สื่อนอกระบุ รัฐบาลเซอร์เบียให้สัญชาติเซอร์เบียกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตรแล้วเมื่อ 27 มิ.ย. เผยแพร่ผ่านราชกิจจาฯ เซอร์เบีย 8 ส.ค. 62 ด้วยอำนาจตามกฎหมายการให้สัญชาติบุคคลที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศ ทักษิณระบุ เซอร์เบียอยากให้ทั้งสองไปช่วยสร้างประโยชน์ให้ประเทศ ทูตไทยในเบลเกรดปัดให้ความเห็น

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

9 ส.ค. 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยได้รับการรับรองสัญชาติเซอร์เบียโดยรัฐบาลเซอร์เบียแล้วเมื่อ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา

รัฐบาลเซอร์เบียตัดสินใจให้สัญชาติกับยิ่งลักษณ์โดยอาศัยข้อกฎหมายว่า "พลเมืองต่างชาติสามารถได้รับสัญชาติเซอร์เบียได้หากสอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศ" สื่อท้องถิ่นของเซอร์เบียเผยแพร่การรับรองสัญชาติที่การประกาศในราชกิจจานุเบกษา (Official gazette) ของเซอร์เบียเมื่อ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พี่ชายของยิ่งลักษ์ที่ขณะนี้ก็ลี้ภัยอยู่นอกประเทศไทย ให้ข้อมูลกับบีบีซีไทยทางโทรศัพท์ยืนยันว่ารัฐบาลเซอร์เบียได้มอบสัญชาติให้ยิ่งลักษณ์จริง โดยระบุว่า ทางเซอร์เบียได้อ่านประวัติของทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ และอยากให้ทั้งสองไปช่วยคิดให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองเขา บีบีซีไทยยังรายงานว่า นักการทูตไทยประจำกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบียปฏิเสธให้ความเห็นในกรณีดังกล่าว

ทักษิณได้รับสัญชาติมอนเตเนโกรเมื่อปี 2553 ปัจจุบันมอนเตเนโกรและเซอร์เบียได้แยกตัวออกจากกันแล้ว

ยิ่งลักษณ์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี เดินทางออกจากประเทศไทยก่อนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษาในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเมื่อ 25 ส.ค. 2560  จนถึงปัจจุบันยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าใช้วิธีใดในการออกนอกประเทศ

เมื่อ 27 ก.ย. 2560 ศาลฎีกาพิพากษาลับหลัง จำคุกยิ่งลักษณ์ 5 ปี โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่รอลงอาญา คดีดังกล่าวเลื่อนอ่านคำพิพากษามาจากวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากยิ่งลักษณ์ ไม่มาฟังคำพิพากษา โดยทนายเหตุผลว่าป่วยด้วยอาการน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วไม่เชื่อว่าป่วยหนักและมีพฤติการณ์หลบหนี จึงสั่งให้ออกหมายจับยิ่งลักษณ์ และปรับเงินประกัน 30 ล้านบาทตั้งแต่ครั้งนั้นด้วย

เมื่อ 9 ม.ค. 2562 เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสท์รายงานว่า ยิ่งลักษณ์ใช้หนังสือเดินทางกัมพูชาในการจดทะเบียนเป็นกรรมการของบริษัท พี.ที.คอร์ปอเรชั่น ที่ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อ 24 ส.ค. 2560  

เมื่อต้นปี 2561 มีภาพในโลกออนไลน์ว่ายิ่งลักษณ์ปรากฏตัวที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ทำให้มีกระแสว่ายิ่งลักษณ์จะยื่นคำขอเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่นั่น ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ได้อธิบายถึงหลักเกณฑ์การจะยื่นคำขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษว่า จะต้องมีเหตุผลสำคัญว่าไม่สามารถเดินทางกลับไปประเทศของตนได้เพราะเกรงกลัวว่าจะถูกกลั่นแกล้ง ข่มเหง รังแก ทำร้าย หรือ ถูกดำเนินคดี อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นกรณีในเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง หรือสิ่งอื่นใดที่จะทำให้ผู้ยื่นคำขอลี้ภัยอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกกลั่นแกล้ง ข่มเหง หรือ ถูกดำเนินคดี อันมีเหตุเนื่องมาจากสังคม วัฒนธรรม ศาสนา หรือสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ เป็นต้น