Skip to main content
sharethis

Change.org ระบุแคมเปญรณรงค์ ‘ปลาทูจะหมดไทย’ เรียกร้องเว็บไซต์ E-Commerce ขายของชื่อดังออกนโยบายไม่ให้มีร้านค้าออนไลน์ขาย ‘ลูกปลาทู’ หรือ สัตว์น้ำวัยอ่อน เพื่อปิดช่องทางการจำหน่าย ล่าสุด ได้รับการตอบรับจากภาคธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

30 ก.ค.2562 Change.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา จากประเด็นปัญหาการลดลงอย่างต่อเนื่องของปริมาณปลาทูไทย ทำให้ต้องมีการนำเข้าปลาทูจากต่างถิ่นสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น เป็นที่มาให้เมื่อไม่นานมานี้ เครือข่าย Reef Guardian Thailand กลุ่มอาสาสมัครที่ทำงานอนุรักษ์ทะเล เข้ามาตั้งแคมเปญรณรงค์บน Change.org เรียกร้องเว็บไซต์ E-Commerce ขายของชื่อดังออกนโยบายไม่ให้มีร้านค้าออนไลน์ขาย ‘ลูกปลาทู’ หรือ สัตว์น้ำวัยอ่อน เพื่อปิดช่องทางการจำหน่าย ซึ่งเป็นสาเหตุที่สนับสนุนให้มีการทำประมงแบบผิดวิธี จับลูกปลาทูก่อนทันได้โตเต็มวัย จนล่าสุด ได้รับการตอบรับจากภาคธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เนื้อหาตอนหนึ่งของเรื่องรณรงค์ (Change.org/Platu) ระบุ “ลูกปลาทูขนาดเล็กเท่านิ้วมือถูกเปิดขายที่ราคาไม่กี่ร้อยบาท เหมือนสินค้าปกติธรรมดาในร้านค้าต่างๆ บนเว็บไซต์ขายของชื่อดังอย่าง Shopee และ Lazada ลูกปลาทูเหล่านั้นไม่ทันจะได้โตเต็มวัย แต่ถูกจับขึ้นมาด้วยวิธีผิดๆ ตัดโอกาสให้พวกเขาเติบโตขยาย แพร่พันธุ์ต่อได้อีกไม่รู้กี่หมื่นกี่พันตัว” 

“มีข้อมูลระบุว่า เราเริ่มนำเข้าปลาทูจากต่างถิ่นมากขึ้น สัดส่วนปลาทูที่มาจากน่านน้ำไทยที่เราซื้อกิน จึงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง (อ่านต่อข้อมูลจาก “ปลาทูไทย” กำลังจะหายไปจากโลก) ซึ่งทั้งหมดเกิดมาจากความจริงที่ว่า ยังมีการทำประมงเกินขนาดหรือประมงแบบไม่ยั่งยืน”

ภายในเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ กว่า 9 พันเสียงร่วมลงชื่อสนับสนุน ขอให้เว็บไซต์ทั้งสองเลิกสนับสนุนให้มีการขายลูกปลาทู และสัตว์น้ำวัยอ่อนบนแพล็ตฟอร์มของตัวเอง เสียงของผู้บริโภคถูกส่งต่อไปยังภาคธุรกิจให้เข้ามามีส่วนในการรักษาทรัพยากร และระบบนิเวศน์ทางทะเล 

ล่าสุดทาง เครือข่าย Reef Guardian Thailand ได้แชร์เอกสารเปิดผนึกจากทั้ง Shopee และ Lazada มีใจความโดยสรุปว่า ทั้งสองบริษัทได้ปลดรายการสินค้าประเภท ‘ลูกปลาทู’ ออกจากแพล็ตฟอร์มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีมาตรการไม่ให้ร้านค้ารายย่อยเปิดขายได้อีก

เสียงของนักช้อป เสียงของคนกิน 

ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เครือข่าย Reef Guardian Thailand เคยเป็นผู้ริเริ่มแคมเปญรณรงค์ (Change.org/SaveParrotfish) เรียกร้องให้ซูเปอร์มาร์เก็ตไทยหยุดขาย ‘ปลานกแก้ว’ เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศปะการัง แล้วก็ได้รับการตอบรับจากเทสโก้ แมคโคร เซ็นทรัล เดอะมอลล์ และวิลล่ามาร์เก็ต 

Change.org รายงานด้วยว่า สำหรับ ความสำเร็จของการประกาศเลิกขายลูกปลาทูบนพื้นที่ออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada เพจเฟซบุ๊กรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม “ReReef” โพสข้อความระบุ “เห็นมั้ยว่า สมัยนี้พลังของผู้บริโภคเปลี่ยนโลกได้จริงๆ นะ เริ่มต้นที่ตัวเราและช่วยกันเรียกร้องให้ภาคธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น เรื่องขยะพลาสติกหรือมลภาวะต่างๆ ก็เช่นกัน 

เรารู้ว่าปัญหาการอนุรักษ์ปลาทู คงไม่อาจแก้ได้ด้วยการตัดวงจรการขายออนไลน์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องหยุดสนับสนุนการจำหน่ายลูกปลาทูและสัตว์น้ำวัยอ่อนในทุกช่องทาง และคงต้องพึ่งภาครัฐให้จริงจังกับการแก้ปัญหาประมงทำลายล้างอย่างเด็ดขาด” 

บรรจง นะแส นักอนุรักษ์และฟื้นฟูทะเลไทย โพสต์ภาพปลาทูผ่านเฟซบุ๊กพร้อมข้อความ “ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมปกป้องลูกของฉัน”

พลังของผู้บริโภคในยุคที่มีช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียไว้ร้องเรียน หรือแสดงความคิดเห็น นอกจากจะใช้สื่อสารไปยังภาครัฐแล้ว หลายๆ ครั้ง บนพื้นที่รณรงค์อย่าง Change.org ถูกใช้เป็นที่ส่งเสียงจาก ‘ผู้ซื้อ’ ‘คนกิน’ หรือ ‘ลูกค้า’ ไปยังภาคธุรกิจ ชวนให้บริษัท ห้างร้าน ผู้ประกอบการ ฯลฯ มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น 

สำหรับ Change.org เป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้สร้างการรณรงค์ เพื่อระดมความร่วมมือในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างสรรค์สิ่งดีๆ สู่สังคม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net