Skip to main content
sharethis

คนทำงานคลินิกในแอฟริกาใต้ยกเลิกกะกลางคืน หลังความรุนแรงในที่ทำงาน

องค์กรพยาบาลประชาธิปไตยแห่งแอฟริกาใต้ (Democratic Nursing Organisation of SA: Denosa) ประกาศให้ Phola Park Clinic ในเมือง Thokoza ซึ่งให้การบริการรักษาผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ยกเลิกกะกลางคืน หลังจากมีชายฉกรรจ์ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายเข้ามารักษาตัวที่นี่ แล้วถูกคู่อริตามเข้ามาทำร้ายในคลินิก จนเจ้าหน้าที่บาดเจ็บและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ทางองค์กรฯ ดังกล่าว จึงประกาศยกเลิกกะกลางคืนในคลินิกดังกล่าวเพื่อรับประกันความปลอดภัยของแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข

ที่มา: timeslive.co.za, 1/7/2019

พบนักศึกษาอินโดนีเซียถูกบริษัทจัดหางานหลอกมาทำงานในไต้หวัน

กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันแถลงเมื่อปลายเดือน มิ.ย. 2019 ว่านักศึกษาอินโดนีเซียของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเจี้ยนกั๋ว ที่เมืองจางฮั่ว (Chienkuo Technology University) ร้องเรียนช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2019 ที่ผ่านมาว่า บริษัทจัดหางานซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบจัดหาการทำงานของพวกตน ได้ยึดเอกสารสำคัญเช่นหนังสือเดินทางและบัตร ARC เอาไว้ และบังคับให้พวกตนทำงานในโรงงานสัปดาห์ 48-54 ชั่วโมง และมีการหักค่าจ้างจากการทำงานอย่างไม่เป็นธรรม กล่าวคือค่าจ้าง 23,100 เหรียญ ถูกบริษัทจัดหางานหัก 15,000 เหรียญ อ้างว่าเป็นค่าอาหารที่พัก และค่าเทอมเป็นต้น และบังคับให้ตอบกับบุคคลภายนอกว่า ทำงานเพียงสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนดหากใครบอกความจริงจะถูกส่งกลับประเทศ

เมื่อได้รับข้อร้องทุกข์แล้ว กระทรวงศึกษาธิการจึงดำเนินตรวจสอบ และเชิญนักศึกษาที่ร้องเรียนทั้ง 19 คน มาให้ข้อเท็จจริง นักศึกษาเหล่านี้ ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุ 20 ปีเศษกล่าวว่า บริษัทจัดหางานโฆษณาในอินโดนีเซีย ประกาศรับสมัครนักศึกษามาทำงานและเรียนในมหาวิทยาลัยดังของไต้หวัน ไม่เพียงแต่ได้รับปริญญาบัตร ขณะเรียน ยังจะได้ทำงานเพื่อฝึกฝนสัปดาห์ละ 20 ชั่วโมง และได้รับค่าจ้าง ซึ่งเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วย แต่ทุกคนต้องจ่ายค่าบริการในอัตราสูง

หลังเดินทางมาถึงแล้ว ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดังกล่าวจริง แต่หลังเลิกเรียนในภาคบ่าย จะมีบริษัทจัดหางานจัดรถบัสรับส่งนักศึกษาทั้งหมดไปทำงานยังโรงงานจนถึงเที่ยงคืน รวมถึงวันเสาร์และวันอาทิตย์ก็ไม่ได้หยุด รวมชั่วโมงทำงานในแต่ละสัปดาห์ 48-54 ชั่วโมง หากมีใครถามถึงเรื่องนี้ ให้แจ้งว่าทำงานไม่เกิน 20 ชั่วโมงตามกฎหมาย และรายได้ในแต่ละเดือน 20,000 กว่าเหรียญ ถูกบริษัทจัดหางานหักเหลือเพียง 5,000 เหรียญ โดยอ้างว่า หักค่าเทอม ค่าอาหารหอพักในมหาวิทยาลัย รวมทั้งยึดหนังสือเดินทางและบัตร ARC เอาไว้

กระทรวงศึกษาธิการไต้หวันแถลงว่า จะช่วยติดตามค่าใช้จ่ายของกลุ่มนักศึกษาที่ถูกหักไปทั้งหมด ด้านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเจี้ยนกั๋ว บกพร่องในหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่และสิทธิประโยชน์ของนักศึกษาอย่างรุนแรง นอกจากต้องรับประกันจะไม่เกิดเหตุการณ์ในทำนองนี้ขึ้นอีกแล้ว ยังจะถูกจัดให้อยู่ในบัญชีรายชื่อสถาบันการศึกษาที่มีปัญหา และจะถูกตัดงบประมาณช่วยเหลือจากรัฐด้วย ส่วนบริษัทจัดหางานถูกส่งดำเนินคดี ข้อหาหลอกลวงต้มตุน และขอให้อัยการตรวจสอบว่าเข้าข่ายค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่

ที่มา: Radio Taiwan International, 5/7/2019

Deutsche Bank เตรียมเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก 18,000 อัตรา

Deutsche Bank ธนาคารยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีประกาศปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดหลังวิกฤตการเงินปี 2008 โดยจะใช้งบประมาณประมาณราว 7,400 ล้านยูโร จะมีการยุบธุรกิจเงินทุน และปรับลดการทำธุรกิจตราสารหนี้ รวมทั้งปรับลดพนักงานทั่วโลก 18,000 อัตรา

ที่มา: cnn.com, 7/7/2019

ปี 2020 เวียดนามจะปรับขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำของภาคเอกชนตามภูมิภาคที่ 5.5%

ในปี 2020 เวียดนามจะปรับขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำของภาคเอกชนตามภูมิภาคที่ 5.5% โดยอัตราค่าแรงขั้นต่ำสำหรับแรงงานในเขตที่ 1 (เขตเมือง ที่ประกอบด้วย กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์) จะกำหนดให้เพิ่มขึ้นเป็น 4.42 ล้านด่งต่อเดือน จากนั้นจะลดหลั่นกันลงไปตามเขตต่างๆ เช่น เขตที่ 2 กำหนดเพิ่มเป็น 3.92 ล้านด่งต่อเดือน เขตที่ 3 เพิ่มเป็น 3.43 ล้านด่งต่อเดือน และเขตที่ 4 เพิ่มเป็น 3.07 ล้านด่งต่อเดือน

ที่มา: vietnamnews.vn, 12/7/2019

หลังมาตรการลดหย่อนโทษ สตม. ไต้หวันสิ้นสุด พบแรงงานผิดกฎหมายมอบตัว  17,195 คน

เพื่อลดจำนวนแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายซึ่งมีจำนวนประมาณ 50,000 คน และชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวแต่อยู่เลยกำหนดโดยหางานทำอย่างผิดกฎหมายอีกประมาณ 40,000 คน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไต้หวัน ได้จัดโครงการพิเศษให้การลดหย่อนโทษสำหรับผู้เข้ารายงานตั้งตั้งแต่ 1 ม.ค. จนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2019 ในระหว่างโครงการ แรงงานต่างชาติที่หลบหนีนายจ้างและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่เลยกำหนดวีซ่าที่เข้ารายงานตัว จะไม่ถูกกักกันและจะได้รับการลดหย่อนโทษปรับจากสูงสุด 10,000 เหรียญไต้หวันเหลือ 2,000 เหรียญไต้หวัน และลดระยะเวลาถูกจำกัดการเดินทางเข้าไต้หวันด้วย

โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแถลงว่า ช่วงระหว่างโครงการพิเศษดังกล่าว มีชาวต่างชาติพำนักอาศัยในไต้หวันอย่างผิดกฎหมายถูกส่งกลับทั้งหมด 25,967 คน ในจำนวนนี้ เป็นแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวันในฐานะนักท่องเที่ยวแต่อยู่เลยกำหนดวีซ่าเข้ามอบตัว 17,195 คน เป็นคนไทย 726 คน นอกจากนี้ยังตรวจพบและจับกุมชาวต่างชาติผิดกฎหมาย 8,772 คน เป็นคนไทย 302 คน และจับกุมนายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 1,023 คน นายหน้าเถื่อน 192 คน ผลงานการจับกุมชาวต่างชาติผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนผลงานการจับกุมนายจ้างและนายหน้าผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น 59% และ 46% ตามลำดับ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเปิดเผยข้อมูลพบว่า นอกจากเริ่มมีการตรวจและกวาดล้างชาวต่างชาติผิดกฎหมายมาตั้งแต่ปี 2012 แล้ว ยังมีการตรวจจับการว่าจ้างและการจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมๆ กันไปด้วย โดยสามารถจับกุมนายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 13,140 คน นายหน้าเถื่อน 2,408 คน

ที่มา: Radio Taiwan International, 12/7/2019

Amazon ทุ่มงบประมาณฝึกทักษะแรงงานขั้นสูงให้ชาวอเมริกัน 1 แสนคน

บริษัท Amazon ทุ่มงบประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ เพื่อเปิดอบรมฝึกทักษะแรงงานขั้นสูง ให้กับแรงงานอเมริกัน 100,000 คน คิดเป็น 1 ใน 3 ของพนักงานแอมะซอนในสหรัฐฯ โครงการ Upskilling 2025 ของแอมะซอน ภายใต้งบประมาณ 700 ล้านดอลลาร์ สำหรับระยะเวลา 6 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าจะพัฒนาฝีมือแรงงาน 1 แสนคนของ Amazon ในสหรัฐฯ ให้มีความรู้ด้านเครื่องจักรอัตโนมัติและเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเข้ารับตำแหน่งในงานที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงของบริษัท เช่น Could Computing เทคโนโลยีหุ่นยนต์ และการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยที่ไม่จำเป็นว่าพนักงานที่สนใจจะต้องมีคุณสมบัติที่ตรงกับที่ต้องการตั้งแต่แรกก็ได้

หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Amazon มีแถลงการณ์ถึงโครงการดังกล่าวว่า ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนกับพนักงานของบริษัทเอง และช่วยเหลือพวกเขาให้ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และสร้างทางเลือกด้านสาขาอาชีพที่หลากหลายขึ้นให้กับพวกเขา

ทั้งนี้ Amazon เปิดเผยว่าบริษัทจะมีพนักงานในสหรัฐฯ ราว 300,000 คนในปี 2019 นี้ และมีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 630,000 คน แต่ Amazon เป็นหนึ่งในอีกหลายบริษัทที่ประสบปัญหาในการเฟ้นหาแรงงานอเมริกันที่มีศักยภาพด้านเทคนิคเหล่านี้ ประกอบกับทิศทางตลาดแรงงานในอนาคตซึ่งมีความเสี่ยงที่หุ่นยนต์ เครื่องจักร และปัญญาประดิษฐ์ จะเข้ามาทดแทนแรงงานมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่ามนุษย์จะเสียตำแหน่งงานราว 20 ล้านตำแหน่ง หรือราว 8.5% ของแรงงานในภาคการผลิตทั่วโลก ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

ที่มา: VOA, 13/7/2019

สื่อเผย Huawei จะปลดพนักงานจำนวนมากในสหรัฐฯ

สื่อธุรกิจชื่อดังอย่าง Wall Street Journal รายงานว่า Huawei Technologies Co. มีแผนการที่จะปลดพนักงานเป็นจำนวนมากในสหรัฐฯ ในขณะที่บริษัทกำลังต่อสู้กับความพยายามของรัฐบาลสหรัฐในการขึ้นบัญชีดำ Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ Huawei ที่ระบุว่าการปลดพนักงานครั้งนี้คาดว่าจะกระทบกับตำแหน่งงานในบริษัทลูกที่ทำหน้าที่วิจัยและพัฒนา ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทดังกล่าวจ้างพนักงานราว 850 คน

ที่มา: Wall Street Journal, 13/7/2019

งานวิจัยระบุรอบ 20 ปีที่ผ่านมา หุ่นยนต์แทนแรงงานคนเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า

ข้อมูลจากธนาคารกลาง St. Louis สหรัฐฯ ระบุถึงการใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิตของโลกในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานั้นมีมากขึ้นถึงสองเท่า ขณะที่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า รายงานระบุว่าหากนับจนถึงปี 2017 การใช้หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมการผลิตในสหรัฐฯ นั้นเพิ่มขึ้นจาก 0.5 ตัวจากเมื่อ 22 ปีก่อน เป็น 1.8 ตัวต่อแรงงาน 1,000 คน และเมื่อโฟกัสไปเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ พบว่าฝรั่งเศสมีการใช้หุ่นยนต์มากที่สุด ตามมาด้วยสหรัฐฯ และเยอรมนี โดยหุ่นยนต์เข้าไปแทนที่แรงงานทักษะระดับกลางมากที่สุด ขณะที่สัดส่วนแทนที่แรงงานระดับสูงและระดับต่ำนั้นก็เติบโตขึ้นเช่นกัน

ที่มา: france24.com, 15/7/2019

พนักงาน Amazon ผละงานที่ศูนย์กระจายสินค้าในวันลดราคาประจำปี

พนักงาน Amazon ผละงานที่ศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่งในรัฐมินนิโซตา สหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ในช่วงที่บริษัทเริ่มเทศกาลลดราคาประจำปีสำหรับสมาชิก โดยเรียกร้องให้บริษัทปรับปรุงสภาพการทำงาน องค์กรชุมชนแห่งหนึ่งเผยว่า การผละงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกดดันให้ Amazon แก้ไขในหลายเรื่อง เช่น ความปลอดภัยในที่ทำงาน โอกาสความก้าวหน้าในการทำงานอย่างเท่าเทียม การแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการผละงานที่ศูนย์กระจายสินค้า 7 แห่งในเยอรมนีด้วยเช่นกัน ก็มีการผละงานเช่นกัน โดยที่เยอรมนีมีการเรียกร้องขอค่าจ้างเพิ่มขึ้น

ที่มา: qz.com, 15/7/2019

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ในการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง นับเป็นการผลักดันการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีของอเมริกา ส.ส.สหรัฐฯ มีมติ 231 ต่อ 199 เสียง ผ่านร่างกฎหมาย Raise The Wage Act ให้ปรับขึ้นค่าจ้างเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง ซึ่งขั้นตอนต่อไปจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาจากวุฒิสภา

สำนักงานงบประมาณแห่งชาติของรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ CBO คาดว่าภายใต้ Raise The Wage Act จะมีผลบังคับใช้กับแรงงานอเมริกันกว่า 30 ล้านคน ปัจจุบันค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง ซึ่งการปรับขึ้นค่าจ้างจะเป็นแบบค่อยไปค่อยไปในระยะเวลา 6 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม CBO คาดว่าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะช่วยให้แรงงานอเมริกัน 1 ล้านคนหลุดพ้นจากระดับความยากจน ขณะเดียวกันอาจทำให้แรงงานราว 1-3 ล้านคนต้องตกงาน หาก Raise The Wage Act กลายมาเป็นกฎหมาย

ที่มา: VOA, 19/7/2019

Huawei เลิกจ้างพนักงานราว 600 คนในสหรัฐฯ

Huawei บริษัทใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน ระบุว่าได้เลิกจ้างพนักงานราว 600 คน ในหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาในสหรัฐฯ Huawei ประกาศว่าการลดจำนวนพนักงานนี้มีผลในวันที่ 22 ก.ค. 2019 ทั้งนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นบัญชีดำ Huawei เมื่อเดือน พ.ค. 2019 โดยห้าม Huawei ทำธุรกิจกับบริษัทของสหรัฐฯ หากไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดยอ้างว่าเป็นเหตุผลด้านความมั่นคง ซึ่ง มาตรการนี้ได้ทำให้ Huawei พบความยากลำบากในการถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังบริษัทแม่ที่ประเทศจีน Huawei ได้ลดจำนวนพนักงานในสหรัฐฯ ลง 40% แต่มีแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานทั่วโลก จากปัจจุบัน 180,000 คน เป็น 194,000 คนในปีนี้

ที่มา: NHK, 24/7/2019

ภาคเกษตรไต้หวันขาดแคลนแรงงานหนัก ต้องอาศัยแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายเข้าทำงาน ทำอัตราส่วนการหลบหนีนายจ้างของแรงงานต่างชาติยังคงสูงลิ่ว

แม้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะพยายามลดจำนวนชาวต่างชาติที่พำนักและทำงานในไต้หวันอย่างผิดกฎหมาย ด้วยการผลักดันโครงการลดหย่อนโทษให้ชาวต่างชาติเหล่านี้เข้ามอบตัว ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาจนถึง 30 มิ.ย. ที่ผ่านมานี้ สามารถส่งกลับชาวต่างชาติผิดกฎหมาย ซึ่งรวมแรงงานที่หลบหนีนายจ้างและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวันในฐานะนักท่องเที่ยว แต่อยู่เลยกำหนดวีซ่า 25,967 คน แต่ยอดจำนวนแรงงานต่างชาติหลบหนีและยังไม่ถูกตรวจพบ ยังคงสูงประมาณ 50,000 คน สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่จำนวนแรงงานต่างชาติหลบหนีไม่ได้ลดน้อยลงไป มาจากมีนายจ้างว่าจ้างและมีที่ไป โดยเฉพาะภาคการเกษตร เนื่องจากไต้หวันยังไม่อนุญาตให้ภาคการเกษตรนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ แม้จะประกาศให้กิจการฟาร์มโคนม สามารถนำเข้าแรงงานต่างชาติได้ แต่โควตาน้อยมาก และมีเงื่อนไขเข้มงวด ส่งผลเกษตรกรเจ้าของสวนจำนวนหนึ่ง ลักลอบว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายเข้าทำงาน

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในเมืองหยุนหลินกล่าวว่า แรงงานต่างชาติผิดกฎหมายจำนวนมาก หลบซ่อนตัวทำงานตามไร่สวนต่างๆ คล้ายชนเผ่าเร่ร่อนที่เคลื่อนย้ายถิ่นฐานไปเรื่อยๆ และเพื่อความอยู่รอด นายจ้างจำนวนไม่น้อยยอมถูกปรับหรือแม้กระทั่งยอมเสี่ยงต่อการดำเนินคดีทางอาญา ยังมีการว่าจ้างแรงงานผิดกฎหมายต่อไป ยกตัวอย่างโรงงานคัดบรรจุผักและผลไม้แห่งหนึ่งในเมืองหยุนหลิน เพิ่งจะถูกจับข้อหาว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย 13 คนไปหมาดๆ ไม่นานต่อมา ได้รับแจ้งและตรวจพบว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายอีก 25 คน คราวนี้ จับนายจ้างและนายหน้าเถื่อนดำเนินคดีทางอาญา เจ้าหน้าที่ถึงกับส่ายหัวและถามว่า ไม่กลัวติดคุกหรือไง นายจ้างตอบว่า กลัวซิ แต่กลัวโรงงานไปไม่รอดมากกว่า

จากคดีข้างต้น จะเห็นได้ว่า ภาวะขาดแคลนแรงงานในภาคการเกษตรอยู่ในระดับรุนแรงจนถึงขั้นวิกฤตแล้ว ที่นาๆ ดีๆ นับหมื่นไร่ต้องถูกทิ้งให้รกร้าง เพราะไร้คนทำ เกษตรกรบางคนที่ยังทู่ซี้ทำต่อไป ก็ต้องแอบว่าจ้างแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายเข้าทำงาน ซึ่งต้องเผชิญกับการลงโทษปรับเงินจำนวนมาก จึงมีการเรียกร้องให้รัฐบาลส่วนกลาง โดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน พิจารณาทบทวนห้ามนำเข้าแรงงานภาคการเกษตร มิเช่นนั้น ที่นาและไร่สวนในเมืองต่างๆ ทางภาคกลาง จะต้องถูกทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า นอกจากนี้ เทคโนโลยีทางการเกษตร ซึ่งเป็นสิ่งภาคภูมิใจของไต้หวัน ก็จะไร้การสืบทอดอย่างน่าเสียดาย

ที่มา: Radio Taiwan International, 27/7/2019

พนักงานธนาคารทั่วญี่ปุ่นมีจำนวนลดลงอย่างมาก

จำนวนพนักงานธนาคารในญี่ปุ่นลดลงราว 3,629 คน ในช่วง 1 ปีจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2019 นี่เป็นการลดลงครั้งที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2006 เมื่อครั้งที่มีการรวมกลุ่มกันก่อตั้งเป็นกลุ่มการเงินขนาดใหญ่ 3 แห่งของญี่ปุ่นคือ Mitsubishi UFJ Sumitomo Mitsui และ Mizuho บริษัทด้านการสำรวจแห่งหนึ่งเผยว่า ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2019 จำนวนพนักงานของธนาคาร 81 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 223,778 คน ธนาคาร 62 แห่งหรือประมาณร้อยละ 80 ได้ตัดลดจำนวนพนักงานของตนลงเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้การประกอบการของธนาคารลื่นไหลได้คล่องตัวขึ้นและกระบวนการจัดการข้อมูลปริมาณมหาศาลดำเนินไปได้โดยอัตโนมัตินอกจากนี้ ธนาคารจำนวนมากขึ้นกำลังดำเนินการรวมและลดจำนวนสาขา เมื่อเล็งเห็นว่าลูกค้าที่เดินทางมาใช้บริการที่ตัวธนาคารมีจำนวนลดลงในยุคสมัยที่ผู้คนนิยมใช้บริการธนาคารผ่านอินเตอร์เน็ต

ที่มา: NHK, 28/7/2019

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net