Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

มีคน “ดรามา” ออกมาเต้นเร่าๆ เรื่องการทุบทิ้งสถานทูตอังกฤษ บอกควรอนุรักษ์ไว้ ไม่สมควรเอาไปทำศูนย์การค้า ถ้าอยากอนุรักษ์ ทำไม่ไม่ซื้อไปเก็บไว้เองล่ะ

กรณี “ดรามา” ที่มีคนทำเป็นอยากอนุรักษ์อาคารสถานทูตอังกฤษเอาไว้เป็นการคิดที่ไร้ราก ฝืนความเป็นจริง ไร้แก่นสาร เอาแต่ได้ เห็นแก่ตัว หวังเพื่อสนอง “ตัณหา” ของตนเอง เป็นสำคัญ

สถานทูตอังกฤษก็คงรู้ว่า ถ้าขายที่ดินให้เอกชน แล้วให้เอกชนทุบตึกเอง ก็คงไม่ได้ เพราะพวก “นักอนุรักษ์” คงจะฮือกันมาขอให้ขึ้นทะเบียนเป็น “โบราณสถาน” ห้ามทุบทิ้ง แต่โชคดีที่กฎหมาย “สับปะรังเค” นี้ ไม่อาจครอบคลุมไปถึงทรัพย์ของชาวต่างชาติ ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดก่อนการขายหรือการโอนกรรมสิทธิ์ก็คือการให้สถานทูตทุบให้เรียบร้อยก่อนนั่นเอง

การเอาที่ดินผืนนี้ไปสร้างศูนย์การค้า บางท่านบอกว่าเป็นเชิงพาณิชย์ แล้วไง บาปหรือ การพัฒนาเป็นศูนย์ธุรกิจค้าปลีกแบบนี้ เป็นไปตามกระแส แม้แถวนี้จะมีศูนย์การค้ามากมายอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องไปกลัวล้นตลาดแทนเขา ในความเป็นจริง การสร้างเพิ่มก็จะทำให้เกิดเป็นศูนย์รวม คล้ายย่านถนนออร์ชาร์ดของสิงคโปร์ที่ศูนย์การค้าเรียงรายอยู่มากมาย ถ้าเรามีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ดีกว่านี้ เราก็จะได้ภาษีเข้ามาบำรุงท้องที่ได้อีกมหาศาลในแต่ละปี

การที่กฎหมายคร่ำครึของไทย (พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504) ไปเที่ยวประกาศขึ้นทะเบียนอาคารโน่นนี่ ถือเป็นการละเมิดสิทธิของคนอื่น แทนที่เจ้าของที่ดินจะขายทรัพย์เพื่อนำไปใช้หนี้ หรือพัฒนาในทางอื่น กลับต้องถูกจำกัดสิทธิ นี่เท่ากับเป็นการทำให้ “คนตายขายคนเป็น” สร้างภาระแก่คนรุ่นหลังโดยแท้

ทางออกสำหรับการอนุรักษ์ก็ยังมี เช่น

1. กรมศิลปากรหรือพวกที่อยากอนุรักษ์ (ใจจะขาด) ก็รวบรวมเงินไปซื้อ “โบราณสถาน” พร้อมที่ดิน เอามา (จุดธูป) บูชาเสียเลย จะได้ไม่สร้างปัญหาแก่คนอื่น

2. กรมศิลปากรควรขออนุญาตเจ้าของอาคารรื้อย้ายตึกไปสร้างยังที่ใหม่ แต่กรณีสถานทูตอังกฤษ เหล่านักอนุรักษ์ กลับปล่อยให้มีการทุบตึกซะเฉยๆ แทนที่จะขอไปสร้างในที่ใหม่ที่อย่างน้อยก็สามารถเก็บรักษาอาคารไว้ได้ ถ้าอยากได้จริงๆ

3. ในหลายประเทศ หลายมหานคร เช่น โตเกียว โตรอนโต ฯลฯ เขาก็เก็บรักษาอาคารเดิมไว้บนที่เดิมก็มี แต่อนุญาตให้สร้างอาคารสมัยใหม่คร่อมลงไปเลย จะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่กฎหมายคร่ำครึของไทย จะให้อนุรักษ์ไว้อย่างเดียว

ที่น่าอนาถสำหรับการอนุรักษ์แบบไทยๆ ก็คือ พอได้อาคารโบราณสถานมาแล้ว ก็ทิ้งๆ ขว้างๆ ดูแลได้ไม่ดีเท่าที่ควร สุดท้าย ก็ปรักหักพัง หรือถูกรื้อค้นทำลาย อย่างวัดที่มีสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน ถ้าไม่ย้ายไปเก็บในพิพิธภัณฑ์ กรมศิลปากรก็ควรจัดเวรยามเฝ้า ไม่ใช่ปล่อยให้มีขโมยข้าวของไป แต่กรมฯ ก็อาจอ้างว่าไม่มีงบประมาณ มีแต่เสียงโวยวายแบบไฟไหม้ฟาง!

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net