Skip to main content
sharethis

26 ก.ค. 2562 โครงการอินเทอร์เพื่อกฎหมายประชาชน หรือ iLaw ได้ตั้งคำถามว่า คำแถลงนโยบายรัฐบาล คสช. 2 ที่ได้มีการแถลงแล้วเสร็จไปเมื่อวานนี้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 162 หรือไม่

รัฐธรรมนูญมาตรา 162 คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์ชาติ และต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนํามาใช้จ่ายในการดําเนินนโยบาย โดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ ทั้งนี้ ภายในสิบห้าวัน นับแต่วันเข้ารับหน้าที่

ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามวรรคหนึ่ง หากมีกรณีที่สําคัญและจําเป็นเร่งด่วน ซึ่งหากปล่อยให้ เนิ่นช้าไปจะกระทบต่อประโยชน์สําคัญของแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีที่เข้ารับหน้าที่จะดําเนินการไปพลางก่อน เพียงเท่าที่จําเป็นก็ได้"

โดย iLaw ชี้ว่า ในคำแถลงนโยบายทั้ง 37 หน้า ไม่มีส่วนใดเลยที่อธิบายว่า การดำเนินการตามนโยบายต่างๆ นั้นอาศัยงบประมาณที่มีที่มาอย่างไรบ้าง

วันเดียวกันมติชนออนไลน์รายงานว่า ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีดังกล่าว และกรณีสืบเนื่องที่พรรคเสรีรวมไทย ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา ว่าการแถลงนโยบายของรัฐบาลนั้นขัดขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 162 หรือไม่ โดยชวนระบุว่า ในเล่มจะมีตัวเลขรายละเอียดของบางเรื่องในตอนหลังอยู่ด้วย นอกเหนือจากคำแถลงของนายกฯ

ทั้งนี้ผู้ข่าวประชาไท รายงานเพิ่มเติมว่า ในคำแถลงนโยบายรัฐบาล ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงต่อรัฐบาลนั้นมี การบอกแหล่งที่มาของงบประมาณในลักษณะกว้างๆ แต่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดงบประมาณเป็นตัวเลขตามที่ชวนระบุ

การดําเนินงานตามประเด็นนโยบายเร่งด่วนดังกล่าวข้างต้น รัฐบาลจะมุ่งมั่นดําเนินงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว มีความถูกต้องสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยพัฒนาจากพื้นฐานที่ได้ดําเนินการอย่างต่อเนื่อง และให้ความสําคัญกับกรอบวินัยด้านการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดสวัสดิการสําหรับประชาชน สามารถนํารายได้บางส่วนจากภาษีที่จัดเก็บได้ในแต่ละปีมาใช้ในการสนับสนุนการดําเนินนโยบายดังกล่าว ส่วนประเด็นนโยบายเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา อาทิการส่งเสริมการท่องเที่ยว การขับเคลื่อนการส่งออก การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก รัฐบาลจะพิจารณากําหนดมาตรการ ที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการทํางานหรือลงทุนร่วมกันระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐเพื่อขับเคลื่อน นโยบายดังกล่าวร่วมกัน และพิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินสมัยใหม่ที่จะช่วยลดภาระ ด้านงบประมาณมาใช้ในการลงทุน เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย เงินสะสมของกองทุนต่าง ๆ และการแปลงสิทธิและทรัพย์สินให้เป็นทุนได้ในอนาคต เป็นต้น

อย่างไรก็ดีการดําเนินนโยบายต่าง ๆ ทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะนโยบายด้านสังคมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การสาธารณสุข และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว จําเป็นต้องใช้งบประมาณในการดําเนินนโยบายดังกล่าวซึ่งในช่วงระยะเวลาการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล คาดว่างบประมาณประจําปีจะอยู่ในระดับเฉลี่ยประมาณ 3.3 ล้านล้านบาทต่อปี ในขณะที่รายได้จากภาษีของประเทศมีอยู่อย่างจํากัด ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งรัดพัฒนาระบบ จัดเก็บภาษีของรัฐให้มีความครอบคลุมมากขึ้น มุ่งเน้นการขยายฐานภาษีและปรับโครงสร้างภาษีให้มีความเป็นธรรม รวมทั้งเร่งส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ เข้าประเทศ ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวจะกลับมาสู่ระบบภาษีที่จะนํามาใช้ในการดําเนินนโยบาย เพื่อพัฒนาประเทศทั้งในเชิงเศรษฐกิจและเชิงสังคมตามนโยบายรัฐบาล

นอกจากนี้แผนงานหรือโครงการใดที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและเป็นการวางรากฐานการพัฒนาประเทศในระยะยาว รัฐบาลจะพิจารณาใช้จ่ายจากแหล่งเงินนอกงบประมาณ ทั้งในส่วนของเงินกู้และการให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ รวมทั้ง พิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินสมัยใหม่อาทิกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ในโครงการที่มีความคุ้มค่าทางการเงิน เพื่อลดภาระการลงทุนจากงบประมาณแผ่นดินและการกู้เงิน ซึ่งการใช้เครื่องมือทางการเงินดังกล่าว นอกจากจะช่วยลดภาระด้านการคลังของประเทศแล้ว จะช่วยให้ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานของประเทศได้อีกด้วย ทั้งนี้การใช้จ่ายของรัฐบาลเพื่อดําเนินการตามนโยบายนั้น รัฐบาลจะให้ความสําคัญกับกรอบวินัย การเงินการคลังอย่างเคร่งครัด โปร่งใส และตรวจสอบได้เพื่อให้ฐานะการเงินการคลังของประเทศ มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net