Skip to main content
sharethis

หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 2 สัปดาห์ ผู้นำเกาหลีเหนือ คิมจองอึน ประกาศว่าการยิงขีปนาวุธรอบนี้เพื่อต่อต้านการซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ แต่สองประเทศนี้เคยระบุไว้ในสนธิสัญญาว่าจะไม่ซ้อมรบกันจริงหรือ? ทั้งนี้มีสื่อนำเสนอรายงานของสหประชาชาติที่ระบุว่าเกาหลีเหนืออาศัยการโจมตีทางไซเบอร์ต่อเงินสกุลดิจิทัล เพื่อนำเงินมาใช้กับโครงการอาวุธของตนด้วย

แฟ้มภาพเมื่อปี 2014 คิมจองอึน ในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพประชาชนเกาหลี เลขาธิการคนแรกของพรรคแรงงานเกาหลี เยี่ยมโรงเรียนการปฏิวัติมันยองแด ในโอกาสครบรอบ 68 ปีการก่อตั้งสหภาพเด็กเกาหลี (KCU) เมื่อ 6 มิถุนายน 2014 (ที่มา: Rodong Sinmun/แฟ้มภาพ)

คิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศเมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมาว่าการทดสอบยิงขีปนาวุธในสัปดาห์นี้เป็น "การเตือนอย่างพอประมาณ" ต่อการซ้อมรบระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ที่มีขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยที่ก่อนหน้านี้ในวันที่ 6 ส.ค. เกาหลีเหนือทำการปล่อยขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ (Short-range ballistic missile) ลงสู่ทะเลตะวันออกห่างออกไปจากคาบสมุทรเกาหลีทางตอนเหนือ 450 กม. ซึ่งถือเป็นการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

หลังจากการยิงขีปนาวุธในครั้งนี้ คิมจองอึนก็แถลงว่า "ปฏิบัติการทางทหารอาจจะเป็นโอกาสในการส่งสัญญาณเตือนอย่างพอประมาณให้กับการซ้อมรบร่วมกันที่กำลังดำเนินอยู่ในตอนนี้" 

สื่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ KCNA ระบุอีกว่าการทดสอบยิงขีปนาวุธดังกล่าวแสดงให้เห็น "สมรรถนะทางการสงคราม" ของสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นระบบจรวดนำวิถีพิสัยใกล้ชนิดใหม่

การยิงทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ทำการซ้อมรบร่วมกันตามกำหนดการถึงแม้ว่าทางการเกาหลีเหนือจะคัดค้าน โดยที่เกาหลีเหนือกล่าวประณามการซ้อมรบร่วมกันระหว่างสองชาติมานานแล้วก่อนหน้านี้โดยอ้างว่าเป็นการรุกราน สำหรับในปีนี้กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีเหนือก็ประณามการซ้อมรบว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงสันติภาพที่ฝ่ายเกาหลีใต้กับสหรัฐฯเคยทำร่วมกันไว้กับเกาหลีเหนือในปี 2561

ข้อตกลงสันติภาพในปี 2561 เกิดขึ้นหลังจากที่มีการเจรจาทางการทูตในเรื่องเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือและเกี่ยวกับประเด็นการทหาร ซึ่งการเจรจาดังกลาวนี้มีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธหลายครั้งในช่วงนั้น ในการเจรจาดังกล่าวมีการออก "ปฏิญญาพันมุนจอม" (Panmunjom Declaration) ฉบับปี 2561 ที่เน้นเรื่องความพยายามร่วมมือกันสิ้นสุดสงครามคาบสมุทรเกาหลีรวมถึงการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ

ในปฏิญญาดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงการห้ามซ้อมรบกันระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้อย่างชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร มีแค่การระบุถึงความร่วมมือระหว่างกันในการลดความตึงเครียดทางการทหารเพื่อขจัดความเสี่ยงเกิดภัยสงคราม อย่างไรก็ตามหลังจากการเจรจาที่สิงคโปร์ช่วงกลางปี 2561 ฝ่ายเกาหลีใต้ประกาศว่าเพื่อไม่ให้เป็นกระตุ้นเร้าเกาหลีเหนือพวกเขาจะยกเลิกการซ้อมรบกับสหรัฐฯ ในเดือนกันยายนของปีนั้น แต่ก็ไม่ได้กล่าวถึงหลังจากนั้น ขณะที่สหรัฐฯ ก็ระบุว่าพวกเขาจะไม่ซ้อมรบ "ในเชิงที่เป็นการกระตุ้นเร้า" แต่ก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด

ทั้งนี้สื่อบีบีซียังรายงานโดยอ้างอิงรายงานที่รั่วไหลของสหประชาชาติว่า ทางการเกาหลีเหนือได้ขโมยเงินเอามาทำงบประมาณโครงการอาวุธตัวเองด้วยวิธีการโจมตีทางไซเบอร์เพื่อขโมยเงินมาจากสถาบันทางการเงินและการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลดิจิทัล (crypto-currency) เป็นมูลค่ารวม 2,000 ล้านดอลลาร์

ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม จนถึงต้นเดือนสิงหาคม เกาหลีเหนือเริ่มการทดลองยิงอาวุธติดต่อกันหลายครั้งในช่วงสองสัปดาห์โดยอ้างว่าเพื่อทดสอบ "ระบบขีปนาวุธนำวิถีชนิดใหม่" (guided rocket system) แต่ทางการเกาหลีใต้ก็ระบุว่าในการยิงอาวุธของเกาหลีเหนือทั้ง 4 ครั้งล้วนเป็นประเภท "ขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้" ทั้งสิ้น

เรียบเรียงจาก

N. Korean leader says missile launches were 'warning' against allies' joint exercise, Yonhap News, 07-08-2019

North Korea 'stole $2bn for weapons via cyber-attacks', BBC, 07-08-2019

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

https://en.wikipedia.org/wiki/2018%E2%80%9319_Korean_peace_process

https://en.wikipedia.org/wiki/Panmunjom_Declaration

https://en.wikisource.org/wiki/Translation:Panmunjom_Declaration

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net