Skip to main content
sharethis

โฆษกรัฐบาล-กอ.รมน. ยืนยันข่าวประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษในกรุงเทพฯ ไม่เป็นความจริง ด้านผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์เพื่อดูแลความปลอดภัย สั่ง ผอ.เขต 50 เขตตรวจเข้มวัตถุและผู้ต้องสงสัยในพื้นที่

นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ที่มาภาพ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์)

2 ส.ค. 2562 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีกระแสข่าวและส่งต่อข้อความผ่านไลน์ถึงกรณีการประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษ อาทิ 1. แยกราชประสงค์ 2. สยามสแควร์ 3. อนุสาวรีย์ชัยฯ 4. อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 5. สถานีรถไฟฟ้าบนดิน + ใต้ดิน ทุกสถานี 6. สถานีรถไฟหัวลำโพง 7. สถานีขนส่งทุกแห่ง ว่าล่าสุด พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ยืนยันว่ายังไม่มีการประกาศพื้นที่ หรือเขตควบคุมพิเศษใดๆ แต่หน่วยงานด้านความมั่นคงได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ในบริเวณสำคัญทุกพื้นที่แล้ว และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนช่วยสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติ เพื่อความสงบปลอดภัยของในสังคมเรา

เกิดเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ

โดยก่อนหน้านี้นางนฤมล แถลงความคืบหน้าเหตุระเบิดหลายจุดในช่วงเข้าที่ ผ่านมาว่าพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสั่งการเร่งสอบสวนจนสามารถจับกุมตัวได้ 2 คน ซึ่งขณะนี้ตำรวจ อยู่ระหว่างการสอบสวนในเชิงลึก ส่วนเหตุการณ์ในช่วงเช้าอีก 4 จุด สํานักงานตํารวจแห่งชาติ อยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน จึงขอสื่อมวลชนอย่าด่วนสรุปว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บ่ายเมื่อวานนี้หรือไม่จึงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อน

นางนฤมล ย้ำว่านายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้เพิ่มมาตราการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ราชการ ขอให้ประชาชนช่วยดูแลสอดส่องหากพบความผิดปกติ ให้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน หรือ ส่งข้อมูลเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วง เพราะขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไป ได้ด้วยดี ผ่านการเลือกตั้งและมีรัฐบาล และ มีตัวแทนจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาพบหลายประเทศ ขณะที่ประเทศกำลังจะเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศกลับมีกลุ่มที่ไม่หวังดี กับประเทศ ขอความร่วมมือกับประชาชนว่า อย่าปล่อยให้คนที่ไม่หวังดีกับประเทศลักษณะนี้มีที่ยืนในสังคม 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีสาส์นชี้แจงให้กับต่างประเทศได้ทราบอย่างเป็นทางการ ให้คลายความกังวล เพราะรัฐบาล ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ราชการและจุดสำคัญของกรุงเทพมหานคร?อย่างเต็มที่ ขอให้ความเชื่อมั่นกับประชาชนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่า เหตุการณ์น่าจะสรุปลงโดยเร็วภายในวันนี้ 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสาส์นถึงประชาชนโดยมีใจความว่า “จะเห็นว่ามีคนไม่ดีสร้างสถานการณ์ก่อเหตุรุนแรงขึ้นอีกในช่วงนี้ ช่วงที่ประเทศชาติ รัฐบาลกำลังเดินหน้าด้วยดี ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ช่วยกันเฝ้าระวัง ช่วยถ่ายรูป บุคคล เหตุการณ์ ผู้ต้องสงสัยที่พบเห็น เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนต่อไป แจ้งแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารช่วยกันเฝ้าระวัง ยกระดับการ รปภ. สถานที่สำคัญ สถานที่ราชการ พื้นที่ธุรกิจ ฯลฯ เราต้องแสดงให้เห็นว่าคนไทยทุกคนจะร่วมมือกัน ไม่ให้ใครก็ตามที่มุ่งร้ายต่อประเทศชาติ มีที่ยืนในสังคมไทยได้ ต้องร่วมมือกันนะครับ”

โฆษกฝ่ายความมั่นคงประณามเหตุระเบิดหลายจุดกลางกรุงเทพมหานคร ขณะที่ รัฐบาลเร่งสืบสวนขยายผลจับกุม

พลโทคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกฝ่ายความมั่นคง กล่าวประณามกลุ่มก่อเหตุ และผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดป่วนเมือง บริเวณสถานที่ราชการและพื้นที่สัญจรของประชาชนหลายจุดในกรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย ถือเป็นการทำลายชาติ ที่ต้องการลิดรอนระบบเศรษฐกิจและเสถียรภาพความสงบสุขมั่นคงปลอดภัยของประชาชนในภาพรวม ซึ่งประชาชนทุกภาคส่วนควรร่วมกันแสดงออกถึงการต่อต้านการใช้ความรุนแรงดังกล่าว ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันให้กำลังใจกันและกัน ไม่วิพากษ์ ยั่วยุ หรือให้ข้อมูลผ่านสื่อที่สร้างความสับสนกับประชาชน โดยขอให้ร่วมกันเฝ้าระวังและติดตามให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อการติดตามสืบสวนขยายผลนำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว 

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมให้ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายข่าวเร่งติดตามสืบสวนขยายผลนำผู้ก่อเหตุระเบิดและผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดมาลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุดโดยเร็ว รวมทั้งขอให้พิจารณาถึงความเชื่อมโยงของเหตุไฟไหม้ย่านธุรกิจสำคัญในห้วงเวลาดังกล่าวควบคู่กัน โดยให้ทำการปิดล้อมและตรวจสอบการเข้าออกพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ จุดสัญจรของประชาชนและสถานที่ราชการต่างๆมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในภาพรวม

ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์เพื่อดูแลความปลอดภัย สั่ง ผอ.เขต 50 เขตตรวจเข้มวัตถุและผู้ต้องสงสัยในพื้นที่

ด้านพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์พร้อมวางมาตรการเฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานครภายหลังจากเกิดเหตุระเบิดในหลายพื้นที่  

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเปิดเผยว่ากรุงเทพมหานครได้ตั้งศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์เพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้อำนวยการศูนย์  เนื่องจากเมื่อวานนี้ได้เกิดเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่บริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติและช่วงเช้าวันนี้ยังได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ 4 จุดและเกิดเหตุระเบิดบริเวณศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ,บริเวณพระราม 9 ซอย 57 ในจุดนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดเขตสวนหลวงได้รับบาดเจ็บ 2 คนขณะนี้ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสิริธร พร้อมมอบหมายให้ นายแพทย์ พิชญา  นาควัชระ  รองปลัดกรุงเทพมหานครเข้าเยี่ยมดูแลผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่วนเหตุระเบิดบริเวณบีทีเอสช่องนนทรีในจุดนี้ยังไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 

ทั้งนี้ศูนย์อำนวยการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์กรุงเทพมหานครเปิดทำการ 24 ชั่วโมง ซึ่งได้มีการจัดตั้งผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  พร้อมกับเตรียมความพร้อมด้านการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ด้วยการติดตั้งกล้อง cctv ซึ่งจะเชื่อมโยงข้อมูลมายังศูนย์ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อเป็นกำลังในการสนับสนุนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารด้านการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ 

นอกจากนี้ยังได้ออกข้อความ (ว.8) ไปถึงผู้อำนวยการเขตทุกเขตตรวจสอบพื้นที่ของตนเองอย่างเข้มงวดทั้งวัตถุและผู้ต้องสงสัยเพื่อเป็นการเฝ้าระวังเหตุความปลอดภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร


ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ [1] [2] [3] ประชาชาติธุรกิจ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net