'ผสานวัฒนธรรม' จี้ กก.คุ้มครองสิทธิฯ รับข้อเสนอภาคปชช. สอบปมผู้ต้องสงสัยคดีมั่นคงสมองตายในค่ายทหาร

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมส่งจดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขอให้พิจารณาข้อเสนอจากภาคประชาสังคมและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี อับดุลเลาะ อีซอมูซอสมองบวมหลังถูกควบคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ด้านคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิฯออกแถลงการณ์ ยังไม่สามารถสรุปผลการสอบสวน ส่วนรอยแผลบริเวณข้อพับแขนขวาเกิดจากการรักษาผู้ป่วย

31 ก.ค.2562 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่า วันนี้ สุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรมส่งจดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพิจารณาข้อเสนอจากภาคประชาสังคมและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอสมองบวมหลังถูกควบคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร โดยในวันที่ 31 ก.ค.นี้ มีการประชุมเพื่อพิจารณากรณีดังกล่าวด้วย  จดหมายเปิดผนึกมีเนื้อหาสำคัญดังนี้

นับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.2562 เป็นเวลากว่า 10 วันแล้วที่นายอับดุลเลาะเข้ารับการรักษาด้วยอาการสมองบวมหลังถูกควบคุมตัวในค่ายอิงคยุทธบริหาร โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนต้องการทราบความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้คณะกรรมการตรวจสอบตอบข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการควบคุมตัว  ดังนั้นมูลนิธิผสานวัฒนธรรมจึงส่งจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องต่อคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและแถลงให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณะ รวมทั้งนำข้อเสนอจากภาคประชาสังคมเข้าพิจารณาในการทำงานเพื่อให้เกิดการปฏิรูปเชิงสถาบันและชดเชยเยียวยาให้กับผู้เสียหายต่อไป

โดยเนื้อหาสำคัญในจดหมายเปิดผนึกระบุถึงข้อเรียกร้องทั้ง 4 ด้าน ได้แก่

1. ขอให้คณะกรรมการมอบหมายให้แพทย์นิติเวชศาสตร์ที่เป็นอิสระและเชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบอาการของนายอับดุลเลาะ เนื่องจากมีข้อกังวลเรื่องการซ้อมทรมานที่ไม่ปรากฏร่องรอยบนเนื้อตัวร่างกายแต่ใช้วิธีกระทำทรมานที่ส่งผลให้สมองบวม โดยขอให้ยึดหลักการสอบสวนตามพิธิสารอิสตันบูล ซึ่งเป็นคู่มือสืบสวนสอบสวนและบันทึกข้อมูลหลักฐานอย่างมีประสิทธิภาพ กรณีการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นๆที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรี

2. คณะกรรมการทุกคนควรมีอำนาจในการเข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดได้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารทางการแพทย์อย่างละเอียด หลักฐานบันทึกระหว่างการควบคุมตัวหรือหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการต้องมีสิทธิในการสัมภาษณ์และสอบสวนพยานทุกคนอย่างเป็นอิสระ

3. ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องได้รับการเผยแพร่สู่สาธารณะ หากพบว่ามีการละเมิดระหว่างการควบคุมตัวต้องนำผู้เกี่ยวข้องมีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ออกมาตรการชดเชยเยียวยา และมาตรการป้องกันมิให้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในลักษณะนี้อีกในอนาคต

4. ขอให้คณะกรรมการออกกฏระเบียบที่ชัดเจนสำหรับเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อรับรองว่าปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่จะตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักสิทธิมนุษยชนและนิติธรรม

วันเดียวกันนี้ (31 ก.ค.62) Patani NOTES รายงานด้วยว่า คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์กรณีนี้ด้วยว่า อับดุลเลาะ อีซอมูซอ ซึ่งขณะนี้เป็นผู้ป่วยอาการสมองบวม ก้านสมองไม่ทำงาน หลังจากที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวไปให้ปากคำเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 

คณะกรรมการระบุว่าได้ประชุมกันสามครั้ง มีการแบ่งงานไปตรวจสอบข้อมูลแล้วนำมาสู่ที่ประชุมใหญ่เพื่อพิจารณาร่วมกัน ประเด็นสำคัญที่สุดที่คณะกรรมการต้องตอบคำถามคือ อาการสมองบวม ซึ่งนำมาซึ่งสภาพไม่ตอบสนองในปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

คณะกรรมการกล่าวในแถลงการณ์ว่า อาการสมองบวมอาจเกิดได้จาก 3 สาเหตุ ประการแรกคือสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แต่เรื่องนี้ถือว่าตัดไปได้เพราะผลการตรวจสอบของแพทย์พบว่าไม่มี ประการที่สอง อาจเกิดจากโรคหลอดเลือดโป่งพอง ในข้อนี้มีข้อจำกัดในเรื่องของการตรวจสอบเพราะในสมองของผู้ป่วยไม่มีเลือดไหลเวียนให้ตรวจได้ อันเนื่องมาจากอาการป่วยนั่นเอง หากจะตรวจสอบให้ชัดต้องผ่าหรือใช้เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ การตรวจสอบเช่นนี้ใช้กับกรณีผู้เสียชีิวิตแล้วเท่านั้น 

ส่วนประการที่สามที่อาจเป็นสาเหตุของสมองบวมด้วย คือการขาดออกซิเยน ซึ่งอาจเกิดจากการถูกกระทำหรือเกิดจากการหมดสติและเกิดภาวะปิดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งในกรณีหลังนี้ คาดว่าคณะกรรมการน่าจะหมายถึงการหมดสติแล้วลิ้นไปปิดกั้นช่องทางเดินหายใจทำให้ขาดออกซิเยนได้ 

ส่วนเรื่องของการลื่นล้มคณะกรรมการสรุปว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะไม่มีร่องรอยฟกช้ำบนร่างกายตามรายงานแพทย์ รอยกระแทกบนสมองก็ไม่มี 

คณะกรรมการสรุปว่า ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมที่จะเป็นสาเหตุของสมองบวมในเรื่องเกี่ยวเนื่องกับหลอดเลือดโป่งพอง หรือการขาดออกซิเยนอันอาจเกิดจากการกระทำของบุคคลอื่นหรือจะเป็นจากการขาดสติและเกิดการปิดกั้นภาวะทางเดินหายใจเอง 

Patani NOTES ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แถลงการณ์ของคณะกรรมการไม่ได้กล่าวถึงการพิจารณาประเด็นอื่นใดนอกเหนือไปจากผลของการตรวจสอบล่าสุดดังกล่าว และดูเหมือนว่าประเด็นที่จะต้องสอบสวนต่อไปจะเป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่งเพราะข้อจำกัดของการหาข้อมูลที่อิสระเชื่อถือได้ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท