'อังคณา-เตือนใจ' ลาออกกรรมการสิทธิฯก่อนครบวาระ เนื่องจากระบบบริหารภายในกระทบการทำงานเพื่อภาคประชาชน รวมทั้งระเบียบใหม่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นอิสระในการทำงานและไม่เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ขณะที่ประธาน กสม. และ กสม.ประกายรัตน์ แถลงข่าวชี้แจงสถานะของ กสม. และขั้นตอนการทำงานตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลังจาก กสม. 2 คนลาออก
อังคณา นีละไพจิตร และเตือนใจ ดีเทศน์ (แฟ้มภาพ กสม.)
31 ก.ค.2562 ไทยพีบีเอสรายงานว่า วันนี้ เวลา 10.30 น. อังคณา นีละไพจิตร และเตือนใจ ดีเทศน์ แถลงต่อสื่อมวลชน กรณีประกาศลาออกจากตำแหน่งคณะกรรมการสิทธิมนุษชนแห่งชาติ (กสม.) ก่อนครบวาระ ซึ่งมีผลในวันนี้
อังคณา เปิดเผยถึงสาเหตุการลาออกว่า ระบบการบริหารงานภายในองค์กร กระทบต่อการทำงานเพื่อประชาชน แม้จะยังลงพื้นที่พบปะประชาชนได้เหมือนในอดีต แต่ไม่สามารถรับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชนได้โดยตรง
“ทุกเรื่องร้องเรียนที่มาจากประชาชน ต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ ว่าจะรับเรื่องร้องทุกข์หรือไม่ ตามข้อระเบียบใหม่ ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทั่วถึงอย่างที่เคยเป็น” อังคณา กล่าว
เตือนใจ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้พิจารณาเรื่องการลาออกก่อนครบวาระเช่นกัน ซึ่งมีเหตุผลสอดคล้องกับนางอังคณา โดยนับแต่รัฐธรรมนูญปี 2560 ใช้บังคับและ พ.ร.ป.ว่าด้วย กสม.ฉบับใหม่ประกาศใช้ มีการกำหนดให้ กสม.สามารถตั้งอนุกรรมการได้ เท่าที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แตกต่างจากในอดีตที่ กสม.ขณะนั้นจะตั้งอนุกรรมการฯ ขึ้นมาหลากหลาย และมีผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ เข้าร่วมเป็นอนุกรรมการ ทำให้การทำงานของ กสม.เชื่อมโยงกับภาคประชาสังคมในทุกกลุ่มและทุกภาค บรรยากาศจึงเป็นไปอย่างสมานฉันท์ แต่เมื่อมีการการกำหนดให้ตั้งอนุกรรมการเท่าที่จำเป็น กสม.ชุดนี้จึงตีความว่าไม่ควรมีการตั้งคณะอนุกรรมการ เพราะอาจขัดต่อกฎหมาย จึงแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของ กสม.เป็นผู้ตรวจสอบ ทำให้ความเชื่อมโยงกับภาคประชาสังคมลดลง หลายเรื่องที่มีการร้องเรียนต้องให้คณะกรรมการพิจารณาและไม่รับเป็นคำร้องมากกว่า ขณะที่การออกระเบียบต่างๆ รองรับกฎหมายใหม่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นอิสระในการทำงานและไม่เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
ประธาน กสม. แจงสถานะของ กสม. และขั้นตอนการทำงานตามรธน.
ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ รายงานว่า วัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังอังคณาและเตือนใจ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง
วัส กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องการลาออกเมื่
วัส กล่าวว่า กสม. เป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญปี 2560 และเป็นองค์กรกลุ่มในลักษณะเดี
วัส กล่าวว่า ยอมรับว่าการทำงานภายใต้กติการั
ประธาน กสม. กล่าวว่า เคารพการตัดสินใจของอดีต กสม. ที่ลาออกไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด อย่างไรก็ตาม สถานะของ กสม.ชุดที่ 3 ทั้ง 6 คนได้พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ พ.ร.ป.กสม. นี้ใช้บังคับ คือ วันที่ 13 ธ.ค.2560 ตามบทเฉพาะกาลของ พ.ร.ป. กสม. (มาตรา 60) แต่กระนั้น บทเฉพาะกาลมาตราดังกล่าวยังให้ กสม. ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่
ส่วนที่มีข้อสังเกตว่า การลาออกของ กสม. 2 ท่าน จะทำให้ กสม. ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้นั้น วัส กล่าวว่า บทเฉพาะกาลมาตรา 60 วรรคสาม บัญญัติว่า กรณีมีผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)