Skip to main content
sharethis

7 พรรคฝ่ายค้านแถลงเตรียมยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเหตุนายกรัฐมนตรีหลีกเลี่ยงตอบกระทู้สด ปมถวายสัตย์ขัดรัฐธรรมนูญ ชี้ไม่ได้หวังล้มรัฐบาล เพียงแต่ต้องการทำให้การดำเนินการของรัฐบาลถูกต้อง ย้ำถ้าเปิดอภิปรายได้รับรองว่าไม่ได้มีเพียงเรื่องเดียวแน่นอน

15 ส.ค. 2562 ที่รัฐสภา เกียกกาย วิปฝ่ายค้านนำโดย น.อ.เอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ, จิรายุ ห่วงทรัพย์, สุทิน คลังแสง, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และพล.ท.พงศกร รอดชมภู ร่วมแถลงถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีท่าทีในการหลีกเลี่ยงการตอบกระทู้สดของฝ่ายค้านปมถวายสัตย์ขัดรัฐธรรมนูญ โดยเวลานี้ 7 พรรคฝ่ายได้ปรึกษาหารือกันแล้วว่าจะยื่นญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152

น.อ.เอกอนุดิษฐ์ กล่าวว่า กรณีนี้สืบเนื่องจากการที่พลเอกประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ไม่เข้ามาตอบกระทู้สดในสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณของคณะรัฐมนตรีที่ไม่ครบถ้วน ต่อองค์พระมหากษัตริย์ที่ โดยชี้ว่าเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อยื่นเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะมาชี้แจงต่อสภา อย่างไรก็ตามฝ่ายค้านเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์อาจจะยังไม่เข้าใจว่าการปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีตามระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนนั้น ตัวนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่รับผิดชอบต่อรัฐสภาโดยตรง

“เรื่องดังกล่าวเป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก และสะท้อนให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ยังมีความรู้ความเข้าใจในระบบรัฐสภาที่มาจากประชาชนคลาดเคลื่อน เพราะการตั้งกระทู้ถามคือคำถามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถามต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตอบในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของรัฐบาล หรือเรื่องสำคัญที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชน กระทบต่อพี่น้องประชาชน และเป็นเรื่องเร่งด่วน” น.อ.อุนดิษฐ์

น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวต่อว่า ความพยายามตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีใน 2 ครั้งที่ผ่านมา เกิดจากการกระทำของนายกรัฐมนตรีที่มีความบกพร่อง หรือผิดพลาด และสิ่งที่สำคัญคือมีลักษณะที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญ การถวายสัตย์ปฏิญาณที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญนั้นส่งผลให้การดำรงอยู่ของคณะรัฐมนตรีอยู่ในสภาวะที่สุ่มเสี่ยงว่าจะเป็นโมฆะ ฉะนั้นนายกรัฐมนตรีจำเป็นต้องชี้แจงต่อสภาอย่างเร่งด่วน แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในเวลานี้คือการปล่อยปละละเลย

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันได้ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค ไม่มีความจำเป็นใดที่จะใช้กรณีการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญมาเป็นประเด็นโจมตีรัฐบาลตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวหา เพียงแต่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องทำการตรวจสอบ ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการใดใดก็จะถูกตีความได้ว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงอยากเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายเข้าใจอำนาจหน้าที่ของตัวเอง และให้เกียรติการทำหน้าที่ของฝ่ายอื่นๆ ด้วย

“เราไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสภาเช่นนี้อีก หากนายกรัฐมนตรียืนยันว่าได้เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบช่องทางอื่นแล้ว และจะไม่ยอมเข้ารับการตรวจสอบจากรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง ฝ่ายค้านเองก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เพื่อเสนอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงจากตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะไม่มีเพียงแค่การตรวจสอบเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณเพียงเรื่องเดียวแน่นอน”

ด้านจิรายุกล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมามีผู้รู้ฝ่ายรัฐบาล พยายามออกตัวแทนนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องดังกล่าวมีการร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ก็จะต้องมีการส่งเรื่องต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ที่ออกมารับรองเช่นนี้อาจจะอ่านกฎหมายไม่ครบถ้วน เนื่องจากกฎหมายกำหนดไว้ว่ากระบวนการของผู้ตรวจการแผ่นดินจะต้องมีการหารือโดยเฉพาะเรื่องที่มีการขัดกันของบทบัญญัติรัฐธรรมนญ จึงจะส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ แต่ก็รณีของพล.อ.ประยุทธ์นั้น เป็นกรณีของบุคคลซึ่งจะต้องส่งเรื่องไปยังศาลปกครอง ตามมาตรา 231 (2) นั่นหมายความว่าเรื่องนี้จะต้องอยู่ในกระบวนการของผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

ด้วยระยะเวลาที่นานพอสมควรในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว จิรายุ ระบุว่า ฝ่ายค้านมีความเป็นห่วงว่า การดำเนินการของคณะรัฐมนตรีในช่วงที่ผ่านมา และในอนาคตที่จะมีการพิจารณางบประมาณประจำปีอาจจะอยู่ในความคลุมเครือเพราะหากศาลพิจารณาออกมาแล้วไม่เป็นคุณต่อคณะรัฐมนตรี ก็จะมีปัญหาตามมาภายหลัง พรรคฝ่ายค้านจึงมีมติร่วมกันว่า การเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมตินั้นจะเป็นการช่วยหาทางออกให้กับรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี

พล.ท.พงศกร กล่าวด้วยว่า การดำเนินการของฝ่ายค้านในครั้งนี้ไม่ใช่ความพยายามในการล้มล้างรัฐบาล แต่คือความพยายามให้การข่วยเหลือให้รัฐบาลทำในสิ่งที่ถูกต้อง และที่ผ่านมาได้พยายามตั้งกระทู้ถามสดไปแล้ว 2 ครั้งแต่นายกรัฐมนตรีกลับไม่มาตอบคำถาม ซึ่งในหลักการแล้วไม่สามารถหลีกเลี่ยงในลักษณะนี้ได้ นอกจากจะชี้แจงเหตุผล และความจำเป็นที่ทำให้ไม่สามารถเดินทางมาตอบคำถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งต่อไปพรรคฝ่ายค้านก็จะตั้งกระทู้ถามสดอีก และคาดหวังว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาตอบคำถาม

พล.ท. กล่าวต่อถึง การแถลงนโยบายต่อรัฐสภามาที่ไม่ได้ระบุถึงแหล่งที่มาของเงินอย่างชัดเจนที่จะนำมาดำเนินนโยบาย เรื่องนี้ก็อาาจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเช่นกัน และฝ่ายค้านพยายามให้คำแนะนำกับรัฐบาลเพื่อจะได้เดินหน้าพาประเทศชาติก้าวหน้าต่อไป เพราะหากปล่อยให้อยู่ในสภาวะที่คุมเครือในลักษณะนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของต่างประเทศ และการทำสัญญาต่างๆ ระหว่างรัฐบาลกับต่างประเทศก็จะติดขัดปัญหาเรื่องความไม่ชัดเจนว่า การลงนามในสัญญานั้นมีอำนาจอย่างแท้จริงหรือไม่

ด้านสุทิน ระบุว่า จะมีการยืนญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวันที่ 16 ส.ค. เวลา 08.30 น. โดยได้ประสานกับประธานสภาฯ ไว้เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าสมาชิกพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรคจะลงชื่อครบทุกคน ส่วนการเปิดอภิปรายทั่วไปนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใดเป็นอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาของประธานรัฐสภา ซึ่งทางพรรคฝ่ายค้านคาดหวังว่าจะได้ดำเนินการโดยเร็วที่สุด หรือหลังจากเสร็จสิ้นการพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net