยชนจนมากเกินไปด้วยความไม่เข้าใจทำให้เกิดปัญหามาก คำว่าสิทธิมนุษยชนกับการละเมิดกฎหมายอาญา ฆ่าคนตายเหล่านี้มันเส้นเดียวกันทั้งสิ้น เมื่อไหร่ที่มีการจับกุมลงมาก็ให้ความเป็นธรรมเขา ดูแลเขา เจ้าหน้าที่ใดที่ทำความผิดก็ไล่ออก ลงโทษ จับเข้าคุกไป มันทำงานกันอย่างนี้

ที่ทำงานวันนี้คือนำหน้าด้วยการพัฒนา ปัญหาวันนี้ไม่ได้เกิดที่รัฐ ทหารของเราไม่มีใครอยากยิงใครถ้าไม่ถูกยิงก่อน ถ้าประชาชนไม่ถูกยิงก่อน มันก็คนไทยด้วยกัน แล้วเวลาเจ้าหน้าที่ถูกซุ่มยิงตาย ถูกระเบิดตาย ทำไมไม่มีใครร้องเรียนให้เขาล่ะ ทำไมไม่มีคนร้องเรียนให้เขา เขาลาดตระเวน ไปกับครู กับเด็กนักเรียน กับพระ แต่พอถึงเวลาถูกจับมาก็บอกว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน 

ต้องดูกฎหมายที่มีอยู่แล้ว วันนี้มียุทธศาสตร์ตั้ง 9 ยุทธศาสตร์ ใช้คำว่าพูดคุยสันติสุข ต่างกับฟิลิปปินส์ที่ไม่มีผู้ก่อเหตุยึดพื้นที่ได้สักตารางหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐลงได้ทุกพื้นที่ ไม่มียึดครองที่ไหนได้ วันนี้เราแก้ปัญหาด้วยการพัฒนา

"มีการส่งคนไปคุยกับ OIC (องค์การความร่วมมืออิสลาม) ซาอุดีอาระเบีย ประเทศหมู่เกาะ เขาก็ตอบรับว่าพอใจกับการแก้ปัญหาของไทย มีแต่ประเทศไทยกันเองนี่แหละที่ไม่พอใจ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ดูแลผู้ร้ายตลอด ถ้าเจ้าหน้าที่ผิดผมก็ยอมรับ ไปหาหลักฐานมา อย่าพูดลอยๆ เมื่อวันก่อนก็บอกว่ามีการซ้อม ก็มีไปหาหมอ ตรวจมาไม่มีร่องรอยสักอัน จับมาแล้วก็เป็นล้มหน้ามืด แล้วก็บอกว่าไปซ้อม ดูหนังมากไปหรือเปล่า" ประยุทธ์กล่าว

เรื่องอาวุธ การซื้อยุทโธปกรณ์บางอย่างที่บอกว่าราคาเท่านั้นเท่านี้ บางทีซื้อได้หนึ่งกองร้อยกับหนึ่งกองพันในราคาเดียวกัน ทำไมถึงจะไม่อยากได้อันที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องทุจริตก็ให้ไปหาไปฟ้อง ไปดำเนินคดีมา ไม่ขอโต้ตอบ เรื่องการผลิต ตนเป็นคนผลักดันการสร้างอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ต้องเริ่มตั้งแต่การทำส่วนประกอบ สถานที่ซ่อม โรงซ่อมต่างๆ ให้ใช้งานได้นานที่สุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net