Skip to main content
sharethis

กลุ่มประชาชนรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอ 20 รายชื่อผู้ริเริ่มขอยกเลกรัฐธรรมนูญ 2560 เอาฉบับ 2540 กลับมาใช้ จากนั้นยุบสภาเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. ใหม่ จากนั้นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือตั้ง ส.ส.ร.เพื่อร่างใหม่ทั้งฉบับก็ไม่ใช่เรื่องยาก

15 ส.ค. ที่รัฐสภา เกียกกาย กลุ่มประชาชนรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญนำโดย อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง และเอกชัย หงส์กังวาน ได้เข้ายื่นเรื่องต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอริเริ่มล่ารายชื่อประชาชนเพื่อเสนอกฎหมายแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ 2560

เอกชัย ระบุว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 กำหนดให้ประชาชน 50,000 รายชื่อมีสิทธิ์เข้าชื่อเพื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย ซึ่งตามขั้นตอนจะแตกต่างจากการล่ารายชื่อ โดยขั้นตอนแรกจะต้องมีการรวบรวมรายชื่อผู้ริเริ่มเสนอกฎหมายไม่น้อยกว่า 20 รายชื่อ และต้องมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อประธานรัฐสภาก่อน จากนั้นต้องรอประธานรัฐสภาอนุมัติภายใน 15 วัน ซึ่งในวัน 10 ส.ค. ที่ผ่านมาทางกลุ่มได้เปิดรับรายชื่อสำหรับผู้ริเริ่มเสนอกฎหมายครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนดแล้ว

เขากล่าวต่อว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่ทางกลุ่มจะนำเสนอต่อสภานั้น ก่อนหน้านี้ได้ปรึกษาหารือกันและเห็นร่วมกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ตามมาตรา 256 เป็นไปได้ยาก แล้วมีหลายด่านที่จะฝ่าออกไปให้ได้เพื่อทำให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทางกลุ่มจึงเห็นควรให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ โดยให้นำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาบังคับใช้ใหม่จากนั้นให้มีการยุบสภาเลือกตั้งทั่วไปทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ภายใน 60 วัน

“เมื่อมีการจัดการเลือกตั้งแล้วเสร็จก็จะสามารถใช้รัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 313 ที่กำหนดให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาจากการโหวตร่วมกันของ ส.ส. และ ส.ว. โดยจะแก้ไขเป็นบางมาตราหรือตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมาใหม่ก็ไม่ยาก” เอกชัย กล่าว

เขากล่าวต่อว่า เมื่อยื่นเรื่องเสร็จแล้วจะต้องรอประธานรัฐสภาอนุมัติภายในสิ้นเดือนส.ค. หากไม่มีปัญหาอะไรก็จะเดินหน้าล่ารายชื่อประชาชนที่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ให้ได้ 50,000 รายชื่อเพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร

ด้านนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า การเสนอแก้ไขและธรรมนูญ 2560 เป็นแนวคิดที่ตรงกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะหากยังปล่อยให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ บังคับใช้ต่อไปก็จะทำให้ประเทศไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้

“เราเห็นปัญหาตั้งแต่เริ่มแรก ตั้งแต่การเลือกตั้งที่ไม่มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมไปจนถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีที่เปิดให้ ส.ว. เข้ามาร่วมโหวตด้วย ทำให้ได้นายกรัฐมนตรีที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน และมีอีกหลายมาตราที่ต้องได้รับการแก้ไข ผมเชื่อว่า หากสามารถยกเลิกได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดีเพียงแต่ว่าเวลานี้ยังมีอีกหลายเงื่อนไข” นิคมกล่าว

เขากล่าวต่อว่า เงื่อนไขที่สำคัญที่จะนำไปสู่การแก้ไขธรรมนูญได้คือจำเป็นต้องมีเสียง ส.ว. สนับสนุนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่มีอยู่ แต่เชื่อว่าหากประชาชนร่วมกันผลักดันให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ อีกไม่นานก็จะส่งให้มีการแก้ไขได้ และเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้ก็เริ่มเห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญเพราะทำให้รัฐบาลมีความอ่อนแอ การเมืองไม่เข้มแข็งและทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net