'ธนาธร' ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พูดคุยเกษตรกรชาวสวนยาง 'สุดารัตน์' ระบุ 'ประยุทธ์' ควรหารือในสภาฯ ร่วมกันคิดแก้ปัญหาปมถวายสัตย์ฯ 'พปชร.' ไม่หวั่นฝ่ายค้านยื่นอภิปรายปมถวายสัตย์ฯ 'ภูมิใจไทย' พร้อมปรับการทำงานของ รมต.-ส.ส.ให้ลงตัว หลังมีชื่อขาดประชุมสภา 'ปชป.' จัดงานระดมสมองสร้างสรรค์ 4DNA

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

17 ส.ค. 2562 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช แลกเปลี่ยนข้อมูลกับประชาชนเกี่ยวกับการแปรรูปยางพารา ที่สหกรณ์กองทุนสวนยางโสตประชา จำกัด ซึ่งเป็นโรงแปรรูปยางพาราให้เป็นแผ่นปูพื้นยาง 

นายธนาธร กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่จะได้มาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปรรูปยาง ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินไปทางดูโรงงานแปรรูปยางในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด เพื่อเรียนรู้การแปรรูปยางที่หลากหลาย ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลพยายามคิดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ซึ่งจะมีเรื่องของยางและสินค้าเกษตรอื่นๆอยู่ด้วยนั้น ตนเห็นว่ามีความจำเป็นในระยะสั้น  แต่ทุกวันนี้ พืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ปาล์ม ข้าว มันสำปะหลัง ต่างได้รับผลกระทบราคาตกต่ำ ดังนั้น มาตรการอุดหนุนราคาสินค้าเกษตรมีความจำเป็น แต่ในระยะยาวต้องอยู่ที่การแปรรูป

“มาเลเซียวันนี้กลายเป็นผู้นำเข้ายางพาราแล้ว จากที่เมื่อหลายสิบปีก่อนเป็นผู้ส่งออกยางพาราแข่งกับประเทศไทย ที่ผ่านมามาเลเซียพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการแปรรูปอย่างจริงจังมาก จนกลายเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ทำจากยางไปแล้ว วันนี้ที่ด่าน สินค้าที่ส่งออกจากบ้านเราเป็นหลักคือ ยางพาราดิบ แม้ดูเหมือนจะดี แต่ในอีกนัยหนึ่ง กลายเป็นว่ามูลค่าเพิ่มจากยางพาราของไทยไปอยู่ที่มาเลเซียหมด ผมคิดว่า นี่คือจังหวะเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆ เพื่อให้สินค้าเกษตรของประเทศไทยได้ถูกแปรรูปด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ส่วนการนำยางพาราไปทำถนนนั้น งานวิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์ยังสับสนอยู่ว่าสามารถทำได้หรือไม่ จึงอยากผลักดันให้มีการวิจัยอย่างจริงจังสักหนึ่งปี เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่คิดว่าใช้การได้มากที่สุด และนำมาทดสอบอย่างจริงจัง ก่อนที่จะนำมาผลิต เพราะวันนี้ต้องนำของที่มีอยู่มาแปรรูปให้เกิดมูลค่า ตอบสนองชีวิตของประชาชน มูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นก็จะไม่หนีไปต่างประเทศ 

นายธนาธร กล่าวว่าวันนี้แม้พรรคอนาคตใหม่เป็นฝ่ายค้าน แต่อะไรที่พอจะทำได้  จะพยายามผลักดันให้ดีที่สุด หากอนาคตได้เป็นรัฐบาล ก็จะสามารถนำความรู้ที่ได้มา ไปผลักดันนโยบายได้อย่างเต็ม

'สุดารัตน์' ระบุ 'ประยุทธ์' ควรหารือในสภาฯ ร่วมกันคิดแก้ปัญหาปมถวายสัตย์ฯ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติของเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 กรณีการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณฯของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงมีการเรียกร้องให้นายกฯ มาชี้แจงในสภาฯ ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่ต้องเรียกร้อง แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ วันนี้สิ่งที่ต้องพูดถึงคือการถวายสัตย์ปฎิญาณฯ ไม่ครบถ้วน และการแถลงนโยบายไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้การทำผิดไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากการใช้รัฐธรรมนูญ 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีทำในสิ่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหลายครั้ง แต่ในอดีตมีมาตรา 44 ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ใช้เว้นมาตราต่างๆของรัฐธรรมนูญ 

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนกลัดกระดุมเสื้อ ถ้าเม็ดแรกผิด เม็ดต่อไปก็ผิดหมด และการที่ฝ่ายค้านเสนอให้แก้ปัญหาถือเป็นความหวังดี เพราะกลัวว่าการทำงานของรัฐบาลจะเป็นโมฆะ หากเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา เช่นการอนุมัติโครงการต่างๆ จากคณะรัฐมนตรีอาจเกิดปัญหา หากในอนาคตศาลตัดสินว่าผิดรัฐธรรมนูญจริง 

“เราเปิดการอภิปรายทั่วไป ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายนายกฯ เพียงแต่คิดว่าเมื่อนายกฯ ไม่มีปัญญาแก้ไข ปัญหาด้วยตนเอง ก็เอาเข้าสภาฯ ให้ร่วมกันคิด ร่วมกันแก้ นายกฯคิดอย่างไร สภาฯ มีความเห็นอย่างไรก็ปรึกษากัน ให้ถูกต้องและจะได้แก้ในสิ่งที่ผิดกฎหมายให้ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าพยายามพูดว่าเหมือนจะจองล้างจองผลาญไม่จบ ซึ่งไม่มีใครอยากจองล้างจองผลาญ แต่สิ่งที่ทำเป็นไฟที่ตัวนายกฯ จุดขึ้นมาเองและก็เผาไหม้ตัวเอง พรรคฝ่ายค้านก็เพียงแค่จะไปช่วยดับให้ จะได้มาช่วยทำงานให้กับประชาชน ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ทำตัวเองทั้งนั้น ดังนั้นอย่ากลัวสภาฯ  นายกฯ ต้องไปทำความเข้าใจกับระบอบประชาธิปไตย และการทำงานในระบบรัฐสภาใหม่ นายกฯ จะกลัวการเข้าสภาฯ เหมือนเด็กกลัวเข้าบ้านผีสิงอย่างที่สื่อมวลชนเขียนไม่ได้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว 

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าจำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า  เรื่องนี้มีระบบอยู่แล้ว ทางผู้ตรวจการแผ่นดินก็ทำไป ทางสภาฯ ก็ดำเนินการไป รัฐธรรมนูญมีมาตรา 152 ให้มีการปรึกษาหารือกัน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วเหตุใดจึงไม่ใช้สภาฯแก้ไขปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มาจากวิถีประชาธิปไตย ต้องไม่กลัวสภาฯ

'พปชร.' ไม่หวั่นฝ่ายค้านยื่นอภิปรายปมถวายสัตย์ฯ

นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติ ตามมาตรา152 ของรัฐธรรมนูญ กรณีการกล่าวคำถวายสัตย์ปฎิญาณฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า มั่นใจว่านายกรัฐมนตรีสามารถชี้แจงได้ตามกลไกระบบรัฐสภา ที่สำคัญเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ทั้งนี้เห็นว่า ฝ่ายค้านควรรอการพิจารณากระบวนการตรวจสอบก่อน มากกว่าจะมายื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพราะฝ่ายค้านก็ไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้ และรัฐบาลจะได้ไปทำงานให้กับประชาชน ไม่ควรต้องมาวุ่นวายกับเกมในสภาฯ

นายธนกร กล่าวว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรียืนยันแล้วว่ามีขั้นตอนแก้ปํญหา และมีฝ่ายกฏหมายดูแลอยู่ ซึ่งไม่เข้าใจพรรคฝ่ายค้านที่พยายามเอาเป็นเอาตายกับเรื่องนี้มาก ทั้งที่สุดท้ายแล้วก็ทราบแก่ใจดีว่าจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันรู้สึกเห็นใจนายกรัฐมนตรี ที่ทำอะไรก็ไม่ถูกใจฝ่ายค้าน แต่ก็ไม่ท้อถอย ยังคงมุ่งมั่นทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะการรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา โดยจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การกระตุ้นการท่องเที่ยว

'ภูมิใจไทย' พร้อมปรับการทำงานของ รมต.-ส.ส.ให้ลงตัว หลังมีชื่อขาดประชุมสภา

พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง กรณีมีข่าวว่ารัฐมนตรีและส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ขาดประชุมสภาผู้แทนราษฎร และไม่ได้ลงมติในการพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภาฯ ว่า ทั้งรัฐมนตรี และส.ส. ที่ไม่ได้เข้าประชุมต่างมีเหตุผลจำเป็น โดยเฉพาะนายอนุทิน ที่ทำภารกิจช่วยเหลือประชาชนและผู้ป่วย ซึ่งเป็นงานที่มีกำหนดการไว้ล่วงหน้า และเป็นภารกิจสำคัญที่นายอนุทิน ต้องไปด้วยตัวเอง และหากในอนาคต รัฐมนตรีของพรรคจะต้องลาประชุม ก็จะอยู่บนพื้นฐานของงานที่มีความจำเป็นและเป็นงานสำคัญจริงๆ 

“ยืนยันว่ารัฐมนตรีและส.ส.ของพรรคทุกคนให้ความสำคัญกับงานในสภาฯ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเป็นการเริ่มต้นทำงานทั้งในฐานะส.ส. และรัฐมนตรี ก็อยู่ในช่วยการปรับการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกัน ทั้งงานในหน้าที่ส.ส. และรัฐมนตรี อยากให้สังคมเข้าใจการทำหน้าที่ของเรา ที่ได้พยายามให้ความสมดุลทั้งงานในสภาฯ และงานในหน้าที่รัฐมนตรี ซึ่งเป้าหมายของงานทั้งสองหน้าที่ก็ทำเพื่อประชาชน ขอยืนยันว่าพวกเราชาวภูมิใจไทย เข้ามาทำงานโดยคิดถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนมาก่อน” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

'ปชป.' จัดงานระดมสมองสร้างสรรค์ 4DNA

พรรคประชาธิปัตย์ จัดงานประชุม “ระดมสมองสร้างสรรค์ พรรคประชาธิปัตย์ด้วยศาสตร์ 4 DNA”  ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน  พร้อมด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค ประธานสาขา ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์จากทั่วประเทศ เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

นายจุรินทร์ กล่าวเปิดงานว่า งานนี้ถือเป็นจัดประชุมระดมสมอง ระดมความคิดจากทุกภาคส่วน หาคำตอบร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การสร้างแบรนด์ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ โดยทุกคนมีส่วนร่วมให้มีความแข็งแกร่ง เพราะเมื่อประชาธิปัตย์มีความแข็งแกร่ง ก็จะมีโอกาสชนะการเลือกตั้งได้มากขึ้น โดยการสร้างแบรนด์ภายใต้ศาสตร์ 4 DNA จะนำประชาธิปัตย์ไปสู่ยุค อุดมการณ์ ทันสมัย โดยคำว่า อุดมการณ์ คือ ประชาธิปัตย์ยึดมั่นอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน ยังยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย การปกครองระบอบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พร้อมยึดมั่นทำงานเพื่อประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อีกทั้งมุ่งมั่นตั้งใจพาประชาธิปัตย์ไปสู่ความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม อุดมการณ์อย่างเดียวไม่พอ ยังต้องมีความทันสมัยด้วย

"เราจะมาค้นหา DNA ของประชาธิปัตย์ เพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างแบรนด์ เปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างสโลแกน เปลี่ยนแปลงไปสู่การออกแบบสัญลักษณ์ เปลี่ยนแปลงไปสู่การกำหนดนโยบาย การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน การสร้างภาพลักษณ์ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ โดยนำ DNA ของประชาธิปัตย์ที่ทุกคนมีส่วนร่วมมาออกแบบ และจะนำไปสู่การใช้ในรูปแบบนามธรรม และรูปธรรมต่อไป"หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2] [3] [4] [5]