ป.ป.ช. ชี้มูล 'รองเลขา ป.ป.ช.' ฐานจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน 227 ล้าน ส่งศาลฎีกาดำเนินคดี พร้อมตั้งกก.สอบวินัย เจ้าตัวแถลงยันยินดีให้ข้อมูล ส.ส.ถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ ระบุถูกกลั่นแกล้ง แจงประเด็นห้องชุดหรูใจกลางลอนดอน ภรรยาถือกรรมสิทธิ์แทนคนอื่น เหตุทำธุรกิจร่วมกัน
ที่มาภาพ เพจ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยนาท NACC Chainat·
15 ส.ค.2562 จากกรณีที่วันนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. แถลงว่า ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด ประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการป.ป.ช. จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2560 ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการอันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน 6 รายการ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของ ธนิภา พวงจำปา คู่สมรส โดยเป็นทรัพย์สินในประเทศ 2 รายการ รวม 2,010,000 บาท และทรัพย์สินในต่างประเทศ 4 รายการ รวม 225,383,103 บาท มูลค่ารวม 227,393,103 บาท
โดย วรวิทย์ กล่าวว่า ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำของนายประหยัด มีความผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 167 โดยมีมติให้ส่งอัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ศาลประทับรับฟ้อง ให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครเลือกตั้ง พร้อมขอให้ลงโทษทางอาญาตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 158, 43, 81, 167 และ 188 ต่อไป พร้อมกันนี้ สำนักงานป.ป.ช.จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยต่อไป ส่วนการตั้งคณะกรรมการไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกตินั้น อยู่ระหว่างดำเนินการของคณะกรรมการป.ป.ช.
ขณะที่ต่อมา ประหยัด แถลงข่าวยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะปกปิดบัญชีทรัพย์สิน แต่เป็นความบกพร่องของภรรยาที่เข้าใจคลาดเคลื่อน ในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งกรรมสิทธิ์การถือครองห้องชุดที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษนั้น เป็นการที่ภรรยาถือครองกรรมสิทธิ์แทนบุคคลอื่นที่ทำธุรกิจร่วมกัน และในภายหลังได้ยื่นเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการแล้ว
นอกจากนี้ การกล่าวหาว่า มีทรัพย์สินมากกว่า 200 ล้านบาทนั้น เป็นเท็จ เพราะตัวเองไม่เคยมีทรัพย์สินจำนวนมากขนาดนั้น เชื่อว่า การชี้มูลความผิดครั้งนี้ เป็นการกลั่นแกล้ง เพราะที่ผ่านมา เคยเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. ร่วมกับ นายวรวิทย์ สุขบุญ มาก่อน และเมื่อมาเป็นรองเลขาธิการ ก็ถูกลดบทบาทหลายอย่าง
ประหยัด กล่าวด้วยว่า การชี้มูลความผิดครั้งนี้ เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบหลายอย่าง ไม่เคยเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ชี้แจงด้วยวาจา ตามที่ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง นอกจากนี้พยานเอกสารที่ใช้กล่าวหา เช่น หนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจากต่างประเทศยังไม่มีการพิสูจน์ว่า ได้มาโดยชอบและข้อเท็จจริงตามนั้นหรือไม่ ยังไม่รวมถึงการพิจารณาที่เร่งรัดอย่างผิดปกติ จึงได้ยื่นฟ้อง นายวรวิทย์ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาคหนึ่ง มาตรา 157 ไปแล้ว และหากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและภาคประชาชนต้องการที่จะถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ ให้แจ้งมาที่ตัวเองได้ โดยพร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ส่วนที่มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีเครือ ปตท. ลงทุนปลูกปาล์มที่อินโดนีเซียนั้น รองเลขาธิการป.ป.ช. ระบุว่า คดีนี้เกิดขึ้นนานมาก และไม่เคยยุ่ง ตัวเองเคยไปอินโดนีเซียแค่ครั้งเดียวกับ วิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. โดยไปศึกษาดูงาน ตัวเองและภรรยาไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ ปตท. แต่เห็นว่าเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน จึงมีการเชื่อมโยงกันไปเอง
ด้าน เลขาธิการป.ป.ช. ตอบประเด็นกระแสข่าว สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ถูกฟ้องร้องกล่าวหาว่าติดสินบนพยานขณะสอบคดีปลูกปาล์มน้ำมันที่อินโดนีเซียว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบรายละเอียดของข่าวดังกล่าวในประเทศอินโดนีเซีย ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และได้ตรวจสอบข่าวจากประเทศอินโดนีเซียแล้ว ไม่พบข่าวดังกล่าว การเดินทางไปอินโดนีเซียไปเป็นคณะในฐานะผู้สังเกตการณ์ ส่วนน.ส.สุภา จะฟ้องร้องกลับหรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องส่วนตัว
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์และไทยรัฐออนไลน์