มงคลกิตติ์ แถลงไม่กลับไปร่วมรัฐบาลขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ อะไรดีก็โหวตให้ อะไรไม่ดีก็ไม่โหวต ซัดผู้ใหญ่ใน พปชร. ไร้สัจจะ เคยสัญญาอะไรไว้ไม่ทำตามต้องให้ออกมาเรียกร้อง ด้านธรรมนัสจับมือ 9 พรรคเล็กเดินหน้าหนุนรัฐบาลต่อ ระบุที่ผ่านมางานยุ่ง ต่อจากนี้จะใส่ใจพรรคเล็กให้มากๆ

13 ส.ค. 2562 มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วยกรรมการบริหารพรรค ได้แถลงข่าวถึงจุดยืนของพรรคไทยศรีวิไลย์ต่อการดำเนินการทางการเมือง และจุดยืนต่อการร่วมรัฐบาลว่า ทางพรรคมีมติเอกฉันท์ว่าจะเปลี่ยนสถานะจากพรรคร่วมรัฐบาล ไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ ที่ยืนข้างประชาชน หรือเรียกว่าเป็น ส.ส.ฝั่งประชาชน

มงคลกิตติ์ ระบุด้วยว่า การเป็นฝ่ายค้านอิสระนั้นไม่ได้หมายความจะไปร่วมไปฝ่ายค้านกับ 7 พรรคการเมือง แต่จะเป็นการทำงานที่ตรงไปตรงมา นโยบายใดที่ดีก็จะสนับสนุน ส่วนสิ่งใดที่ไม่ดีก็จะคัดค้าน ส่วนเหตุผลที่พรรคได้ร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้ เป็นไปเพราะต้องการเปิดสวิชประเทศไทยเพื่อให้ก้าวเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย อย่างสมบูณณ์ ทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้  และต้องการนำนโยบายของพรรคไปขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งยังทำไปเพื่อให้ ม.44 หายไป ส่งทหารกลับเข้ากรมกอง สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวด้วยว่ สาเหตุที่แถลงออกจากรัฐบาลครั้งนี้ เป็นเพราะ ในการทำงานในสภาในฐานะฝ่ายรัฐบาล ตนรู้สึกไม่มีอิสระในการทำงานตรวจสอบรัฐบาล มีการบล็อค ไม่ให้ปรึกษาหารือในเรื่องกระทู้สด และพรรค พปชร. ไม่ให้เกียจ ไม่นำนโยบาย ไปดำเนินการ สวนทางกันอย่างสิ้นเชิง อย่างเช่น การจัดซื้อเครื่องบินของการลินไทย อีกทั้งแนวคิดของนายอุตตม ที่เสนอให้เพิ่มภาษีน้ำมันพลักภาระให้ประชาชน ซ้ำเติมความเป็นอยู่ของประชาชนที่แย่อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีการออกนโยบายประชานิยม ซ้ำเติมปัญหาหนี้สาธารณะ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ใหญ่ในพรรค พปชร ไม่รักษาสัจจะในการเข้าร่วม รัฐบาลไม่ใส่ใจการแก้ปัญหาอย่างให้เกียรติ ต้องมาเรียกร้อง ซึ่งปัจจุบันมันสายไปแล้ว

มงคลกิตติ์ กล่าวถึงประเด็นสำคัญอีก ประเด็นหนึ่งคือ การที่นายกฯ และ ครม. ถวายสัตย์ไม่ครบ ว่าเป็นอีกเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ และปัจจุบันนี้ยังไม่มีกี่แสดงสปีริตทางการเมือง และยังไม่มีการแก้ไขให้ถูกต้อง

วันเดียวกัน 14.45 น. ที่อาคารทีพีแอนด์ที ชั้น 25 กลุ่ม 9 พรรคเล็ก ประกอบด้วย พรรคพลังชาติไทย, พรรคประชาภิวัฒน์, พรรคพลังไทยรักไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคประชานิยม, พรรคประชาธรรมไทย, พรรคพลเมืองไทย, พรรคพลังธรรมใหม่ และพรรคไทรักธรรม พร้อมด้วย ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้เริ่มแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ยืนยัน 9 พรรคการเมืองยังอยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม

สัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย กล่าวว่า กระแสข่าวในช่วงที่ผ่านมาอาจจะเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เพราะที่ผ่านมามีการประสานงานที่เป็นไปด้วยดีกับรัฐบาลมาโดยตลอด ยืนยันไม่ได้น้อยใจ ยังสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิม และสนับสนุนตลอดไป

ด้าน ธรรมนัส ยืนยันว่าทั้ง 9 พรรค ยังเหนียวแน่น ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ส่วนเรื่องตำแหน่งทางการเมือง ทั้ง 10 พรรค เองก็ได้เสนอชื่อและคุณสมบัติของแต่ละพรรคไปแล้ว แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดว่า ส.ส. ดำรงตำแหน่งบริหารไม่ได้ จึงมีการส่งตัวแทนเข้ามา ขณะนี้เรื่องถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้ว กระบวนการต่อไปคือนำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า

ส่วนพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ชี้แจงถึงกรณีการเคลื่อนไหวของ 5 พรรค ที่เคยมีข่าวออกมาในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ว่า เป็นเพียงแค่การส่งสัญญาณถึงรัฐบาล เพื่อให้ได้คำตอบที่จะนำไปตอบคำถามแก่สมาชิก แต่หลังจากส่งสัญญาณไป ท่านก็ส่งธรรมนัสมายืนยันว่าเรื่องที่ร้องขอไปถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ แล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่ได้จะออกไป เพียงแค่ขอให้ความสนใจเท่านั้น

นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ทั้ง 9 พรรค แบ่งภารกิจของพรรคเป็น 2 ส่วน คือ ทำหน้าที่ในสภาต่อไปในฐานะร่วมรัฐบาล พร้อมยืนยันว่า แม้แก้วร้าวก็สามารถหลอมใหม่ได้ แก้วแตกก็ติดกาวได้

ส่วนกรณีของการแถลงข่าวออกจากการร่วมรัฐบาลของมงคลกิตต์ นั้น นพ.ระวี ย้ำมิตรภาพยังมีอยู่เช่นเดิม อาจจะมีความคิดบางส่วนที่แตกต่าง แต่เหนียวแน่นในการที่จะทำให้รัฐบาลสร้างผลงานต่อประชาชน

ส่วนธรรมนัส กล่าวว่าสิ่งที่เคยแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมายังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง ในเรื่องของนายมงคลกิตต์ ก็ต้องให้เขาไปทำงานกับประชาชน ย้ำว่าหลังจากนี้จะกลับมาให้เวลาพรรคเล็กมากขึ้น ที่ผ่านมาลงพื้นที่หนัก ตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งจึงอาจไม่มีเวลา เมื่อถูกถามถึงกรณีที่มีการนำเอาป้ายของพรรคไทยศรีวิไลย์ออกนั้น นายธรรมนัสกล่าวว่า กับนายมงคลกิตต์คุยมาตลอด แต่ถ้าเขาอยากทำงานภาคประชาชน ก็ต้องให้เกียรติเขาในฐานะ ส.ส. ส่วน นายสัมพันธ์กล่าวว่า ที่เอาป้ายไว้ เพราะคิดว่าจะเจรจาให้กลับมาได้ อาจจะสื่อสารคลาดเคลื่อนหรือจะช้า เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่นายมงคลกิตต์ให้เหตุผลว่าการออกจากพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากกรณีถวายสัตย์ฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ นายสัมพันธ์กล่าวว่า เรื่องถวายสัตย์ฯเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่ผมจะออกความคิด พล.อ.ประยุทธ์ มีทางออกของท่านอยู่แล้ว ดูจากสีหน้าท่านไม่ได้มีความกังวลอะไร ท่านก็ใจเย็นกว่าเมื่อก่อนมากขึ้น